ออกกำลังกาย ลดไขมันแบบเร่งด่วนภายใน 30 นาที มาเบิร์นไขมันทั่วตัวให้กระจุยไปด้วยกันกับ 6 ท่าออกกำลังกายแบบ FULL BODY WORKOUT ที่ผู้เขียนรวมมาฝากกัน รับรองได้เลยว่ายิ่งออกเป็นประจำ (ควบคู่ไปกับการกินอาหารให้น้อยกว่าที่ร่างกายใช้) หุ่นก็จะยิ่งลีน กระชับ เผาผลาญแคลอรีได้เยอะ ผลาญไขมันส่วนเกินได้อย่างเห็นผล จะมีท่าไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ 6 ท่า FULL BODY WORKOUT เบิร์นไขมันทั่วร่างกาย ภายใน 30 นาที!! 1.กระโดดตบ (Jumping Jack)มาวอร์มอัปร่างกายให้รู้สึกร้อนๆ กระตุ้นประสาทสัมผัสไปทั่วทั้งตัวด้วยการกระโดดตบกันก่อนค่ะ เริ่มด้วยท่าเตรียมเท้าชิดกัน แขนแนบลำตัว เมื่อกระโดดให้กางขาออก จากนั้นดึงมือขึ้นไปตบเหนือศีรษะ ทำประมาณ 15-20 ครั้ง ทั้งหมด 3 รอบค่ะTips :กันการปวดเท้า ปวดเข่า ให้ใส่รองเท้าออกกำลังกายเพื่อช่วยกระจายแรงเวลากระโดดค่ะสำหรับใครที่เป็นมือโปรแล้ว กระโดดตบเฉยๆ อาจจะไม่เหนื่อยพอ ลองขยับไปเป็นท่า Star Jacks ดูค่ะ จังหวะกระโดดก็กระโดดให้ตัวลอยสูงขึ้นจากพื้น กางแขนและขาออกเหมือนรูปดาว รับรองว่าเหนื่อยสุดพลังแน่นอน 2.Hight Kneeไปต่ออย่าหยุดค่ะ พักเหนื่อยระหว่าง Set สักประมาณ 1-2 นาที แล้วจัดกันต่อที่ท่า Hight Knee เริ่มจากยืนท่าเตรียมตัวตรง จากนั้นให้เริ่มยกเข่าขึ้นสูงๆ สลับข้างกันไปมา ท่านี้จะเหนื่อยพอๆ กับการวิ่งเลยล่ะค่ะ ใครที่เบื่อจากการวิ่งลองปรับมาใช้ท่านี้แทนได้เลย รับรองว่าเหนื่อยสุดๆ เบิร์นจัดๆ ไม่แพ้กันเลย ทำ 15-20 ครั้ง ทั้งหมด 3 รอบTips :พยายามยกเข่าให้สูงที่สุดเท่าที่จะยกได้เลยค่ะเลือกทำจังหวะช้าหรือเร็วก็ได้ค่ะ เอาเท่าที่ไหว ให้เน้นเป็นจังหวะต่อเนื่องก็พอ 3.Sumo Squatsออกกำลังกายให้เบิร์นทั่วทั้งตัวจะขาดท่านี้ไปไม่ได้เลยค่ะอย่างท่า Sumo Squat เพราะใช้กล้ามเนื้อหลายมัดมากๆ รวดร้าวไปทั้งตัว เริ่มจากยืนตัวตรง ก้าวขาให้กว้างเท่าที่ทำได้ จากนั้นย่อตัวลงกดหลังให้ตรง ให้รู้สึกว่าเมื่อยก้นและขา ไม่เอนไปด้านหน้าหรือแอ่นไปด้านหลังเพราะจะทำให้ปวดหลังได้ค่ะ ทำ 15-20 ครั้ง ทั้งหมด 3 รอบ 4.leg Lungeมาเขย่าไขมันที่ขากันอีกท่าด้วยท่า Leg Lunge ค่ะ ให้เริ่มจากท่ายืนเตรียมในท่าตรง จากนั้นก้าวเท้าซ้ายหรือขวาไปด้านหน้า 1 ข้าง ประมาณ 1 ช่วงขา (ไม่ต้องก้าวกว้างมากค่ะ) จากนั้นให้ย่อตัวลงมาจนเข่าตั้งฉากกับพื้น แล้วสลับไปทำกับอีกข้างที่เหลือค่ะ ทำ 15-20 ครั้ง ทั้งหมด 3 รอบ 5.Knee to Chaseยืนกันมาหลายท่าแล้ว มาต่อที่ท่าที่ออกบนพื้นกันบ้างค่ะ ท่า Knee to Chase เป็นท่าที่ทั้งเหนื่อย เบิร์นสุดพลัง แถมยังได้กล้ามเนื้อหลากหลายส่วนมากเลยค่ะ ตั้งแต่ต้นขา หน้าท้อง หลัง ไหล่และแขน เรียกได้ว่าเป็นท่าที่ควรค่าแก่การออกสุดๆ เริ่มจากให้เรานอนคว่ำลงไปบนพื้นค่ะ จากนั้นดันขึ้นมาให้อยู่ในท่าเตรียมวิดพื้น เกร็งตัวค้างไว้จากนั้นยกเข่าขวาขึ้นมาแตะศอกขวา แล้วเปลี่ยนไปอีกด้าน ยกเข่าซ้ายขึ้นมาแตะเข่าซ้ายสลับกันไปมาให้ครบ 20 ครั้ง ใน 1 รอบ ทำซ้ำกันทั้งหมด 3 รอบค่ะTips :พยายามยกเข่าขึ้นมาให้ใกล้ศอกที่สุดเท่าที่ทำไหวค่ะสำหรับมือโปรอาจเพิ่มความเบิร์นขึ้นมาอีกขั้นด้วยการดึงเข่าไปหาข้อศอกฝั่งตรงข้ามเพิ่มในการทำแต่ละครั้ง เช่น เริ่มจากการดึงเข่าขวามาหาศอกขวา แล้วดึงไปหาศอกซ้ายเพิ่มด้วย จากนั้นจึงกลับไปอยู่ที่ท่าเตรียม 6.Plankมาจบที่ท่าสุดท้ายที่เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่เห็นเลยค่ะ ท่า Plank เป็นท่าที่ได้กล้ามเนื้อหลายมัดในร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อหน้าท้อง ขา แขน ไหล่ และยังช่วยให้แกนกลางลำตัวของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ท่านี้เริ่มจากการนอนคว่ำ วางศอกชันกับพื้น (ให้ศอกอยู่ในระดับเดียวกันกับไหล่ทั้ง 2 ข้าง) เท้าอยู่ในลักษณะตั้งตรง หลังตรงไม่โก่งงอ ทริคคือให้กดสะโพกลงเล็กน้อย และเกร็งหน้าท้องเอาไว้ค่ะ เกร็งค้างไว้ 45 วินาที ทำ 3 รอบ ให้พัก 1-2 นาทีระหว่าง Set เพื่อให้ออกได้เต็มที่ในทุก Set และที่สำคัญอย่าลืมจิบน้ำบ่อยๆ ระหว่างการออกกำลังกายด้วยค่ะ วันไหนที่เบื่อๆ การออกคาร์ดิโอแบบเดิมๆ เช่น กระโดดเชือก หรือปั่นจักรยาน ผู้เขียนก็จะเอาท่า Full Body Workout เหล่านี้มาออกสลับกันวนไป ช่วยแก้เบื่อ แถมยังทำให้เราออกกำลังกายได้สนุกมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ โดยผู้เขียนเองจะเปิดเพลงที่มีจังหวะเร็วๆ ฟังไปด้วยระหว่างการออกกำลังกายและจะพยายามออกสเตปให้ตรงกับจังหวะเพลง ทั้งเหนื่อย ทั้งเบิร์นปวดร้าวไปทั่วร่าง แต่รับรองได้ว่าสนุกมากๆ เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านไป 30-40 นาที เผาแคลอรีไปได้เกือบ 300 kcalการออกกำลังกายแบบ Full Body เป็นประจำเราจะเริ่มสังเกตได้เลยค่ะว่าตัวเองแข็งแรงขึ้น รูปร่างและสัดส่วนเริ่มกระชับขึ้นทีละน้อย แถมเวลาไปออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่ง หรือบอดี้เวทเทรนนิ่ง ที่เน้นการออกแยกเป็นส่วนๆ ไป เช่น ออกขา ออกแขน ออกสะโพก ฯลฯ เราจะออกแต่ละส่วนได้ดีขึ้น เพราะเราแข็งแรงขึ้นจากการออกแบบ Full Body มาก่อนแล้ว ช่วยลดน้ำหนักส่วนเกินและรักษาน้ำหนักให้คงที่ได้เป็นอย่างดี อย่างตัวผู้เขียนเองถ้าน้ำหนักเยอะหน่อยจะอยู่ที่ประมาณ 55 kg. ค่ะ ช่วงไหนที่คุมอาหารดีๆ ออกกำลังกายร่วมด้วยก็จะอยู่ที่ 52-53 kg. ซึ่งเป็นช่วงน้ำหนักที่สบายตัว แขนขากระชับเพื่อนๆ ลองเอาทั้ง 6 ท่า FULL BODY WORKOUT ที่ผู้เขียนเลือกจากท่าที่ออกเองเป็นประจำ ไปลองออกกันดูนะคะ รับรองได้ว่าเบิร์นสุดพลัง ไขมันกระจาย สัดส่วนกระชับขึ้นแน่นอนค่ะ ภาพปกบทความจาก canva โดย dangrytsku แต่งเพิ่มด้วย photopeaภาพด้านซ้ายบน ภาพด้านซ้ายล่างภาพตรงกลางภาพด้านขวาล่างภาพด้านขวาบน ภาพประกอบเนื้อหาจาก canva : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 โดย dangrytsku แต่งด้วย photopeaแหล่งที่มาของข้อมูล :แพลงก์และสคอวช ท่าออกกำลังกายยอดฮิต ได้ส่วนไหนบ้างนะ?, Beauty See First *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565