Zero. Introduction เบื้องต้น เริ่มต้นออกกำลังกาย เดือนกรกฎาคม (เริ่มเดือนนี้ยังทัน สำหรับการตั้งเป้าหมายการมีสุขภาพและรูปร่างที่ดีก่อนจะจบปีนี้ไป ระยะเวลา 6 เดือนต่อจากนี้ ยังคงเพียงพอสำหรับการกระชับสัดส่วนและปลูกฝังนิสัยการออกกำลังกายอีกครั้ง ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าไหร่ แต่เรื่องการออกกำลังกายและดูเเลสุขภาพยังคงสำคัญอยู่เสมอ เพราะกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันยังคงต้องอาศัยสุขภาพที่เเข็งแรงในการลงมือทำ)การออกกำลังกายสำหรับผู้เริ่มต้น ควรมีโค้ช หรือความใส่ใจและระมัดระวังในการเรียนรู้ (เนื่องจากการออกกำลังกายเป็นกิจกรรมการเคลื่อนไหว ดังนั้น ควรมีความรู้ในการออกกำลังกายที่ถูกต้อง เพราะการขยับร่างกายหรือการออกท่าต่างๆ จังหวะการส่งแรง และการลงน้ำหนัก หากว่าออกแรงไม่ถูกต้องก็สามารถทำให้ร่างกายบาดเจ็บได้ ซึ่งการออกกำลังกายท่าต่างๆ ที่มีความถูกต้องเหมาะสม ต้องอาศัยคำแนะนำจากโค้ช หรือผู้เชี่ยวชาญ แม้แต่การวิ่งที่สามารถทำได้ง่ายๆ แต่หากว่าลงน้ำหนักเท้าไม่เหมาะสมก็อาจทำให้เจ็บปวดเท้าได้ หรือกระทบมาถึงข้อเข่า ดังนั้น การเริ่มต้นออกกำลังกายควรมีการศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมก่อนนำมาปรับให้เหมาะสมกับตนเอง การแต่งกายที่เหมาะสม สำหรับการออกกำลังกาย (การแต่งกายที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมาก เพราะการออกกำลังกายที่ทำให้บาดเจ็บ หรือไม่ได้ผลก็อาจมาจากการที่เราไม่ได้ละเอียดในเรื่องของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อาทิเช่น รองเท้า การเลือกรองเท้าที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย ไม่ใช่รองเท้าอะไรก็ได้ เพราะอาจทำให้ข้อเท้าเจ็บและข้อเท้าพลิกได้ง่าย การผูกเชือกรองเท้าเพื่อล็อกข้อเท้า รองเท้าที่หลวมเกินไปอาจทำให้ข้อเท้าพลิกได้ง่าย และการลงน้ำหนักเท้าเวลาออกท่าออกกำลังกายต่างๆ มีความลงน้ำหนักได้ไม่เต็มที่หรือลงน้ำหนักไม่ถูกต้องได้ หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างออกกำลังกาย การดื่มน้ำ ระหว่างออกกำลังกาย (น้ำดื่มมีความจำเป็นอย่างยิ่งไม่เฉพาะช่วงเวลาที่เราออกกำลังกาย ดังนั้น อย่าลืมเตรียมน้ำดื่มไว้ไกล้ๆ ตัวเวลาออกกำลังกายกันด้วยนะ) ซึ่งปริมาณน้ำที่เหมาะสมก็มีความสำคัญ อะไรที่มากไปหรือน้อยไปย่อมส่งผลเสียได้ ดังนั้นสามารถศึกษาเพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆได้ เช่น https://www.sat.or.th/ I. การออกกำลังกายปกติ 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ตัวอย่าง ตารางการออกกำลังกาย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ อย่างน้อยที่สุดควรออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งจากตารางไรท์ทำไว้ 2-3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้เป็นตัวอย่างในการลงเวลาออกกำลังกายให้เห็นชัดและดูง่ายด้วยรูปดอกไม้ II. Yoga แก้ปวดหลัง/ยืดกล้ามเนื้อตัวอย่าง ตาราง Yoga แก้ปวดหลัง/ยืดกล้ามเนื้อ สามารถลงตารางเวลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน สำหรับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ซึ่งตัวไรท์เองนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หากว่าไม่ได้เริ่มยืดเหยียดร่างกายเกิน 2 สัปดาห์จะเริ่มรู้สึกปวดหลัง ซึ่งเพื่อนๆ สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของตนเอง หรือควรปรึกษาผู้มีความรู้และความเชี่ยวชาญ สำหรับในส่วนของท่าโยคะแก้ปวดหลังนั้น สามารถศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ที่เหมาะสมIII. การออกกำลังกายเฉพาะส่วน (ตัวอย่าง หน้าท้อง-ซิกแพค) หากพูดถึงการกระชับสัดส่วน หรือซิกแพค ต้องอาศัยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งไรท์ได้ออกกำลังกายสร้างซิกแพค วันละ 7 นาที โดยไม่ได้คิดว่ากี่เดือนต้องมี แต่ทว่าขอแค่ความสม่ำเสมอ จึงเริ่มต้นแค่วันละ 7 นาที แต่ผลลัพธ์นั้นเกินที่ตั้งใจไว้พอสมควร ซึ่งใช้เวลาหนึ่งเดือนกล้ามเนื้อหน้าท้องเริ่มกระชับเห็นเค้าโครงของซิกแพค และเดือนที่สองเริ่มเห็นชัดขึ้น รู้สึกตัวเบาสบายมากเวลาสวมใส่เสื้อผ้า ซึ่งในเดือนที่สองไรท์เพิ่มเป็นวันละ 14 นาที จากที่ทำตอนเช้า 7 นาที เพิ่มเป็นทำตอนเย็นอีกครั้ง รวม 2 ครั้งต่อวัน ก็เป็นผลลัพธ์ที่ใช้ได้ทีเดียว (อย่างไรก็ตามต้องคำนึงถึงการดูเเลสุขภาพของเราก่อนหน้านี้ด้วย และความแตกต่างของร่างกายแต่ละบุคคล แต่แน่นอนว่าทุกคนสามารถสร้างตารางการออกกำลังกายที่เหมาะสมต่อตนเองได้ หากต้องการเริ่มต้นมีสุขภาพร่างกายที่เเข็งแรง รวมทั้งการศึกษาหาความรู้อย่างเหมาะสมและปรึกษาโค้ชหรือผู้เชี่ยวชาญ)นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังประกอบกับการนอนหลับพักผ่อน และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านบรรลุเป้าหมายการออกกำลังกายตามที่ตั้งใจไว้ และ Start!เริ่มออกกำลังกาย!THANK YOU. เครดิตภาพ:ขอบคุณภาพปกและภาพประกอบ 1, 2 และ 3 : ตกแต่งด้วยแอปพลิเคชัน Canvaขอบคุณภาพพื้นหลังประกอบ 4 จาก: happyveganfit / Pixabayอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้