5 ประเภทของน้ำหอม แตกต่างกันอย่างไร รู้ไว้ก่อนเสียตังค์ซื้อ
กลิ่นตัวคือเรื่องที่สามารถทำลายบุคลิกภาพและส่งเสริมบุคลิกภาพให้เราได้ค่ะ กลิ่นตัวหอมอ่อนๆ นั้นช่วยส่งเสริมให้เรามีบุคลิกที่ดีได้ ในขณะที่กลิ่นตัวเหม็นๆ นั้นรังแต่จะสร้างความรังเกียจให้ผู้ที่อยู่รอบกายของเราค่ะ การหมั่นดูแลกลิ่นตัวของตัวเองให้หอมอยู่เสมอหรืออย่างน้อยก็ไม่มีกลิ่นเหม็นมาคอยกวนใจ ก็จะช่วยให้เราดูดีขึ้นมาอีกระดับได้ค่ะ ซึ่งการเลือกหาน้ำหอมที่มีและมีคุณภาพก็สามารถช่วยเราให้มีกลิ่นหอมติดตัวได้เช่นกัน การจะหาน้ำหอมที่ดีและมีคุณภาพให้ถูกใจเรานั้น บางคนก็เลือกที่กลิ่นเป็นหลักแต่ก็ยังมี ประเภทของน้ำหอม ด้วยเช่นกันที่เราต้องใส่ใจค่ะ ซึ่งประเภทของน้ำหอมนี้จะสามารถตอบโจทย์เราได้ว่า ทำไมกลิ่นของน้ำหอมจึงอยู่ไม่ค่อยทนไม่ค่อยติดผิวของเรา ในขณะที่น้ำหอมบางกลิ่นนั้นก็ฉุนจนเกินไป
วันนี้เราจะมาแนะนำ ประเภทของน้ำหอม ให้สาวๆ ได้รู้จักและจะได้หามาใช้กันค่ะ แต่ละแบบเรียกว่าอะไร แตกต่างกันอย่างไร มาอธิบายให้สาวๆ ได้เข้าใจกันค่ะ เพื่อที่จะได้สามารถซื้อน้ำหอมให้ได้ตรงตามความต้องการมากขึ้นค่ะ
1. Eau Fraiche (โอ เฟรช)
เป็นน้ำหอมที่เจือจางมากที่สุด โดยจะมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 1% - 3% และจะให้กลิ่นอยู่บนร่างกายของเราอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ
2. Eau de Cologne - EDC (โอ เดอ โคโลญจน์)
เป็นน้ำหอมที่เราเรียกกันว่าโคโลญจน์นั่นเองค่ะ น้ำหอมประเภทนี้จะมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมที่ 2% - 4% และกลิ่นจะติดอยู่บนตัวเราที่ประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง
3. Eau de Toilette - EDT (โอ เดอ ตัวเลตต์)
เป็นน้ำหอมที่พบเจอได้บ่อยตามเคาท์เตอร์แบรนด์ต่างๆ และบางคนก็จะออกเสียงเป็น Toilet (ทอยเลท) ซึ่งการออกเสียงที่ถูกคือ Toilette (ตัวเลตต์) ค่ะ น้ำหอมประเภทนี้จะมีส่วนผสมของหัวน้ำหอม 5%-15% และจะมีกลิ่นติดอยู่บนตัวเราได้ประมาณ 3-5 ชั่วโมง
4. Eau de Parfum - EDP (โอ เดอ พาร์ฟูม)
ถือว่าเป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นมากกว่า EDT อีกระดับ โดยจะมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมอยู่ที่ 15% - 20% และมีกลิ่นติดอยู่บนตัวของเราประมาณ 6 - 10 ชั่วโมงค่ะ
5. Parfum (พาร์ฟูม) / Perfume (เพอร์ฟูม)
ประเภทของน้ำหอม อย่างสุดท้ายคือเพอร์ฟูมค่ะ หมายถึงน้ำหอมที่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมมากที่สุด โดยมีส่วนผสมอยู่ที่ 20% - 40% และส่วนประกอบที่เหลือจะเป็นแอลกอฮอล์และน้ำค่ะ น้ำหอมประเภทนี้จะสามารถให้กลิ่นติดผิวได้ประมาณ 12 - 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว และเป็นน้ำหอมที่มีราคาแพงที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำหอมประเภทอื่นๆ ซึ่งการใช้น้ำหอมประเภทนี้นั้นทำให้เราไม่จำเป็นจะต้องฉีดเพิ่มในระหว่างวัน ผิดกับน้ำหอมประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะน้ำหอมประเภท Eau Fraiche และ Eau de Cologne ที่พอเมื่อครบ 2 - 3 ชั่วโมงแล้ว ควรมีการฉีดซ้ำระหว่างวันเพื่อให้กลิ่นยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
Dupe 9 น้ำหอมยอดฮิต! กลิ่นเหมือน แต่ราคาต่างกันลิบลับ ถูกและดี ติดทน ต้องตำ!
ชี้เป้า! 6 โลชั่นน้ำหอม เพิ่มเสน่ห์กลิ่นกาย ให้ชายใจละลายเพียงแค่เดินผ่าน!