รีเซต

6 วิธีเพิ่มการเผาผลาญ เมื่ออายุ 40+ ช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนักเร็วขึ้น

6 วิธีเพิ่มการเผาผลาญ เมื่ออายุ 40+ ช่วยลดไขมัน ลดน้ำหนักเร็วขึ้น
BeauMonde
16 สิงหาคม 2566 ( 10:18 )
14.7K

     หากคุณอายุเกิน 40 ปีและยังรับประทานอาหารเหมือนตอนอายุ 20 ก็ไม่น่าแปลกใจหากคุณจะพบว่าน้ำหนักขึ้น เพราะหลังจากอายุ 25 ปี ระบบเผาผลาญของคนเราจะช้าลงประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ระบบเมทาบอลิซึมเป็นกระบวนการที่ร่างกายเปลี่ยนสิ่งที่กินและดื่มให้เป็นพลังงาน ในระหว่างขั้นตอนนี้ ร่างกายจะได้รับแคลอรีเพื่อใช้เป็นพลังงานในการทำงานส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งอัตราการเผาผลาญจะเป็นตัวกำหนดว่าเราสามารถเผาผลาญแคลอรีได้เร็วแค่ไหน และจะส่งผลต่อความรวดเร็วในการลดน้ำหนัก รวมถึงความง่ายในการควบคุมน้ำหนักให้คงที่ด้วย

     การเผาผลาญพลังงานที่ช้าลงไม่ได้เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่ายหลังอายุ 40 ปี เพราะไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงเมื่อมีอายุมากขึ้น การสูญเสียมวลกล้ามเนื้อตามธรรมชาติก็จะมีมากขึ้น และโดยเฉพาะในผู้หญิง ยังต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่มาพร้อมกับวัยหมดประจำเดือนหรือที่เราเรียกกันว่า วัยทอง ซึ่งหลายคนพบว่ามีไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้น โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง ต้นแขนและต้นขา

     ข่าวดีก็คือเรามี วิธีเพิ่มการเผาผลาญ ที่สามารถช่วยให้ร่างกายของสาว ๆ เผาผลาญพลังงานส่วนเกินได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลไปยังเรื่องของการลดน้ำหนักส่วนเกินและลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้

 

 

6 วิธีเพิ่มการเผาผลาญ เมื่ออายุ 40

 

1. ออกกำลังกาย

     วัย 40+ ยังไม่ใช่วัยที่จะนอนนิ่งอยู่กับที่ การออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสามารถช่วยรักษาและสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง

 

2. กินอาหารในเวลาเดียวกันทุกวัน

     การรับประทานอาหารโดยเว้นระยะห่างในเวลาเท่า ๆ กันทุกวัน ทำให้ร่างกายของเรารับรู้ว่าจะได้รับพลังงานในช่วงเวลาใดบ้าง และยังเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับพลังงานจากการสะสมแคลอรีและยังช่วยลดการเพิ่มไขมันสะสมในร่างกาย

 

3. อย่าอดอาหาร

     เราควรฉลาดในการลดแคลอรี่ รู้หรือไม่ว่าการลดปริมาณแคลอรี่มากเกินไปจะทำให้การเผาผลาญช้าลงด้วย ดังนั้นแทนที่จะเร่งการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร วิธีการแบบนี้กลับยิ่งจะทำสาว ๆ ลดได้ช้าลง

 

4. ดื่มน้ำตามที่ร่างกายต้องการให้ได้ทุกวัน

     การขาดน้ำอาจทำให้จำนวนแคลอรี่ที่ควรเผาผลาญได้ลดลง การรักษาปริมาณน้ำให้อยู่ในร่างกายได้ตลอดทั้งวันจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเราควรดื่มน้ำให้ได้มากกว่า 8 แก้วหรืออย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน

 

5. จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์

    เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จัดเป็นอาหารที่มีแคลอรี่เปล่า ซึ่งแคลอรี่เปล่าหมายถึงพลังงานที่ไม่มีสารอาหารใด ๆ และทำให้ร่างกายไม่สามารถลดน้ำหนักได้ 

 

6. นอนหลับให้มีประสิทธิภาพ 

     การนอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน สามารถช่วยควบคุมฮอร์โมนความหิวและความอิ่มได้ การอดนอนอาจทำให้เราอยากอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน และแป้ง นอกจากนี้ หากอดนอนเป็นประจำ ร่างกายของเราอาจเผาผลาญแคลอรีได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

แท็กยอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้อง