4 เหตุผลที่ควรใช้เมื่อตัดสินใจลาออกจากงาน

การเข้ามาทำงานว่ายากแล้ว การลาออกนั้นยากยิ่งกว่าค่ะ เพราะมีเหตุผลมากมายที่ทำให้เราตัดสินใจลาออก ทั้งเรื่องเงิน เรื่องงาน เวลา ปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่ปัญหากับหัวหน้างาน บางเหตุผลนั้นอยากจะพูดใจจะขาดตอน Exit Interview แต่ถ้าพูดไปก็จะผิดใจกันเปล่าๆ ถึงอย่างไรเราก็ควรจะเก็บความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ เพราะการพูดถึงสาเหตุของการ ลาออกจากงาน อาจจะส่งผลต่อการสัมภาษณ์งานที่ใหม่ของเราด้วยค่ะ
วันนี้เรามีเทคนิคและเหตุผลดีๆ รวมถึงวิธีการพูดให้เหมาะสมในตอนการตอบคำถาม ลาออกจากงาน ใครที่กำลังตัดสินใจจะลาออกลองเข้ามาอ่าน 4 เหตุผลของเรากันดูก่อนค่ะ จะได้มีไอเดียดีๆ ไว้ตอบ HR จะได้ดูเป็นมืออาชีพและไม่ทำให้เราดูเป็นนางร้ายหรือเด็กน้อยเอาแต่ใจค่ะ
ปัญหาครอบครัวหรือปัญหาสุขภาพ
เหตุผลยอดฮิตของหนุ่มสาวออฟฟิศที่อยากออกจากงาน เนื่องจากงานที่ทำนั้นเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลกับภาวะสุขภาพ ทั้งโรคเครียด ออฟฟิศซินโดรม โรคนอนไม่หลับ และอีกหลายสาเหตุสุขภาพที่ทำให้เรารู้สึกไม่แฮปปี้อีกต่อไป การฝืนทำงานในขณะที่ร่างกายไม่พร้อมนั้นมีแต่จะทำให้งานเสียและไม่ได้คุณภาพ ซึ่งหากเราเกิดภาวะนี้ขึ้นมาจริงๆ ก็บอก HR หรือหัวหน้างานไปตรงๆ ได้เลยค่ะ นอกเหนือจากปัญหาสุขภาพ ปัญหาในครอบครัวก็เป็นสิ่งที่พูดออกไปตามตรงได้เหมือนกัน เช่น มีความจำเป็นต้องกลับไปดูแลพ่อแม่ เหตุผลข้อนี้ก็สามารถอธิบายให้ฟังกันไปเลยตรงๆ ได้ค่ะ เพราะหลายๆ คนในวัยทำงานอย่างเราก็เกิดปัญหาเหล่านี้ไม่ต่างกัน
ศึกษาต่อ
ใครๆ ก็อยากจะพัฒนาตัวเองเพื่อความก้าวหน้ากันทั้งนั้น การไปเรียนต่อก็ถือเป็นการเพิ่มประสบการณ์ได้อีกทางหนึ่งและถือเป็นเรื่องที่ทำให้เราเก่งขึ้นค่ะ เมื่อเรามีความรู้และทักษะมากขึ้นสุกท้ายฐานเงินเดือนก็จะถูกปรับขึ้นตามไปด้วย ข้อนี้ก็เป็นอีกเหตุผลที่เราสามารถพูดไปตรงๆ ได้เลย แน่นอนว่าบริษัทเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายของอย่างแน่นอนค่ะ เพียงแต่อาจจะต้องมีการเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนไว้หน่อยเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือค่ะ
อยากได้ความท้าทายใหม่ๆ
เรียกว่าเป็นข้ออ้างที่ทำให้เราลาออกได้แบบไม่กระทบกับบริษัทมากนักค่ะ ลองให้เหตุผลประกอบไปด้วยว่าเราอยากจะท้าทายตัวเองด้วยการเลือกเปลี่ยนที่ทำงาน เราคิดว่าการลาออกครั้งนี้จะทำให้เราได้งานที่ท้าทายมากขึ้น ก็ถือเป็นเหตุผลแบบมุ่งเน้นไปที่จุดมุ่งหมายของความสำเร็จ มากกว่าการแสดงออกว่าเบื่องานเดิมแล้ว หรือรู้สึก burn out หมดไฟกับการทำงานแบบเดิมๆ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นบริษัทคงมองว่าเราเป็นแค่คนขี้เบื่อธรรมดาๆ ค่ะ
ต้องการเปลี่ยนสายงาน
การเปลี่ยนสายงานไปสู่การทำงานแบบใหม่ถือเป็นอีกเหตุผลที่มีน้ำหนักและเชื่อถือได้ การบอกไปตรงๆ ว่าเราต้องการเปลี่ยนสายงานนั้นบริษัทมักจะเข้าใจและไม่ค่อยรั้งเอาไว้ โดยเฉพาะบริษัทที่ไม่มีสายงานนั้นๆ รองรับ สุดท้ายเราก็สามารถลาออกได้โดยไม่กระทบความสัมพันธ์ค่ะ ที่สำคัญเรายังสามารถใช้โอกาสนี้ขอคำแนะนำและขอ connection ใหม่ๆ จากที่ทำงานเก่ารวมถึงเพื่อนร่วมงานเก่าได้อีกด้วย
อีกเทคนิคในการพูดถึงเหตุผลในการ ลาออกจากงาน คือการพูดในเชิงบวกรวมถึงไม่พูดกระทบไม่พูดกระทบกับบุคคลที่สาม เพราะไม่แน่ว่าในวันข้างหน้า เราอาจจะวนกลับมาเจอกับเพื่อนร่วมงานคนเดิม หัวหน้าคนเดิม หากเราตอบแบบถนอมน้ำใจกันไว้ตั้งแต่แรกก็จะช่วยรักษาความสัมพันธ์รวมถึงรักษา connection ของเราเอาไว้ได้อีกด้วย แต่ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการ Exit Interview เราอยากจะลองให้หนุ่มสาวชาวออฟฟิศลองคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนจะตัดสินใจลาออกค่ะ แต่ถ้าหากมั่นใจและคิดมาอย่างดีแล้ว ก็ลุยโลด!! จะได้ไม่มานั่งลำบากใจทีหลัง ว่ารู้อย่างนี้แล้ว ลาออกไปเสียทีแรกจะดีกว่า..