DOLCE&GABBANA คอลเลกชั่น Spring/Summer 2023 Women's Show
แฟชั่นโชว์ SS23 ระลึกถึงอดีตที่ลึกซึ้งโดยเริ่มจากต้นกำเนิดของ Dolce&Gabbana ครั้งนี้ได้นิยามแนวคิดใหม่ให้แก่คอนเซ็ปท์ "Divas" และ " La Dolce Vita" ที่แสดงถึงความเป็นอิตาเลี่ยนที่ฝั่งลึกในจิตวิญญาณและโลกของ โดเมนิโก โดลเช่ และ สเตฟาโน่ กาบาน่า ดีไซเนอร์ทั้งสองและ คิม คาร์เดเชียน ทำงานเคียงข้างอย่างใกล้ชิดและแน่นแฝงในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เพื่อสร้างคอลเลกชั่นที่ผ่านกระบวนการมากมาย เปรียบเสมือนการเล่นแร่แปรธาตุที่ใช้เวทมนตร์ ดึงดูดอารมณ์ทุกคนได้อย่างน่าประหลาดใจ คิมเข้าใจและซาบซึ่งถึงความเป็นเอกลักษ์ของแบรนด์ ความเชี่ยวชาญและความสามารถของเธอได้นำพาการแสดงของนิยามเหล่านี้สู่ยุคปัจจุบัน เธอสามารถนำแสดงเรื่องราวที่ฝั่งรากอยู่ใน DNA ของ และประยุกต์มันสู่การแสดงใน 'วันนี้' แฟชั่นที่กำเนิดจากเลือดและหัวใจจะไม่มีวันล้าสมัย และเมื่อถูกนำมาคิดใหม่ ตีความใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์และเข้าถึงกับคนรุ่นใหม่ ทุกคนจะจดจำมันได้ขึ้นใจ
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยคอลเล็กชั่นปี 1987 จนถึงเสื้อผ้าของแฟชั่นโชว์ในปี 2007 "Sexy Android" เป็นคอนเช็ปท์ที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนและในปีนี้ได้มีการนำเสนอให้ SS23 เล่นกับเทคนิคการผสมผสานของเนื้อผ้า รายละเอียด และสีในเวอร์ชันขาวดำหรือ “โมโนโครม” และ “โมโนเท็กซ์เจอร์” ที่ยั่วยวนใจอย่างยิ่ง ทั้งหมดนี้เข้ากับสไตล์เหนือกาลเวลาของ Dolce&Gabbana ได้อย่างลงตัว เรายังพบเนื้อผ้าที่เป็นนวัตกรรมล้ำยุค เช่น ผ้าวัสดุทางเทคนิคและพีวีซี ถูกนำมาย้อนรอยอดีตอีกครั้งด้วยโฉมใหม่ในรูปแบบเสื้อกันฝนที่ เคต มอสส์ สวมใส่ในคอลเลกชั่น "New Rock'n Roll" FW 1994/95 ผ้าเจอร์ซีย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ตั้งแต่คอลเล็กชั่นแรก ถูกประยุกต์และดีไชน์ใหม่บนซิลลูเอทที่กลายมาเป็นหนึ่งเดียวกับตัวเสื้อ เสริมแต่งความสง่างามที่ละเอียดอ่อนได้อย่างสมดุลเสื้อผ้าทรงรัดรูปโอบกอดและแปลงกายรูปร่างสตรี ทว่าในขณะเดียวกันยังคงมอบอิสระในการเคลื่อนไหวและคอยติดตามไปดั่งวิญญาณแนบกาย โครงสร้างทรงรัดรูปและผ้ายืดให้ความรู้สึกเหมือนสวมใส่ผิวหนังชั้นสอง ทั้งหมดนี้เสริมและแสดงความเคารพต่อแนวคิดเรื่องเสรีภาพและรูปร่างที่แตกต่างกันของเหล่าสตรี
จากเนื้อผ้าธรรมดา เราก็ก้าวไปสู่โลกของผ้าโปร่งที่เน้นลูกไม้และผ้าทูล เราพบวัตถุดิบนี้ในสองเวอร์ชั่น โดยเป็นเดรสยืดรำลึกถึงชุดที่ โมนิกา เบลลุชชี สวมใส่ในคอลเลกชั่น “La dolce vita” ในปี 1992 พร้อมกับผ้าลูกไม้แชนทิลลีที่แสดงความอ่อนหวานของเพศสตรี และอีกเวอร์ชั่นในรูปแบบเดรสยาวที่เซ็กซี่ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก SS 1999 ในคอลเลกชั่น “New Ologram” วิชาในการเลือกวัสดุและการผสมผสานสี “โมโนโครมมะติก”ยังคงวิวัฒนาการต่อไป โดยมีการนำเสนอเอฟเฟกต์โลหะ เงิน ตาข่ายคริสตัลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคอลเลกชั่นปี1995 และ ลูกไม้แทรกบนพีวีซีที่เชื่อมโยงกับคอลเลกชั่น "Stromboli" ในปี 1998 และ "Sexy android" ในปี 2007 ทั้งหมดช่วยผลักดันและเป็นแก่นสารในการสร้างคอนเซ็ปท์ Diva ที่แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเป็นที่รู้จักอย่างสูง
