สวัสดีค่า วันนี้พบกับการรีวิวโลชั่นอีกแล้ว หลังจากที่ส่วนมากจะรีวิวแต่สกินแคร์ที่ใช้กับผิวหน้าตลอด ช่วงนี้ก็เลยอยากเปลี่ยนมารีวิวผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวตัวกันหน่อย เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักโลชั่นราคาถูกและดีอย่างเภสัช ตอนเด็ก ๆ ก็จะเห็นคนใช้ยันโตเลยก็มี เพราะด้วยความที่โลชั่นเภสัชเนี่ย เขาค่อนข้างจะคุณภาพดีพอสมควรและราคาไม่แรง ถูกมาก ๆ ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะแบรนด์เขาไม่ได้จ้างทำโฆษณา และไม่มีการจ่ายค่าตัวพรีเซนเตอร์ คือเป็นโลชั่นที่บูมด้วยตัวเองล้วน ๆ เลย ต้นทุนเลยค่อนข้างไม่มาก จะเน้นที่เอากำไรจากผลิตภัณฑ์เลย ส่วนโลชั่นเขานั้นก็ออกมามีหลายสูตรกันมาก ๆ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน และอีกตัวนึงที่ออกใหม่ก็คือตัวโลชั่นเภสัชสีเขียวเนี่ยแหละ ใคร ๆ ก็รีวิวว่าตัวนี้น่ะ ขาวไวนะ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ ขาวจริงเหรอ เรามาดูกันค่ะรูปแบบผลิตภัณฑ์ แน่นอนว่าต้องเป็นฝาเขียว มีรูปดอกไม้ประกอบ ซึ่งในแพคเกจเขาเขียนไว้ว่าเป็นโลชั่นที่ผสมสารกันแดดลงไปด้วย ถ้าเรียกเต็ม ๆ ก็คือสูตรสีเขียวนี่เป็นสูตรผสมอัลฟ่าอาร์บูตินและวิตามิน บี 3 ในชื่อของเภสัช เอ็กซ์ตร้าไวท์เทนนิ่งโลชั่น แต่ใครหลาย ๆ คนก็เรียนมันว่าเภสัชสีเขียว เพราะสูตรเขาออกมามีหลายสีนั้นเอง ตัวนี้มีส่วนผสมเด็ด ๆ ได้แก่ อัลฟ่า อาร์บูติน ช่วยปัญหาในเรื่องของความผิวหมองคล้ำ มีจุดต่างดำเรสเวอราทรอล สารสกัลจากเปลือกองุ่นแดง ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูสดใสวิตามินบี 3 ช่วยยับยั้งของการสร้างตัวเม็ดสีเมลานินที่จะปรากฏบนผิวหนังของเรา ทำให้ผิวดูขาวนั้นเองดับเบิ้ล ซัลสกรีน ปกป้องผิวจากแสงแดด จากรังสี UVA / UVB มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นส่วนผสมเหมือนรวมไว้ในขวดเดียวเลยเนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นเนื้อสัมผัสไม่หนืดมาก ออกไปทางเหลว ๆ นิดนึง เหมือนเนื้อครีมโลชั่นทั่วไปธรรมดา ไม่ได้ว้าวอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ค่ะ ตอนบีบออกมาจะมีกลิ่นหอม ๆ กลิ่นแรงอยู่นะ แต่เราก็โอเคกับกลิ่นเพราะว่าอย่างน้อยมันก็ไม่ได้ฉุนร้ายแรงเท่าตัวขวดสูตรสีฟ้า 555ขณะเกลี่ย ตามภาพจะเห็นว่ามันเหลว ๆ แบบนี้เลย ทำให้สามารถเกลี่ยได้ง่ายและเร็ว ไม่เหนียวนะสำหรับเรา เย็น ๆ ลื่น ๆ ทาเพลิน กลิ่นก็ปกติ เพราะตอนทายังไงกลิ่นมันก็ต้องฟุ้งอยู่แล้วอ่ะเนอะ แต่อย่างที่บอกว่าเราโอเคกับกลิ่นของสูตรนี้ เลยไม่ได้ซีเรียสอะไร