จากการศึกษาสถิติ 10 ธุรกิจดาวรุ่งปี พ.ศ. 2565 ของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่าการแพทย์และความงาม เป็นธุรกิจดาวรุ่งอันดับ 1 สำหรับปีเสือนี้ สะท้อนได้ถึงเทรนด์ความงามและสุขภาพที่ได้รับความสนใจจากคนทุกวัยและทุกเจเนอเรชั่นในประเทศไทย สังเกตเห็นได้ว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ เริ่มตั้งแต่เจเนอเรชั่นมิลเลนเนียล ที่กำลังเติบโตและจะก้าวเข้าสู่วัยทำงาน (First Jobber) หันมาให้ความสำคัญกับการมีไลฟ์สไตล์ใส่ใจสุขภาพและความงาม อีกทั้งยังเริ่มมองหาตัวช่วยและพร้อมลงทุนเพื่อดูแลตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยเป้าหมายในการมีสุขภาพและรูปลักษณ์ที่ดี เพื่อผลลัพธ์ด้านความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น และโอกาสดีๆ ในชีวิต
ซึ่งแนวคิดที่มาแรงอย่างต่อเนื่องในการดูแลผิวหน้า หรือ ความสวยหล่อด้วยแพทย์ความงาม คือ การเสริมจุดเด่น ลดจุดด้อยบนใบหน้าที่เน้นความเป็นธรรมชาติ เน้นความเป็นตัวเอง เติมเต็มให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นและตามความต้องการของแต่ละบุคคลในแต่ละช่วงวัย ฉีกคอนเซ็ปต์การเสริมความงามในอดีตที่จะมีความงามในอุดมคติเป็นต้นแบบ หรือ การยึดความงามตามสมัยนิยม หรือแม้แต่นักแสดงในซีรีส์เกาหลี
เมื่อคอนเซ็ปต์ความงามในปัจจุบันเปลี่ยนไป โดยเน้นความเป็นธรรมชาติบนใบหน้า ส่งผลให้คนในแต่ละเจนเริ่มมีความต้องการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มวัยรุ่นหรือวัยเริ่มต้นทำงาน ยังมีปัญหาหน้ามัน รูขุมขนกว้าง อยากหาตัวช่วยในเรื่องผิวเรียบเนียน ช่วยกระชับรูขุมขน และลดความมันบนใบหน้า หรือ วัยสามสิบขึ้นไป ต้องการรูปหน้าที่กระชับ ได้รูป หรือ ลดริ้วรอยเริ่มต้นบริเวณหน้าผาก หรือ หางตา ซึ่งจากความต้องการที่หลากหลายนี้เอง ทำให้เวชภัณฑ์ที่สามารถเข้ามาตอบโจทย์คนทุกเจนได้ คือ Botulinum Toxin หรือ โบ ซึ่งเป็นสารลดเลือนริ้วรอยที่มีความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขในเรื่องของริ้วรอยเท่านั้น แต่โบยังมีคุณสมบัติในการปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยยกกระชับกรอบหน้า ลดขนาดปีกจมูก กระชับรูขุมขนที่กว้าง ลดความมันใบหน้า รวมถึงช่วยลดเหงื่อได้อีกด้วย
ในขณะที่ความต้องการของคนเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เวชภัณฑ์อย่าง “โบ” ก็มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนาตามเทรนด์อยู่เช่นกัน โดย เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย บริษัทชั้นนำระดับโลก ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องอัลเทอร่า และเวชภัณฑ์สำหรับใช้ในคลินิกเสริมความงาม เพื่อทุกความมั่นใจของคนไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ผลิตและนำเข้า Botulinum Toxin จากประเทศเยอรมันสู่ประเทศไทย ได้คิดค้น โบเยอรมัน โบเจนใหม่ (New Generation) ที่ผสมผสานเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาตอบโจทย์คนทุกเจน สำหรับเจนไหนที่ยังกังวลถึงเรื่องของประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่า สามารถเริ่มพิจารณา “โบเจนใหม่” ได้จากคุณสมบัติอันโดดเด่น 6 ข้อ ดังนี้
