รีเซต

5 วิธีดูแลตนเอง เมื่อเป็น Burnout Syndrome ภาวะหมดไฟในการทำงาน

5 วิธีดูแลตนเอง เมื่อเป็น Burnout Syndrome ภาวะหมดไฟในการทำงาน
BeauMonde
11 กรกฎาคม 2565 ( 17:43 )
607

     ภาวะหมดไฟในการทำงาน หรือ Burnout Syndrome คือ ภาวะที่เกิดจากความเครียดสะสมเป็นเวลานานจนทำให้มีความอ่อนล้า อ่อนเพลีย ขาดความสุขในการทำงานรวมไปถึงขาดประสิทธิภาพในการทำงาน บางรายอาจส่งผลไปถึงเรื่องชีวิตประจำวัน รู้สึกหมดเรี่ยวแรง ขาดแรงจูงใจ รู้สึกเบื่อหน่ายสภาพแวดล้อมรอบตัว ซึ่งหากใครที่มีอาการในลักษณะนี้ก็ยังถือว่าไม่รุนแรงมาก แต่หากปล่อยไว้นานโดยที่เรายังอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ อาการเหล่านี้ก็อาจจะรุนแรงขึ้นและสามารถพัฒนาไปเป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน

     ภาวะหมดไฟในการทำงานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโรคใหม่จากองค์กรอนามัยโลก (WHO) หากใครที่เป็นโรคนี้ควรได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนที่โรคนี้จะอันตรายมากขึ้นจนถึงขั้นกระทบชีวิตของผู้ป่วย แต่ก่อนที่จะปล่อยให้อาการนี้ลุกลามและยากต่อการรับมือ วันนี้เราได้รวบรวมวิธีดูแลตนเองเมื่อมีภาวะ Burnout Syndrome แต่ละวิธีควรจะต้องทำอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

 

 

5 วิธีดูแลตนเอง เมื่อเป็น Burnout Syndrome

 

1. ลดความเครียด

     ภาวะหมดไฟในการทำงาน เป็นภาวะที่เกิดจากความเครียดสะสมรวมไปถึงการทำกิจกรรมซ้ำ ๆ เดิม ๆ  ดังนั้นนอกจากจะต้องพยายามลดความเครียดให้ได้ เราควรปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเปิดให้โอกาสให้ตัวเองได้เจอกับสิ่งแปลกใหม่ เช่น ลองรับประทานอาหารที่รสชาติแปลกใหม่ ลองเปลี่ยนวิธีการเดินทางไปทำงาน แบบนี้ก็จะช่วยลดความเบื่อหน่ายที่ตนเองต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ค่ะ

 

2. พักผ่อนให้เพียงพอ

     หลายคนที่มีความเครียดและนอนไม่หลับ หากเราเป็นแบบนี้นาน ๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ และทำให้เราหมดไฟ เบื่อหน่ายกับสิ่งรอบตัวได้ ดังนั้นเราควรจะต้องหาเวลาพักผ่อน ทั้งการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและการผ่อนคลายตัวเองจากความเครียด โดยเราอาจจะออกไปเที่ยวพักผ่อน หรือหากิจกรรมที่ชอบ หรือแม้แต่การออกกำลังกายก็สามารถช่วยได้ค่ะ

 

3. ระบายให้ใครฟัง

     การระบายความเครียดออกมาด้วยการพูดคุยกับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัว ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยลดความเครียดสะสมได้ ซึ่งหลายครั้งเมื่อเราได้เล่าเรื่องที่กำลังกลุ้มใจให้ใครสักคนฟัง ก็เป็นเหมือนกับการได้ระบายความทุกข์ที่อึดอัดในใจให้ออกไป เมื่อระบายแล้วก็อาจจะช่วยเรียกพลังให้กลับคืนมาและทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้

 

4. ให้กำลังใจตัวเองเสมอ

     กำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราผ่านภาวะนี้ไปได้ แต่นอกเหนือจากนั้นและสำคัญกว่าคือการหมั่นให้กำลังใจตัวเองค่ะ เพราะต่อให้เราจะไม่มีใคร แต่เราก็สามารถที่จะเสริมกำลังใจให้กับตัวเองได้อยู่เสมอโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น

 

5. ออกกำลังกาย

     การออกกำลังกายสามารถช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้ เพราะการออกกำลังสามารถทำให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีน ซึ่งสามารถช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัว รวมถึงการออกกำลังกายยังช่วยให้เรานอนหลับได้ดีและมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับได้อีกด้วยค่ะ

 

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง