4 สัตว์อันตรายที่มาตอนน้ำท่วม พร้อมวิธีปฐมพยาบาลหากโดนกัด ... ฝนตกแบบนี้ยิ่งต้องระวัง !!
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆ ทั้งตกปรอยๆ หรือตกหนัก แต่สิ่งที่ตามมาก็คือน้ำขังและน้ำท่วมค่ะ ซึ่งเมื่อเกิดน้ำท่วมแล้ว สัตว์ที่อาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำหรือที่อาศัยทำรังอยู่ใต้ดินก็มักจะหนีน้ำออกมา ทำให้เราต้องระวังสัตว์ร้ายเหล่านี้เวลาเดินลุยน้ำค่ะ เพราะบางทีพวกมันก็มาเกาะตามขาเพื่อหนีน้ำ หรือบางตัวก็เลือกที่จะกัดหรือต่อยเราและทำให้เราเป็นอันตรายได้
หากเราแข็งแรงดี แผลจากการถูกสัตว์กัดต่อยพวกนี้ก็จะหายไปในเวลาไม่นาน แต่ถ้าเป็นคนที่มีอาการแพ้พิษของสัตว์ล่ะ เพราะถ้าหากถูกกัดเมื่อไหร่ก็สามารถทำอันตรายได้มากและเสี่ยงกับการเสียชีวิตเลยก็ได้ เราจึงควรระวังสัตว์ร้ายเหล่านี้ไม่ให้เข้ามาใกล้ในช่วงเวลาที่ฝนตกและน้ำท่วมค่ะ แต่ถ้าหากถูกสัตว์อันตรายเหล่านี้กัดแล้ว เราก็ควรหาวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งวิธีที่ควรทำมีดังนี้ค่ะ
4 สัตว์อันตรายที่มาตอนน้ำท่วมและวิธีปฐมพยาบาล
1. งู
เนื่องจากเป็นสัตว์ที่ทำรังอยู่ใต้ดิน เมื่อไหร่ที่มีน้ำท่วมขังงูก็มักจะต้องหนีน้ำขึ้นมาค่ะ ซึ่งงูก็จัดเป็นสัตว์อันตรายที่สามารถทำร้ายเราได้ วิธีการหลีกเลี่ยงคือการไม่เข้าไปในมุมอับ ซอกหลืบต่างๆ ค่ะ หากโดนงูกัดหรือพบเจอคนที่โดนงูกัดให้รีบโทรไปยังสายด่วน 1669 ทันที และในช่วงที่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เราสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดย
- ล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำสบู่
- ใช้มือบีบเลือดออกจากแผลให้มากที่สุดและห้ามใช้ปากดูดพิษ
- หาเชือกหรือผ้ารัดเหนือและใต้บาดแผลประมาณ 3 นิ้วมือ และอย่ารัดแผลแน่นจนเกินไปควรกะให้ประมาณนิ้วมือพอสอดได้
- วางอวัยวะที่ถูกกัดให้ต่ำกว่าหัวใจ
- พยายามอย่าเคลื่อนไหวมากเพราะพิษของงูจะไหลเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วขึ้นค่ะ
2. ตะขาบ
ตะขาบก็ถือเป็นสัตว์อีกชนิดที่เรามักจะพบเจอได้ช่วงหน้าฝน โดยอาการของผู้ที่ถูกตะขาบกัดนั้นจะรู้สึกปวด คัน บวมแดงตรงบริเวณแผล รวมถึงอาจจะมีไข้ต่ำๆ ซึ่งส่วนมากแล้วอาการเหล่านี้มักจะทุเลาลงในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง แต่ในบางรายก็มักจะมีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว ปวดหัวและต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วยค่ะ สำหรับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แก่ผู้ที่ถูกตะขาบกัดก็คือ
- ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด
- ใช้ยาหม่องหรือยาสามัญประจำบ้านทาถูบริเวณที่ปวดหรือกินยาพาราเซตามอลก็ได้
- หากปวดมากให้ใช้น้ำอุ่นประคบ นานประมาณ 15-20 นาที
- รีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีประวัติแพ้พิษตะขาบ หรือปวดมากจนทนไม่ไหว รวมถึงมีอาการเหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก
3. แมงป่อง
แมงป่องชอบอาศัยในบริเวณที่มืดๆ เช่น ในโพรงไม้ ใต้ก้อนหิน ซึ่งอาการของคนที่ถูกแมงป่องต่อยนั้นมักจะปวด บวมแดง และรู้สึกร้อนตรงบริเวณแผล ส่วนในรายที่มีอาการรุนแรงก็มักจะหัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง ปวดกล้ามเนื้อและปวดกระดูก ส่วนวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น สามารถทำได้ดังนี้
- ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำและสบู่
- ประคบเย็นครั้งละ 10-15 นาทีเพื่อลดบวม
- กินยาพาราเซตามอลเพื่อลดอาการปวด
- หากแพ้รุนแรงหรือสังเกตแล้วว่ามีอาการแย่ลงให้รีบไปพบแพทย์
4. แมลงก้นกระดก
แมลงก้นกระดก ด้วงก้นกระดก หรือ แมลงเฟรชชี่ เป็นแมลงปีกแข็งที่มักจะระบาดในช่วงหน้าฝนค่ะ แมลงชนิดนี้มักพบเจอได้ตามสถานที่ใกล้แหล่งน้ำ นาข้าว พงหญ้า โดยแมลงก้นกระดกนี้จะมีพิษที่สามารถทำลายผิวหนังและเซลล์เนื้อเยื่อ เมื่อสัมผัสโดนพิษของแมลงชนิดนี้จะรู้สึกแสบคันบริเวณผิวหนัง มีผื่นแดงและตุ่มน้ำ โดยในระยะแรกจะไม่แสดงอาการแต่จะเป็นรอยแดงและแผลอักเสบ รวมถึงมีตุ่มหนองเล็กๆ หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงค่ะ โดยวิธีการป้องกันและปฐมพยาบาลหากพบเจอแมลงก้นกระดก ทำได้ดังนี้
- หากพบเจอแมลงก้นกระดกเกาะบนผิวหนัง ห้ามสัมผัสโดยตรง ให้ใช้วิธีเป่าออกไปให้พ้นตัวเรา
- หากเผลอสัมผัสโดน ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดและสบู่
- ประคบด้วยผ้าชุบน้ำเย็น 15-20 นาที
- หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรู้สึกแย่ลงให้รีบไปพบแพทย์
สำหรับผู้ที่พบเจอสัตว์อันตรายเข้ามาในบ้านในช่วงหน้าฝนแบบนี้ เราแนะนำให้รีบโทรติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทางหน่วยงานได้ส่งเจ้าหน้าที่มาทำการจับสัตว์เหล่านั้นออกไปค่ะ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีดังนี้
- สัตว์มีพิษเข้าบ้าน ดับเพลิง โทร. 199
- สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โทร. 1669
- หน่วยแพทย์กู้ชีพวชิรพยาบาล โทร. 1554
- แจ้งเหตุด่วน-เหตุร้าย โทร. 191
.........................................
อัพเดทเทรนด์เมคอัพ แฟชั่น เคล็ดลับลดน้ำหนัก และไลฟ์สไตล์ผู้หญิงใหม่ๆ ทุกวัน
ได้ที่แอปพลิเคชัน ทรูไอดี ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!
บทความที่คุณอาจสนใจ
3 วิธีการป้องกันสัตว์มีพิษเข้าบ้าน หน้าฝนแบบนี้ ต้องระวัง!!
8 ต้นไม้ไล่ยุง ปลูกรอบบ้านได้ ไม่มียุงมากวน