รีเซต

สละโสด! ด้วยวิธีบอกรัก จาก 6 ประเทศ วาเลนไทน์นี้ ต้องไม่นก!

สละโสด! ด้วยวิธีบอกรัก จาก 6 ประเทศ วาเลนไทน์นี้ ต้องไม่นก!
Women Team
7 กุมภาพันธ์ 2561 ( 13:00 )
2.6K

    ใกล้เข้ามากันแล้วนะคะ กับเทศกาลวาเลนไทน์ที่เหล่าคู่รักทั้งหลายตั้งหน้าตั้งตารอ แต่บรรดาสาวโสดก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรามี “วิธีบอกรัก จาก 6 ประเทศ” มาให้ทั้งสาวๆ หนุ่มๆ มีไอเดียเก๋ๆ ในการสารภาพรักกันแล้ว ใครอยากสละโสด เบื่อแล้วคนพันธุ์นก ต้องห้ามพลาดนะจ๊ะ 

     เทศกาลวาเลนไทน์เป็นเทศกาลที่หลายประเทศให้ความสำคัญ อีกทั้งวันวาเลนไทน์ยังมีเทพคิวปิดเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นที่มาของคำนิยามที่ว่า ยิงศรรักปักอก นั่นล่ะจ้า ใครอยากหาวิธีสารภาพรักกับคนที่ตัวเองถูกอกถูกใจ หลงใหลได้ปลื้ม ก็ตามมาส่องไอเดียบอกรักจาก 6 ประเทศของเรากันเล้ย รับรองว่าเก๋กู๊ด สมหวังกันถ้วนหน้าอย่างแน่นอนจ้า

   1. ญี่ปุ่น   


     มาเริ่มที่ประเทศแรกที่มีการสารภาพรักแบบคาวาอี้ คือ ประเทศญี่ปุ่น เลยค่า ต้องบอกว่าวาเลนไทน์เป็นวันที่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นเค้ารอคอยกันเลยค่ะ เพราะเทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่ผู้หญิง จะเป็นฝ่ายสารภาพรักกับผู้ชาย ด้วยการให้ ช็อกโกแลต Honmei choko ซึ่งเค้าจะให้เฉพาะชายที่ครองใจสาวๆ คนนั้นอยู่นั่นเอง วิธีก็มีมากเหลือล้นทั้งการเอาไปซุกในลิ้นชัก แอบในกระเป๋า หรือที่ใดก็ได้ที่ฝ่ายชายจะเจอ แต่จะให้ตรงๆ เลยก็ได้นะคะ ส่วนถ้าหนุ่มๆ ถูกใจสาวคนนั้นก็จะให้กลับในวันไวท์เดย์ที่ 14 มีนาคมค่า คราวนี้ก็ได้ลุ้นผลกันละจ้าว่า หนุ่มๆ จะโอเคหรือเซย์โน!

   2. เกาหลี   



     มาต่อกันด้วยประเทศใกล้เคียง แถมวิธีสื่อรักก็คล้ายกันไปอี๊ก คือ ประเทศของเหล่าอปป้า “เกาหลี” นั่นเองค่า ต้องบอกเลยว่าวิธีสารภาพรักคล้ายญี่ปุ่นมาก ที่สาวๆ จะเป็นฝ่ายให้ช็อกโกแลต คุกกี้ มาร์ชแมลโล แก่ฝ่ายชายก่อนค่ะ ถ้าฝ่ายชายตกลงปลงใจก็จะให้กลับในวันไวท์เดย์ เป็น 3 เท่าจากที่ฝ่ายหญิงให้มาเล้ย แม่เจ้ามันเยอะมาก! แต่! เฉพาะสาวๆ ที่เค้าชอบนะคะ ส่วนสาวคนอื่นๆ ที่เค้าจะให้ความสัมพันธ์แค่เพื่อน ก็จะได้กลับเท่าจำนวนที่ได้มาค่า สื่อง่าย ไม่ต้องพูดอะไรมากเลยน้า!

   3. ไทย   


     ถึงพี่ไทย ประเทศของเรากันบ้าง เป็นที่รู้กันดีว่า เมื่อวาเลนไทน์คัมแบ็ค หนุ่มๆ สาวๆ ก็ต่างหานู่นนี่มาสารภาพรักกัน ฝ่ายชายก็นิยมให้ดอกกุหลาบ หรือตุ๊กตาแก่สาวๆ เพื่อสื่อให้รู้ว่าปิ๊ง ส่วนฝ่ายหญิงก็จะตอบกลับด้วยดอกกุหลาบ ช็อกโกแลต หรือคุกกี้เช่นกัน สาวที่ฮอตๆ ในหมู่หนุ่มๆ ดูไม่ยากเลยค่ะ เพราะเธอคนนั้นจะได้ดอกไม้หลายช่อ ได้ตุ๊กตามาเป็นกอง เตรียมตัวรับดอกไม้หรือตุ๊กตาแทนใจจากหนุ่มๆ กันให้ดีนะคะสาวๆ!