ลายเสือดาวอันเป็นเอกลักษณ์ถูกนำมาพิมพ์บนผ้าต่างๆ เช่น เสื้อเจอร์ซีย์ ผ้าขนอีโค และผ้าเทอร์รี่ ซึ่งมีการนำเสนอในคอลเลกชั่นเครื่องประดับด้วย บนแคทวอล์ค แน่นอนว่าสีที่ถูกเน้นคือสีดำหรือรู้จักกันในนาม 'สีดำแห่งซิซิเลียน' เรียกได้ว่าเป็นเฉดสีประจำแบรนด์ คอลเลกชั่นเติมแต่งด้วยการผสมผสานระหว่างสีเทามุก สีเทาหิน สีบลัชนุ่มนวล สีขาวออปติคัล สีเงิน และสีแดงของภูเขาไฟ โครงสร้างและสัดส่วนใหม่ของเสื้อผ้าได้เปลี่ยนรูปร่างของผู้หญิง ด้วยแพทเทิร์นที่ถูกถอดจากแหล่งเก็บสิ่งสร้างสรรค์ นักออกแบบนำเสื้อผ้าเหล่านี้มาดัดแปลง ย่อ กระชับ หรือทำให้ยาวขึ้น โดยนำเสนอในวิสัยทัศน์และมุมมองในแสงที่ต่างออกไปด้วยสไตล์ที่แปลกใหม่ โครงสร้างจึงเพรียวบางเป็นพิเศษเทียบได้กับผิวหนังชั้นที่สอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่อนบนนั้นรัดกุมและเพิ่มทวีความงามแก่รูปร่างสตรี ในขณะที่กางเกงและเสื้อโค้ทเป็นโอเวอร์ไซส์
ในโลกของคอร์เซ็ตทรี (corsetry) ซึ่งเป็นศิลปะตัดเย็บและพื้นฐานในความเป็น Dolce&Gabbana เราพบเสื้ออกปักคริสตัลที่สวมใส่โดย นาโอมิ แคมป์เบล ในคอลเลกชั่น FW 1991/92 "Le Pin Up" ถูกเสนอใหม่ควบคู่ไปกับบอดี้สูท เกเปียร์ และรูปโครงที่ชัดเจน ทั้งหมดนี้ถูกดีไซน์ในลักษณะโปร่งใสด้วยเดรสเนื้อผ้า ชีฟอง ลูกไม้ และ ทูล สัญลักษณ์ความเป็นชายและหญิงถูกตีความใหม่ ไม่มีขีดกำจัดหรืออยู่ในกรอบ ทุกอย่างได้ถูกวนอีกครั้งภายใต้นิยามใหม่ของความงามฉบับสตรี โดยใช้ลูกเล่นของชุดชั้นในและโครงสร้างที่ไร้ขอบเขตเย็บด้วยผ้าเจอร์ชีย์เป็นหลัก เสื้อแจ็คเก็ตขนาดเล็กแนวไหล่แคบผสมผสานกับกางเกงขายาวผ้าเดนิมที่มีตำหนิและรอยขาด ถือเป็นการแสดงความเคารพแก่คอลเลกชั่น “Real Woman” ของ FW 1986 เป็นปีที่มีการแนะนำผ้าเดนิมแบบขาดเป็นครั้งแรก
ในส่วนของเครื่องประดับ เราพบความสำเร็จของกระเป๋าสไตล์ซิซิเลียนที่ได้กลับมาเยือนอีกครั้งในรูปทรงขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ สำหรับครั้งนี้ มันถูกหุ้มด้วยตาข่ายคริสตัล กรอบพลาสติกใส ผ้าเทอร์รี่ พีวีซี ลายพิมพ์เสือดาว และ หนังลูกวัวในวงล้อสีใหม่ที่เรียบหรูและ ready-to-wear
ในส่วนของรองเท้านั้นล้วนประกอบด้วยรองเท้าเปิดส้น ในรองเท้าแตะ และรองเท้าบูท ร่วมทั้งสิ้นเป็นส้นสูง 60 แบบ ทั้งหมดถูกดีไซน์ให้เข้าคู่กับวัสดุของกระเป๋าถือ สเตฟาโน และ โดเมนิโก ร่วมกับ คิม ไอคอนร่วมสมัยแห่งศตวรรษที่สามารถดึงสายตาและเรียกความสนใจของผู้คนนับล้านด้วยวิสัยทัศน์ด้านความงามในมุมมองของเธอ เธอได้สร้าง SS23 ใหม่ เป็นเรื่องราวลึกซึ้งที่แสดงความคิดสร้างสรรค์และความเป็นเอกลักษ์ของนักออกแบบที่ถูกผสมผสานกับความงามในอุดมคติของคิม สำหรับดีไซเนอร์ทั้งสอง นี้่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง