ไหนมีใครชอบดื่มชาเขียวกันบ้างไหมคะ? ชาเขียวจัดเป็นเครื่องดื่มที่วิเศษสุด ๆ เพราะอัดแน่นไปด้วยสารพฤกษเคมีจำนวนมาก การดื่มชาเขียวเป็นประจำทุกวันยังเป็นเคล็ดลับแห่งความเยาว์วัย และการมีอายุที่ยืนยาวของชาวญี่ปุ่นอีกด้วยเช่นเดียวกัน ชาเขียวมีประโยชน์อย่างไร? วันนี้เรามี 6 เหตุผลที่คุณควรหันมาดื่มชาเขียวเป็นประจำทุกวัน รวมถึงวิธีดื่มชาเขียวให้ดีกับร่างกายมากที่สุดมาฝากกัน ชาเขียว เครื่องดื่มของคนสุขภาพดี ชาเขียว น้ำชาสีเขียวใสที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ผู้หลักผู้ใหญ่ชอบดื่มกันเป็นประจำในตอนเช้า ทั้งในปัจจุบันกระแสการดื่มชาเขียวก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มของวัยรุ่น หรือสายคาเฟ่ Hopper หรือแม้กระทั่งเทรนด์เครื่องดื่มชาเขียวแบบพร้อมดื่มที่มีให้เลือกซื้อหลากหลายแบรนด์ ชาเขียวเป็นชาที่ได้มาจากต้นชา ซึ่งชาชนิดนี้จะเป็นชาที่ไม่ผ่านการหมักหรือบ่มแต่อย่างใด (ชาที่ผ่านการหมักหรือบ่ม เช่น ชาดำ ชาเอิร์ลเกรย์ ชาแดง ฯลฯ) โดยจะนำเอายอดอ่อนของใบชามาอบไอน้ำหรือคั่วในกระทะ จากนั้นจึงนำไปอบให้แห้งอีกครั้งด้วยการใช้ความร้อน เพราะขั้นตอนการผลิตชาเขียวที่ไม่ผ่านการบ่มหรือหมักเลยนี้เอง จึงทำให้ในชาเขียวยังคงสารประกอบจากธรรมชาติหรือที่เราอาจเคยได้ยินคำว่า สารพฤกษเคมี (Polyphenol) ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ชาเขียว มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานร่วมพันปี มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ก่อนจะเริ่มแพร่กระจายไปยังหลาย ๆ ประเทศในทวีปเอเชีย ซึ่งชาเขียวที่เราเห็นเป็นน้ำสีเขียวใส แต่ประโยชน์และสารประกอบใน 1 ถ้วยนั้นอัดแน่นมาก ๆ ซึ่งสารสำคัญที่พบได้ในชาเขียว ได้แก่สารคาเฟอีนกรดอะมิโนแอล-ธีอะนีน (Amino acid L-theanine) ธิโอฟิลลีน (theophylline)สารคาเทชิน (catechins)สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (epigallocatechin gallate – EGCG)ซึ่งสารแต่ละชนิดที่พบในชาเขียวมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมาก การดื่มชาเขียว 1 แก้ว จึงดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายได้มากมายกว่าที่เราคิด 6 คุณประโยชน์ที่แสนจะโดดเด่นของชาเขียว1.สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (epigallocatechin gallate – EGCG) ที่พบในชาเขียวเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Super Antioxidants) ช่วยต้านอาการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราอยู่แทบจะตลอดเวลา จึงช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ปัญหาแก่กว่าวัย ลดความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากการอักเสบภายในร่างกาย เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด ฯลฯ2.กรดอะมิโนแอล-ธีอะนีน (Amino acid L-theanine) ในชาเขียวมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยทำให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย การดื่มชาเขียวจึงมีส่วนช่วยทำให้อารมณ์ดี และลดความเครียดลงได้3.ชาเขียวช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้เยอะขึ้น มีงานวิจัยมากมายที่ออกมารับรองว่า สารคาเทชิน และ สารคาเฟอีน ที่พบในชาเขียว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันสะสมในร่างกาย ทั้งยังช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญพลังงาน การดื่มชาเขียวเป็นประจำจึงเป็นตัวช่วยที่ดีของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก และลดไขมันในร่างกาย 4.ชาเขียวช่วยให้ร่างกายตื่นตัว กระฉับกระเฉงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในชาเขียวมีสารคาเฟอีน และสารธิโอฟิลลีน ที่กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยแก้อาการง่วงนอน ทำให้สมองตื่นตัว และร่างกายสดชื่นมากยิ่งขึ้น5.ชาเขียวช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ทั้งโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และอาการหัวใจวาย เพราะในชาเขียวมีสารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (EGCG)6.ชาเขียวมีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพราะสารคาเทชินในชาเขียว จะเข้าไปชะลอการดูดซึมกลูโคสในร่างกาย จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงมากจนเกินไป จึงช่วยลดความเสี่ยงของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือโรคเบาหวาน นอกไปจากนี้ในชาเขียวยังมีกรดอะมิโนจำเป็น และยังอุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินซี และวิตามินอี ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากมาย ดื่มชาเขียวอย่างไรให้ดีต่อร่างกายควรเลือกดื่มชาเขียวแบบชงใหม่ ไม่ปรุงแต่งรสชาติ หรือหากเป็นชาเขียวแบบพร้อมดื่มควรเลือกเป็นชาเขียวแบบไม่มีน้ำตาล ไม่มีสารปรุงแต่งอื่น ๆ เพิ่มเติมปริมาณที่เหมาะสมของการดื่มชาเขียวคือ วันละ 4-55 ถ้วย หรือหากดื่มเป็นขวดก็ไม่ควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนไม่ให้เกินวันละ 200 มิลลิกรัม ซึ่งผู้ที่มีประวัติแพ้คาเฟอีน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับไม่ควรดื่มชาเขียวมีงานวิจัยว่าการบีบน้ำมะนาวลงไปในชาเขียวที่เพิ่งชงสดใหม่ ในปริมาณเล็กน้อย จะช่วยคงสารสำคัญในชาเขียวให้อยู่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นควรดื่มชาเขียวห่างกับมื้ออาหารประมาณ 1-2 ชั่วโมง เนื่องจากสารคาเฟอีนและสารแทนนินในชาเขียวอาจส่งผลต่อระบบดูดซึมอาหารในร่างกายของเราได้ ผู้หญิงที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชาเขียวไปก่อนการดื่มชาเขียวในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องผูก และขับถ่ายยากได้ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคความดันโลหิต หรือโรคไต ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวเพื่อควบคุมปริมาณการดื่มชาเขียวที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล ส่วนตัวเราเองชอบดื่มชาเขียวมากค่ะ โดยจะซื้อชาเขียวแบบพร้อมดื่มติดตู้เย็นเอาไว้เสมอ เวลาที่เหนื่อย ๆ หรือ ร้อน ๆ ก็จะเอามาดื่มให้ชื่นใจทันที ส่วนตัวเราจะเลือกดื่มชาเขียวในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี ทั้งยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน และทำให้การลดไขมันของเราเห็นผลลัพธ์ที่ดี (ทั้งนี้ต้องอาศัยการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายร่วมด้วย) นอกจากนี้หลังจากดื่มชาเขียวอาการอยากของหวาน น้ำหวาน และขนมจะลดน้อยลงอย่างน่าประหลาดใจ สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่เราแนะนำเลยว่าซื้อชาเขียวแบบผงชง แบบถุง หรือแบบขวด (แนะนำแบบไม่หวาน) ติดบ้านเอาไว้ สามารถใช้ดื่มได้ตลอดทั้งวัน และที่สำคัญชาเขียวยังมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างมากมายภาพหน้าปก: ภาพที่1 โดย Anna Pou from Pexels / ภาพที่2 โดย Charlotte May from Pexels / ภาพที่3 โดย ROMAN ODINTSOV from Pexels จาก canvaภาพในเนื้อหา : ภาพที่1 โดย mirkostoedter ภาพที่2 โดย pompi จาก pixabay / ภาพที่3 โดย Anna Pou ภาพที่4 โดย Maria Tyutina ภาพที่5 โดย cottonbro studio จาก Pexels / ภาพที่6 โดย ผู้เขียน อยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้