   4. เยอรมัน   




     บินมาถึงฝั่งยุโรปกันแล้ว ประเทศนี้ก็ไม่น้อยหน้าฝั่งเอเชียแน่นอน จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง ในเมื่อวาเลนไทน์ เค้ามีต้นกำเนิดที่ยุโรป แล้ววิธีการแสดงความรักของประเทศนี้เค้าก็มีเอกลักษณ์มากด้วย นั่นก็คือ เยอรมันค่ะ วิธีสื่อรักของเค้าก็น่ารัก เรียบหรู ด้วยการให้ขนมปังขิงรูปหัวใจชิ้นใหญ่ และเขียนข้อความที่ตัวเองอยากบอกกับอีกฝ่ายไว้บนขนมปังขิงชิ้นนั้น ซึ่งการให้ขนมปังขิง จะมอบให้กันทั้งสองฝ่ายเลยละค่ารู้สึกดี รู้สึกชอบใคร ก็ลองนำไอเดียไปลองดูนะคะ วาเลนไทน์นี้ ได้เลิกนกกันสักที!

   5. เวลส์    

     ข้ามมาที่ประเทศเวลส์กันต่อค่า ประเทศนี้ก็มีการให้ของขวัญสารภาพรักกันอย่างมีเอกลักษณ์สุดๆ เช่นกัน เพราะเค้าจะมอบช้อนแกะสลักรูปหัวใจให้กันแหละสาวๆ แถมเป็นการขอคบหาดูใจด้วย ถ้าอีกฝ่ายมีใจ ก็จะให้กลับเพื่อแทนการตอบตกลง ง่ายเนอะ! หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องให้ช้อนแกะสลักใช่มั้ยล่ะคะ งั้นเราขอตอบแทนเลยว่า เพราะชาวเวลส์เค้าเชื่อว่า หากให้ช้อนแก่กันจะทำให้ความรักยั่งยืน ราบรื่น มีแต่ความสุขในชีวิตคู่ค่า ให้แค่ช้อน ก็ความหมายดี แทนคำพูดได้เลย สาวๆ หนุ่มๆ ที่ขี้อาย ได้ไอเดียเจ๋งๆ แล้วนะเนี่ย!

   6. แอฟริกาใต้   

 

     ปิดท้ายการบอกรักอย่างเก๋ๆ ที่แอฟริกาใต้ ถ้าสาวๆ ได้เห็นรับรองว่ามีเขินสิบตลบกันเลยละค่ะ เพราะผู้ชายจะเป็นฝ่ายบอกรักผู้หญิงด้วยการปักชื่อผู้หญิงคนนั้นลงบนแขนเสื้อของตัวเอง ก็เป็นอีกวิธีที่โรแมนติกได้ แบบไม่ต้องให้ของขวัญกันเลยค่า ส่วนถ้าฝ่ายหญิงชอบก็หาทางตอบรับ หรือจะปักชื่อผู้ชายคนนั้นลงแขนเสื้อตัวเองก็ได้เนอะ หนุ่มๆ คนไหน อยากสมหวัง อยากเป็นคนมีคู่ ก็ลองทำตามดูนะคะ แอบกระซิบว่าเราต้องมั่นใจเข้าไว้ค่า  ส่วนฝ่ายหญิงก็คอยสังเกตดีๆ น้า ว่าชื่อของตัวเองจะถูกปักบนแขนเสื้อหนุ่มคนไหนรึเปล่า ไปลุ้นกันดูค่า!

     จบกันไปแล้วนะคะกับ 6 วิธี แสดงความรักกับ 6 ประเทศ แต่ละประเทศก็มีการสื่อรักแบบน่ารัก โรแมนติกแตกต่างกันไป ถูกใจของประเทศไหน วาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ก็ลองนำไอเดียไปใช้ดูเลยค่า เชื่อว่าหลายคน ต้องสละโสดกันอย่างแน่นอน ส่วนถ้าใครยังครองความเป็นโสด ก็ไม่ต้องเสียใจหรือกังวลใจไป เพราะเราก็โสดอย่างหล่อๆ สวยๆ กัน เรื่องต่อไปจะเป็นอะไร เกี่ยวกับวาเลนไทน์มั้ย ต้องรอติดตามกันใน Women Society เลยค่า

บทความที่คุณอาจสนใจ







 

บทความที่เกี่ยวข้อง