พอพูดถึงการสร้างสุขภาพที่ดี ส่วนใหญ่เราก็จะนึกถึงการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายเป็นหลัก แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดี ส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายให้เป็นไปอย่างปกติ คือ “การดื่มน้ำ” โดยจะต้องเป็นการดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นประจำวันทุกวัน ก็จะเป็นอีกหนทางหนึ่งของการสร้างสุขภาพที่ดีได้เช่นเดียวกัน มาดู 8 สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย เมื่อคุณดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอเป็นประจำทุกวันกันได้เลยค่ะ น้ำสะอาด สิ่งเรียบง่ายที่แสนสำคัญต่อสุขภาพน้ำเป็นสารอาหารสำคัญต่อร่างกายของเรามาก โดยเฉพาะน้ำสะอาด เพราะในร่างกายของเรากว่า 70% ประกอบไปด้วยน้ำ ไม่ว่าจะเป็นระบบโลหิต ระบบประสาท ระบบการย่อยและดูดซึมอาหาร ระบบขับถ่าย ฯลฯ ก็ดูเหมือนว่าน้ำจะเป็นส่วนประกอบสำคัญไปแทบจะทั้งหมด เราต้องดื่มน้ำวันละกี่ลิตร ร่างกายต้องการน้ำมากเท่าไหร่?ถ้าที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ คือ เราควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 7-8 แก้ว หรือประมาณ 1.5-2 ลิตร ซึ่งส่วนตัวเราจะดื่มน้ำวันละ 1.5 ลิตรเป็นอย่างต่ำทุกวัน น้ำสะอาดเป็นสารอาหารที่เราสามารถดื่มได้ตลอดแทบจะทั้งวัน โดยที่แคลอรี = 0 จึงไม่ต้องกลัวว่าจะส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น หรืออาจจะใช้สูตรคำนวณปริมาณของน้ำที่เราควรดื่มต่อวันโดยการใช้น้ำหนักตัว ด้วยการใช้สูตร น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) x 2.2 x 30/2 = ปริมาณน้ำ (มิลลิลิตร) ที่ต้องดื่มต่อวัน เช่น น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม จะแทนสูตรได้ 50 x 2.2 x 30/2 = 1,650 มิลลิลิตรต่อวันนั่นเอง แต่ทั้งนี้เราก็อาจจะต้องการน้ำเพิ่มมากขึ้นหากใช้แรงเยอะ ออกกำลังกายอย่างหนัก หรือต้องอยู่ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวเป็นเวลานาน จนร่างกายเสียน้ำและเหงื่อมากขึ้น 8 สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายเมื่อคุณดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอเป็นประจำทุกวันเลือดลมไหลเวียนได้ดีมากยิ่งขึ้น ช่วยรักษาระดับความดันให้เป็นปกติ เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญในระบบการหมุนเวียนโลหิต กว่า 90% ของเลือดคือน้ำ หากร่างกายของเราขาดน้ำ เลือดก็ไหลเวียนได้ไม่สะดวก ส่งผลให้ความดันค่อนข้างสูงและอาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรังอื่น ๆ ตามมา ตรงนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของคนในบ้านเราเลยค่ะ คือการดื่มน้ำน้อยมาก จนเลือดข้นและความดันสูง จนหมอต้องสั่งให้ดื่มน้ำมากขึ้น ผิวพรรณเปล่งปลั่งสุขภาพดี เพราะเซลล์ผิวที่สุขภาพดีเกิดขึ้นได้เพราะเซลล์ผิวได้รับสารอาหารจำเป็นที่ครบถ้วน เมื่อเราดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก สามารถนำส่งออกซิเจนและสารอาหารสำคัญให้กับเซลล์ผิวได้ ผิวของเราก็จะเปล่งปลั่ง ยืดหยุ่น ไม่แห้งกร้าน แลดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น สมองปลอดโปร่ง สมองทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพราะน้ำเป็นตัวกลางในการนำสารอาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองของเราปลอดโปร่งและทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ช่วงไหนที่เรากระหายน้ำ หรือรู้สึกว่าดื่มน้ำน้อยจะสังเกตได้เลยค่ะว่าสมองเราจะไม่ค่อยแล่น คิดอะไรไม่ค่อยออกปรับอุณหภูมิภายในร่างกายให้เป็นปกติ โดยอุณหภูมิร่างกายปกติจะอยู่ที่ระหว่าง 35.4-37.4 องศาเซลเซียส แต่ในวันที่แดดจัด อากาศร้อนอบอ้าว หรือวันที่เราต้องออกแรงเยอะเป็นพิเศษ อุณหภูมิภายในร่างกายของเราจะเพิ่มสูงขึ้น การดื่มน้ำสะอาดจะช่วยปรับและรักษาอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ ไม่สูงเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพทานอาหารมื้อหลักได้น้อยลง คุมอาหารได้ดียิ่งขึ้น ใครที่กำลังพยายามลดน้ำหนัก และควบคุมอาหาร สามารถดื่มน้ำประมาณ 1-2 แก้ว จะช่วยให้เราทานอาหารมื้อหลักได้น้อยลง ควบคุมความอยากอาหารได้ดียิ่งขึ้นขับถ่ายคล่อง ไม่ต้องพึ่งยาขับถ่าย ใครที่มีปัญหาขับถ่ายยาก ถ่ายไม่คล่อง แน่นท้อง เราแนะนำว่าลองดื่มน้ำหลังตื่นนอนทันที 1-2 แก้ว จะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดีมาก หลายครั้งที่เราถ่ายไม่ออกเป็นเพราะกากของเสียที่ค้างอยู่ในลำไส้ของเราเป็นก้อนแข็ง จนถ่ายยาก เมื่อเติมน้ำเข้าไปในร่างกายก็จะมีส่วนทำให้กากอาหารเหล่านี้นุ่มลงได้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ตามปกติ หากร่างกายขาดน้ำ ระบบย่อยอาหารก็จะทำงานได้ไม่ปกติ เกิดปัญหาอาหารไม่ย่อย อึดอัด แน่นท้อง เกิดปัญหามีกรดสะสมเข้มข้นมากเกินไปในกระเพาะอาหาร จนทำให้เกิดโรคแผลในกระเพาะอาหารเคลื่อนไหวร่างกายได้คล่องแคล่ว ลดปวดเมื่อยตามไขข้อกระดูก เพราะน้ำจะเข้าไปหล่อเลี้ยงไขข้อกระดูก ทำให้เราสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างสะดวก ส่วนตัวเราเป็นคนที่ดื่มน้ำเยอะมากค่ะ โดยจะดื่มวันละ 1.5 ลิตรต่อวันเป็นประจำทุกวัน จากแต่ก่อนที่ดื่มน้ำน้อยมาก มาตอนนี้ถ้าวันไหนดื่มน้ำน้อยจะรู้สึกได้เลยว่าจะกระหายน้ำ และรู้สึกว่าผิวแห้งมาก ผลลัพธ์ที่ได้หลังการดื่มน้ำเยอะ ๆ ที่สังเกตได้เลยคือ ผิวดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิวละเอียด การขับถ่ายดีขึ้น ยิ่งช่วงไหนที่ลดน้ำหนัก และพยายามจำกัดปริมาณอาหารที่กิน การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยเราได้เยอะมาก กินน้ำอย่างไรให้ได้วันละ 1.5-2 ลิตร?พอคิดภาพว่าต้องดื่มน้ำวันละ 1 ขวดใหญ่สำหรับใครบางคนเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก แต่จริง ๆ แล้วนั้นการดื่มน้ำให้ได้วันละ 1.5-2 ลิตรต่อวันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก ส่วนตัวเราจะมีเคล็ดลับดังนี้ค่ะดื่มน้ำ 2 แก้วทันทีหลังตื่นนอน จะได้น้ำประมาณ 400 มิลลิลิตรใช้กระบอกน้ำขนาดใหญ่ (ประมาณ 1-1.5 ลิตร) ใส่น้ำจนเต็มแล้ววางไว้ใกล้ตัวเสมอ หมั่นจิบน้ำไปเรื่อย ๆ ตลอดวัน ดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนมื้อเที่ยง-เย็น อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนมื้ออาหาร ประมาณ 400 มิลลิลิตรเพียงเท่านี้เราจะดื่มน้ำได้อย่างเพียงพอแบบชิล ๆ แนะนำว่าไม่ต้องดื่มน้ำรวดเดียวในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้เกิดอาการจุกเสียด แน่นท้องเอาได้ หรือไม่จำเป็นต้องตะบี้ตะบันดื่มน้ำแบบเยอะมาก ๆ เช่น ดื่มน้ำ 6-7 ลิตร เพราะอาจจะเสี่ยงทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษได้ ทำให้เซลล์บวม เกิดอาการชักกระตุก กล้ามเนื้อหดเกร็งได้ เห็นไหมคะว่าสุขภาพดีเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย วันนี้คุณดื่มน้ำกันมากพอแล้วหรือยัง? ภาพหน้าปก ภาพที่1 โดย Scrudje จาก canvaภาพเนื้อหา : ภาพที่1 โดย Cats Coming ภาพที่2 โดย Lisa Fotios ภาพที่3 โดย RODNAEProductions จาก pexels / ภาพที่ 4 โดย ผู้เขียน อยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้