INFJ คือบุคลิกของผู้แนะนำ ซึ่งมีนิสัยเงียบๆ อ่อนโยน อ่อนไหวง่าย ใจดี มีความเห็นอกเห็นใจสูง สุภาพ เรียบร้อย มองโลกในแง่ดี มีความคิดสร้างสรรค์ มีด้านที่ลึกลับซับซ้อนในตัวเอง มักจะซึมซับอารมณ์และความรู้สึกของคนรอบตัวมาเป็นของตัวเอง มีแรงขับเคลื่อนตามความเป็นจริงในสิ่งที่ตัวเองต้องการไม่ว่าจะเป็นในด้านอาชีพการงานหรือชีวิตส่วนตัว ชอบช่วยเหลือคนอื่น วันนี้ผู้เขียนจะมาเขียนเรื่องวิธีจัดการความเครียดของเพื่อนๆชาว INFJ กัน 1. ใช้เวลานั่งคิดทบทวนชีวิตของตัวเองและให้เวลากับตัวเอง การใช้เวลานั่งทบทวนความเครียดของตัวเองและทบทวนผู้คนรวมถึงสถานการณ์และชีวิตที่ผ่านมานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการจัดการกับความเครียดและช่วยเหลือให้คุณการออกความเครียดได้เร็วมากยิ่งขึ้น ผู้เขียนเป็น INFP นะ เวลาที่ผู้เขียนรู้สึกเครียดหรือต้องการกำลังใจ ผู้เขียนมักจะไปเล่าเรื่องต่างๆหรือขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆชาว INFJ อยู่เสมอ และสิ่งที่ได้กลับมาก็มักจะเป็นหนังสือพัฒนาตัวเอง ผู้เขียนมักจะรู้สึกดีอยู่เสมอเวลาที่มีคนรับฟังสิ่งที่ผู้เขียนคิดและเรื่องที่ผู้เขียนเล่า และรู้สึกบ่อยๆว่าเพื่อนๆชาว INFJ นั้นปลอบใจคนได้เก่งมากๆ รวมไปถึงเป็นคนที่มักจะสร้างบรรยากาศผ่อนคลายเวลาที่คนอื่นเครียดอยู่เสมอ และมักจะช่วยเหลือทางอารมณ์และสนับสนุนทางความรู้สึกได้เป็นอย่างดีในตอนที่มีความเครียดเกิดขึ้นแต่เมื่อเพื่อนๆชาว INFJ มีความเครียด พวกเขามันจะปลีกวิเวกและแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวและใช้เวลาในเซฟโฟน ในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองอยู่เสมอ 2. ทำงานอดิเรกที่ตัวเองชื่นชอบคนเดียว INFJ มักจะตามใจคนอื่น หรือทำตามความต้องการของคนอื่นมากกว่าตัวเองอยู่เสมอ ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่จะชาร์จพลังงานและแบตเตอรี่ของเพื่อนๆชาว INFJ ได้ก็คือการใช้เวลาอยู่คนเดียวและทำงานอดิเรกที่ตัวเองชื่นชอบตามลำพัง อย่างเช่น การนั่งสมาธิ ทำโยคะ ฟังเพลงที่ตัวเองชื่นชอบ ทำ D.I.Y หรือตกแต่งสติ๊กเกอร์ และการทำความสะอาดบ้าน ผู้เขียนเป็น INFP นะ เพื่อนๆชาว INFJ ที่ผู้เขียนรู้จักส่วนมากนั้นเป็นฟรีแลนซ์ พวกเขาใช้เวลาส่วนมากอยู่บ้านวาดรูปคนเดียว หรือไม่ก็เขียนหนังสือ แต่งนิยาย โดยที่ถ้าหากผู้เขียนนั้นใช้เวลา 30 นาทีในการวาดรูปใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการฟังเพลง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการอ่านหนังสือที่ผู้เขียนชื่นชอบ และใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการเขียน Content เพื่อนๆชาว INFJ จะใช้เวลา 8-16 ชั่วโมงรวดเดียวในการเขียนหนังสือ หรือวาดรูปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนั่นก็เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่ทำให้เพื่อนๆชาว INFJ มีความสุขและมีสุขภาพจิตที่แข็งแรงมากขึ้น รวมถึงมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่และลดทอนความเครียดที่เกิดขึ้นด้วยในชีวิตประจำวัน 3. พูดคุยกับเพื่อนๆใช้เวลากับครอบครัวและขอความช่วยเหลือ การพูดคุยกับคนใกล้ชิดที่สนิทกันและไว้ใจได้อย่างเพื่อนๆ ครอบครัว หรือสมาชิกในครอบครัว จะช่วยทำให้ INFJ นั้นผ่านปัญหามาได้ง่าย และเข้าใจสิ่งที่ตัวเองเจออยู่ ผู้เขียนเป็น INFP นะ ผู้เขียนพบว่าบ่อยครั้งที่เพื่อนๆ INFJ ตอนที่มีปัญหาหรือตอนที่มีความเครียด พวกเขามักจะเก็บปัญหาไว้กับตัวเอง เพราะไม่อยากจะรบกวนคนรอบข้างหรือไม่อยากจะทำให้คนรอบข้างเครียดไปด้วย เช่นเดียวกับผู้เขียนที่เวลาที่เจอเรื่องเครียดหรือเรื่องทำให้ดาวน์ ผู้เขียนมักจะไม่ค่อยแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกไปตรงๆ และมักจะเก็บทุกอย่างเอาไว้กับตัวเอง มากกว่าที่จะขอคำปรึกษา คำแนะนำหรือความช่วยเหลือจากใคร นอกจากว่าทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ฟีลแบบจัดการกับความเครียดไม่ได้อีกแล้วซึ่งในบางครั้งชีวิตของคนเราก็ต้องการคนที่รับฟังและให้คำแนะนำเราได้ และมันไม่ใช่เรื่องอายกับการขอความช่วยเหลือและพูดคุยกับคนอื่นก่อนและยอมรับกับตัวเองว่าเราเองก็มีช่วงที่เครียดหรือเราเองก็ต้องการคนรับฟังและต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้างเหมือนกัน 4. มีการจัดการ work Life Balance ในชีวิตของตัวเอง แน่นอนว่าเพื่อนๆชาว INFJ นั้นมีความมองโลกตามอุดมการณ์ มองโลกตามอุดมคติ ต้องการขับเคลื่อนทุกอย่างที่ตัวเองต้องการให้เป็นไปตามสิ่งที่ตัวเองคิดอย่างสร้างสรรค์และมองโลกในแง่ดีจนบางครั้งพวกเขาก็ทำงานหนักมากจนเกิดอาการ Burn out ได้และมีปัญหาสุขภาพตามมาอย่างความเครียดหรือการนอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตในการทำงานและชีวิตส่วนตัว ผู้เขียนรู้จักเพื่อนๆชาว INFJ หลายคนที่ทำงานเกินเวลาและหลังเวลาเลิกงานก็ไม่ค่อยปฏิเสธคำชวนของคนอื่นในตอนที่เขาออกไปปาร์ตี้แม้ว่าเพื่อนๆ INFJ นั้นจะตาล้าและรู้สึกเหนื่อยเกินขีดพลังงานของตัวเองและรู้สึกไม่ไหวแล้ว อยากกลับบ้านพักผ่อนนอนหลับ แต่พวกเขามักจะตามใจคนอื่นเสมอ พวกเขาจึงตามไปด้วย หรือใช้เวลาร่วมด้วยกับเพื่อนๆและเจ้านายหลังเลิกงาน ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกไม่โอเคภายหลัง หรือรู้สึกเครียดในภายหลัง ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนแนะนำก็คือพวกเขาควรมีการจัดการ Work Life Balance ในชีวิตของตัวเอง และหัดปฏิเสธคนอื่นบ้างในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการจะทำและฟังเสียง อารมณ์ ความรู้สึกของตัวเองมากกว่าความต้องการและความรู้สึกของคนอื่น รู้จักรักตัวเอง เอ็นดูตัวเอง และเมตตาตัวเองบ้างก็จะช่วยลดความเครียดในชีวิตไปอีกอย่างหนึ่ง ซึ่ง Work Life Balance สำคัญมากจริงๆในชีวิตของคนทุกๆคนแบบ Work Hard Play Harder ก็จะช่วยให้สุขภาพจิตในชีวิตดีขึ้นและเครียดน้อยลง บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : MBTI 16 บุคลิกภาพ กับ การดูอนิเมะMBTI 16 บุคลิกภาพ กับ ระดับการยอมรับความเสี่ยงในใจMBTI 16 บุคลิกภาพ เมื่อมีเพื่อนมาพักที่บ้านของตัวเองMBTI 16 บุคลิกภาพ กับ การเป็นเจ้านายคนMBTI 16 บุคลิกภาพ เป็นยังไงเวลาเสียใจ ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 โดย Towfiqu barbhuiya/ Unsplash7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์