เนื้อครีมเวลาซึมไม่ซึมช้าหรือเร็วเกินไป พอดีเลยความรู้สึกหลังทาเสร็จ รู้สึกว่าเนื้อครีมพอทาเสร็จแล้วเขาไม่ทิ้งความเหนอะไว้นะ แต่คิดว่าต้องเหนอะเหลว ๆ แน่นอนเลยหากอากาศที่เราอยู่มันร้อน รู้สึกถ้าเทียบกับตัวโลชั่นทั่วไปเขาจะเหลวง่ายกว่าตัวอื่นถ้าอากาศร้อนมาก ๆ อยู่ได้ประมาณ 6 ชั่วโมง แต่สิ่งที่อยู่นานมากกก็คือกลิ่นของเขานั้นเอง ต้องอาบน้ำนู้นเลย กลิ่นถึงจะออก 555 เรื่องให้ความชุ่มชื่นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีค่ะ ทาแล้วรู้สึกมันซึมและผิวที่แห้ง ๆ ดีขึ้นหลังจากทา เพราะเขามีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ด้วยอ่ะเนอะ ผลลัพธ์หลังจากการใช้ของผู้เขียน เราคิดว่าโลชั่นตัวนี้คุ้มค่ามากถ้าเทียบคุณภาพกับราคา เพราะราคาเขาถูกมากจริง ๆ แถมให้ในปริมาณที่มากอีกต่างหาก ตัวโลชั่นก็ถือว่าให้ผลที่ครอบคลุมอยู่เหมือนกัน ใช้แล้วขนยาวจริงค่ะ 555 เราก็ยาวแต่ไม่ได้ซีเรียสเพราะตัวเองก็ชอบใช้ของเภสัชบ่อย ๆ ค่อยหาตัวมากำจัดขนทีหลังแทน เรื่องของความขาวเราว่ามันต้องใช้เวลา แต่มันขาวขึ้นจริง ขาวแบบสว่างขึ้นมา 1 ระดับ หากหยุดใช้ก็กลับไปเหมือนเดิม เพราะว่าตัวโลชั่นนี้มีส่วนผสมที่ยับยั้งสีผิวเม็ดสีเมลานิน หากหยุดใช้ตัวนั้นไม่อยู่ พอเราเจอแดดเราก็เป็นเหมือนเดิมค่ะ เพราะฉะะนั้นควรใช้เป็นประจำควบคู่กับการทากันแดดไปด้วย เราคิดว่าถ้าเภสัชลองทำผลิตภัณฑ์ที่ไร้น้ำหอมออกมาบ้าง น่าจะตีตลาดของคนที่มีผิวบอบบางได้ด้วยนะ เพราะบางคนก็อยากจะใช้โลชั่นเภสัชเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ติดที่เรื่องของกลิ่นเนี่ยแหละ ฮืออ ปริมาณ : 150 / 250 / 400 mlราคาสินค้า : ประมาณ 35 - 100 บาท (แล้วแต่ช่องทางในการซื้อ)พิกัด : เว็บออนไลน์, ห้างสรรพสินค้าทั่วไปรูปภาพโดยผู้เขียนทั้งหมด ข้อแนะนำ- การทาโลชั่นอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถปกป้องแดดได้ดีพอ แนะนำให้ทาผลิตภัณฑ์กันแดดทับ เพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องแดดได้ดียิ่งขึ้น- การทาครีมบำรุงผิวที่ดี ควรทาหลังจากอาบน้ำพึ่งเสร็จภายในเวลา 3 นาที เพื่อผิวจะได้เปิดรับครีมให้ซึมได้ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการรีวิวเจ้าตัวเภสัชสีเขียวของเรา หากใครที่สนใจก็สามารถไปซื้อได้เลย หาซื้อไม่ยากเพราะเภสัชเขามีขายแทบจะทั่วทุกร้านเลยก็ว่าได้ สำหรับวันนี้เราก็ขอลาไปก่อน หากใครสนใจอยากจะเพิ่มทางเลือกในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ ก็สามารถกดติดตามเราได้ เพราะเราจะอัพเดทให้เรื่อย ๆ เลยค่ะ ใช้เอง รีวิวเองแน่นอน แล้วเจอกันในบทความหน้าน้าา~✨