- ผลิตโดยใช้ Xtract Technology - โบเยอรมันเป็นโบเจนใหม่ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการลดโอกาสความเสี่ยงต่อการดื้อโบ ด้วยกระบวนการผลิตแบบ Xtract technology ที่มีประสิทธิภาพสูง ผลลัพธ์คือ โบ ที่มีความบริสุทธิ์สูง และน้ำหนักโมเลกุลน้อยกว่าโบชนิดอื่น ทำให้เป็นผลดีต่อการกระจายตัวของโบบนใบหน้า
- 0%Impurities – จากกระบวนการผลิตที่ดีและเหนือชั้น ทำให้สามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายออกได้เหลือเพียงสารที่ทำหน้าที่ในเรื่องของการลดริ้วรอยเท่านั้น
- 0%resistance case – โบเยอรมัน แนะนำสู่ตลาดทั่วโลกมาเป็นระยะเวลากว่า 16 ปี ในช่วงแรกเป็นการใช้เพื่อรักษาคนไข้โรคกล้ามเนื้อหดเกร็ง ซึ่งต้องใช้ปริมาณยาค่อนข้างสูง และต่อมา จึงมีการนำมาใช้ในทางความงาม ซึ่งจากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการรายงานการพบเคสเรื่องการดื้อโบเยอรมัน แต่อย่างใด
- เห็นผลเร็ว ใน3 วัน - ออกฤทธิ์ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับบริการ และเริ่มเห็นผลรวดเร็วภายใน 3 วัน โดยไม่ว่าเพศใดก็เห็นผลเร็วเท่ากัน และผลลัพธ์ที่ออกมานั้นดูเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ไม่ต้องรับฉีดซ้ำบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยและแม่นยำสูง แพทย์ในแต่ละคลินิกสามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำ
- 5.ได้ผลลัพธ์คุ้มค่า– โบเยอรมัน โบเจนใหม่ ให้ผลลัพธ์การรักษาที่ได้ประสิทธิภาพทุกครั้ง ไม่ต้องกังวลว่าจะดื้อโบ หรือ ไม่เห็นผล ช่วยให้ผู้รับบริการวางใจได้ในผลลัพธ์ และสร้างความคุ้มค่าในการรักษาทุกครั้ง
- ผลลัพธ์แม่นยำ อยู่ได้นาน- โบเยอรมัน โบเจนใหม่ ให้ผลการรักษาอยู่ได้นาน 4-6 เดือน และ เนื่องจากน้ำหนักโมเลกุลน้อย จึงมีการกระจายตัวที่พอเหมาะ ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ มีความแม่นยำ และปลอดภัยสูง ในการรักษา
จาก 6 จุดเด่นของโบเจนใหม่ที่กล่าวข้างต้น จะได้เห็นได้ว่าจุดเด่นแต่ละข้อล้วนช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของทุกเจน รวมถึงให้ความสำคัญครอบคลุมไปถึงเรื่องของประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความคุ้มค่า ในการฉีดโบเจนใหม่จากเยอรมัน หากกล่าวถึงในแง่ของประสิทธิภาพ โบเยอรมันมีการช่วยเสริมจุดเด่นบนใบหน้าพร้อมผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ อาทิ การลดริ้วรอย การกระชับรูขุมขน การลดความมัน ฯลฯ ต่อมาสำหรับในเรื่องความปลอดภัย ทุกเจนก็สามารถเลือกฉีดโบเยอรมันได้อย่างสบายใจ เนื่องจากที่ผ่านมา 16 ปี ยังไม่เคยพบเคสดื้อโบ และสุดท้ายในเรื่องความคุ้มค่าหลังการฉีด โบเยอรมันมีการออกฤทธิ์เร็วภายใน 3 วัน และอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน คุ้มค่าแก่การลงทุน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เองที่ทำให้โบเยอรมัน ได้รับการขนานนามว่าเป็น “โบเจนใหม่” เพราะเหมาะสำหรับคนทันสมัยในทุกช่วงวัย และตอบโจทย์เทรนด์การเสริมความงามในปัจจุบันที่มุ่งเน้นการเสริมจุดเด่นบนใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