Maison Valentino ร่วมกับ Tissu Market นำผืนผ้าที่มีอยู่กลับมาสร้างสรรค์อย่างมีคุณค่าและงดงาม
Maison Valentino ยังคงมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสืบสานเจตนารมณ์อันแรงกล้าที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ในการกลับมาครั้งนี้เมซงได้ร่วมมือกับ Tissu Market ภายใต้ชื่อ “Valentino Sleeping Stock” ซึ่งเป็นการนำผ้า “Sleeping” และสิ่งทอกลับมาใช้ใหม่อย่างสร้างสรรค์ เปรียบดั่งการปลดปล่อยความงดงามที่หลับใหลอยู่ภายใต้ความมืดมิดให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และยังคงไว้ซึ่งผลงานตัดเย็บอันประณีตจากช่างฝีมือผู้ชำนาญการจากในคอลเล็กชั่น Haute Couture และ Prêt-à-porter ทั้งสำหรับเครื่องแต่งกายสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ
การร่วมมือกันระหว่างเมซงกับ Tissu Market ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ขับเคลื่อนด้วยจิตสำนึกของเมซงเป็นอย่างดี และบอกเล่าเรื่องราวผ่านความใส่ใจในการตอบแทนความเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งได้รับการยอมรับจาก French Seller ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2553 โดย Franck Lallouche ซึ่งถือเป็นพาร์ทเนอร์ในอุดมคติ อันเป็นผลพวงมาจากประสบการณ์แสนล้ำค่า ผสมผสานความเอาใจใส่ต่อมูลค่าของสิ่งทอ พร้อมส่งมอบความสร้างสรรค์และสร้างความเชื่อมโยงไปสู่ผู้คนที่อยู่ในวงการแห่งศิลปะ ภาพยนตร์ โอเปร่า การละคร และสถาบันแฟชั่น
ผ้าชีฟอง,ผ้าแพรแข็ง, ผ้าซาติน, ผ้าไหมพิมพ์ลายดอก, ผ้าไหมจอร์เจ็ตต์ และ ผ้าลูกไม้ guipure ที่ใช้ในคอลเล็กชั่นของเมซง ที่เก็บรักษาไว้ และที่ไม่ได้มีจุดประสงค์สำหรับการใช้งานอีกต่อไปได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นความมุ่งมั่นของเมซงในการฟื้นฟูความสง่างามและสะท้อนถึงคุณค่าของสิ่งเหล่านี้มาอย่างยาวนาน
เป้าหมายอันสูงสุดของเมซงที่แสดงผ่านการร่วมมือนี้ รวมไปถึงโปรเจกต์อื่นๆ ที่เมซงพร้อมส่งเสริมและสนับสนุนนั้น มีเป้าหมายในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ถ่ายทอดคุณค่าและมรดกไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งยังคงพัฒนาต่อไปเพื่อค้นหาทางเลือกใหม่สำหรับการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก เพื่อเป็นเกียรติแก่ความคิดสร้างสรรค์และการนำผ้ากลับมาใช้ใหม่ ผ่านโปรเจกต์ที่ต่างๆ ของเมซงที่แสดงถึงการรังสรรค์และวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าจดจำทว่าไม่เคยบอกเล่าผ่านที่ไหนมาก่อน จึงได้ถูกในกลับมาพูดถึงและใช้งานอีกครั้ง กลับมาเป็นตัวแทนของความคิดสร้างสรรค์และการใช้งานรูปแบบใหม่
“ความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งที่มีร่วมกัน ถือเป็นกำเนิดของความคิดริเริ่มในครั้งนี้ การอัพไซเคิลนี้นับเป็นการผลักดันสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมแฟชั่น การแสวงหาในความเป็นเลิศ การมีส่วนร่วม และความมุ่งมั่นอย่างสร้างสรรค์ เต็มไปด้วยค่านิยมที่เราร่วมแบ่งปันกันและจะเป็นแนวทางหลักสำหรับการร่วมมือในขั้นต่อไป”
Frank Lellouche ผู้ก่อตั้ง Tissu Market
ความร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ ระหว่างเมซง และ Tissu Market ที่นำผ้าใช้ใน โอกูตูร์ และ Prêt-à-porter ความยาวรวมประมาณ 22,000 เมตรมาใช้ใหม่อีกครั้ง ทำให้สามารถลดการปล่อย CO2e ไปได้กว่า 265 ตัน ที่จะถูกสร้างขึ้นหากผลิตผ้าผืนใหม่ เทียบเท่ากับปริมาณที่ผืนป่าขนาด 5 เฮกตาร์สามารถกำจัด CO2e ได้ในหนึ่งปี นอกจากนี้โปรเจกต์นี้ยังสามารถทำให้ลดปริมาณการใช้น้ำไปได้อีกประมาณ 1.105.645 ลบ.ม. ซึ่งปริมาณเทียบเท่ากับปริมาตรของสระว่ายน้ำโอลิมปิกถึง 442 สระ
การฟื้นฟูอย่างมีคุณธรรม เป็นดั่งเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับเมซง โดยรายได้ทั้งหมดจากการขายผ้าให้กับ Tissu Market จะถูกนำไปบริจาคให้ Valentino’s Bottega dell’Arte ซึ่งเป็นโปรแกรมการฝึกอบรมระยะเวลาหกเดือน ที่เริ่มขึ้นในปี 2558 เพื่อจุดมุ่งหมายสำหรับการฝึกทักษะการตัดเย็บอย่างมืออาชีพ และการเป็นผู้ชำนาญการในด้านการตัดเย็บเครื่องแต่งสุภาพบุรุษประจำเมซงแก่คนรุ่นต่อไปให้ทวีคูณตลอดจนการส่งเสริม ความรู้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมซง
ก่อเกิดจากความเคารพอย่างลึกซึ้งและความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเมซงที่มีต่อคนรุ่นใหม่ พร้อมเกิดความคิดริเริ่มขึ้นนี้จึงสอดคล้องกับเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์โดยมุ่งสร้างโอกาสในการเติบโตและการพัฒนาเพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และมอบแนวทางสายอาชีพที่ทำให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากประสบการณ์เหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังเติบโตขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
และแน่นอนว่านี้คือวิธีที่การสิ้นสุดวงจรอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งถ่ายทอดผ่านผืนผ้าที่โอบล้อมไปด้วยช่วงเวลาชีวิตมากมายในคอลเล็กชั่นนี้ที่ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์อย่าง ปิแอร์เปาโล ปิชโชลี ยังคงเป็นบุคคลในการค้นหาความงดงามขั้นสูงสุด ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่บ่งบอกความเป็นมาในก่อนและหลังของเมซง นั้นแท้จริงแล้วคือ Maison de Couture แห่งแรก โดยสื่อสารออกมาอย่างโปร่งใสผ่าน Tissu Market ที่ได้แสดงให้เห็นว่าสามารถเข้าถึงกับเมซงได้มากขึ้น และสามารถใช้รังสรรค์ผลงานของตนเองได้อีกเช่นกัน
สำหรับกระบวนการที่นำผืนผ้ากลับมารังสรรค์ใหม่ร่วมกับ Tissu Market ซึ่งได้ร่วมบอกเล่าเรื่องราวแห่งผลงานที่ปรารถนา และได้ก้าวผ่านมาได้อย่างยั่งยืนมากที่สุด เปรียบเสมือนกับนิยามของการมอบให้และในขณะเดียวกันยังเปิดประสบการณ์ความแปลกใหม่ ที่กลายเป็นทางเลือกที่ถูกถ่ายทอดผ่านพาร์ทเนอร์ที่ร่วมมือกันกับ Tissu Market ล้วนเชื่อมโยงกับโลกแห่งศิลปะในอดีตและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้ที่มีความสามารถภายในโลกอนาคต
“Valentino Sleeping Stock” โปรเจกต์ที่ได้ถูกเสนอให้คงอยู่ ณ กาลเวลา พร้อมแนวคิดที่ขับเคลื่อนด้วยจิตสำนึกของเมซงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รวมถึงการร่วมสร้างชิ้นส่วนของโมเสกที่เผยความงดงามและได้สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ พร้อมแบ่งปันสู่โลกภายนอกอย่างกว้างขวาง ปลุกศักยภาพกวีของมรดกสิ่งทอที่ไร้กาลเวลาที่ถ่ายทอดถึงการ "หลับใหล" อยู่ในภวังค์ ดั่งการมอบชีวิตใหม่ร่วมกันในอนาคตไปพร้อมๆ กัน และยังคงตระหนักถึงการเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการมีส่วนร่วมในชุมชนอย่างสร้างสรรค์