ช่วงวัยรุ่นหลายๆคนก็อยากที่จะลองปรับลุคของตัวเองให้ดูโตขึ้น และ ตามเทรนด์มากขึ้น อิฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากจะเปลี่ยนลุคเป็นสาวสวย แซ่บ กับเขาบ้างนั่งนอน มโน อยู่ทุกวันว่าจะทำยังไงดีนะ ให้ตัวเองดูเปลี่ยนไปบ้าง ช่วงนั้นจะหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตทีก็ต้อง เสียบสายต่อโมเดม แถมเน็ตก็เร็วกว่าหนอนกระดึ๊บๆนิดเดียวเอง จะให้มานั่งหาข้อมูลออนไลน์ มันดูไม่ค่อยคูลสักเท่าไหร่ สู้ไปหาหนังสือในร้านหนังสืออ่านดีกว่า ช่วงนั้นนิตยสารญี่ปุ่น S Cawaii กำลังเป็นที่นิยม อิฉันจึงควักเงินในกระเป๋าอันน้อยนิด ซื้อนิตยาสารมาหนึ่งเล่ม พอเปิดอ่านก็มีความมโนว่าฉันต้องแต่งตัว แต่งหน้าทำผมให้เหมือน เหมือน Aki Matsumoto ไม่ก็ Natsuko Togo นางแบบในนิตยาสาร แม้เบ้าหน้าและหุ่นไม่ให้ แต่ผมนั้นก็ยังสามารถเปลี่ยนสีให้เหมือนกับเขาได้ และตั้งแต่นั้นมาอิฉันนั้นก็ย้อมผมแบบเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามในนิตยาสารอย่างสนุกสนาน จนมาวันหนึ่งแม่ของอิฉันได้พูดขึ้นมาว่า "เลิกย้อมผมได้แล้ว เคยสังเกตมั้ย ผมร่วงเยอะพอๆกับนเป็นมะเร็ง" ตอนแรกๆก็ไม่เชื่อแม่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาย้อมต่อไปจนกระทั่ง ผมบนหัวหายไปกระจุกนึง ผมแหว่งไปแบบเห็นชัดมากเลยจ้า ณ ตอนนั้นพอสำนึกได้ก็ดึงดราม่าร้องไห้อยู่พักนึง และตั้งเป้าหมายกับตัวเองว่าจะหันกลับมาดูแลผมอย่างจริงจังและไม่ย้อมผมอีก ตอนนั้นเองก็ได้เริ่มหาข้อมูลอย่างจริงจังจนมาเจอเข้ากับวิธี No Shampoo Tutorial ที่ฝรั่งเขาทำกันเลยลองทำตามแรกๆที่ทำนั้นหัวมันเหมือนเอาน้ำมันมาเทลงผมหัวเลยจ้า แต่ตามที่อ่านมาเขาบอกว่าให้อดทนเพื่อที่จะขจัดสารพิษออกจากหนังศรีษะ อิฉันก็อดทนอยู่ 3 เดือน ค่ะคุณขา และผลของการอดทนนั้นคือสภาพผมก็ค่อยๆดีขึ้น ผมนั้นไม่มีกลิ่นใดๆเลย และผมก็ไม่มันและร่วงน้อยลง แต่!!! ด้วยความที่อยากมีผมที่หอมแบบธรรมชาติเลยสรรหาวิธีใหม่ในการสระผมแบบไร้สารเคมี และก็ได้ค้นพบสูตรแชมพูมะกรูดที่ทำให้ผมไม่เสียแถมยังหอมอีกต่างหาก ขอบอกก่อนนะเจ้าคะว่าหนังศรีษะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกวิธีที่แนะนำ ทุกคนจะทำตามและไม่เกิดอาการแพ้ แม้เป็นส่วนผสมของธรรมชาติ ไม่พูดมากแล้วไปดูส่วนผสมกันดีกว่า ทำแชมพูมะกรูดแน่นอนว่าต้องใช้ผลมะกรูดสิคะ อิฉันขอแนะนำว่า ให้ใช้มะกรูดแบบออแกนิคนะคะ เพราะน้ำเยอะและมีกลิ่นหอมมาก ช่วงแรกๆที่ลองทำไปซื้อมะกรูดจากตลาดมาลองทำได้น้ำที่น้อย ผ่ามะกรูดออกมาเนื้อมะกรูดแห้งๆ และกลิ่นไม่ค่อยหอมเท่าไหร่ พอมีโอกาสได้กลับต่างจังหวัด เลยได้ไปขอสอยมะกรูดจากต้นของเพื่อนบ้านมาทำแชมพูมะกรูดปรากฎว่ามะกรูดหอมมาก น้ำเยอะและเนื้อด้านในไม่แห้ง เอาเป็นว่าไปหามะกรูดที่ปลูกแบบไม่ใช้สารเคมีมาทำกันนะคะ ถ้าหาไม่ได้จริงๆให้เลือกซื้อมะกรูดที่ลูกใหญ่และน้ำเยอะหน่อยประมาณ 1 กิโลกรัม ล้างน้ำให้สะอาดและฝานเป็นแว่นๆ เอาเมล็ดออกให้หมด ห้ามเหลือเด็ดขาด!!! ตามด้วยดอกอัญชันที่ซัก 10 ดอกหรือหนึ่งกำมือ สรรพคุณของอัญชันช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศรีษะ ทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น ทำให้ผมร่วงน้อยลง อย่าลืมล้างดอกอัญชันให้สะอาดนะจ้ะ ตามด้วยดอกเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ (Flower of Salt) ดอกเกลือ คือผลึกเหลือที่ได้จากการทำนาเกลือทะเล ชาวนาเกลือจะเก็บดอกเกลือที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ในตอนเช้าก่อนที่จะจมลงไปดอกเกลือสะอาด บริสุทธิ์ มีโซเดียมคลอไรด์ต่ำกว่าเกลือปกติ และมีแร่ธาตุตัวอื่นสูงกว่าเกลือปกติ จึงมีรสชาติกลมกล่อม ไม่เค็มจัด มีประโยชน์ที่มากมาย ดอกเกลือยังช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วเปิดรูขุมขุน ขจัดความมันมันบนหนังศรีษะ และช่วยขจัดสารเคมีที่อยู่บนหนังศรีษะได้ด้วยนะ หาซื้อได้ตามจังหวัดที่ทำนาเกลือ เช่น สมุทรสาคร หรือ เพชรบุรี หรือทางออนไลน์ก็มีขายหลายร้านเลยล่ะ พอได้ผสมทุกอย่างครบแล้วก็นำมะกรูดหั่นแว่นที่นำเมล็ดออกหมดแล้ว , ดอกอัญชัน และ ดอกเกลือ ใส่ลงไปในหม้อเติมน้ำให้พอท่วมและก็ต้มได้เลยจ้า จะต้มด้วยแก๊สหรือเต่าถ่านก็ได้ แล้วแต่สะดวกเลยจ้า ต้มแค่พอให้มะกรูดเปื่อยประมาณ 50 นาที หลังจากต้มเสร็จทิ้งไว้ให้เย็น และนำไปปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด และนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อแยกเอาเนื้อและน้ำมะกรูดออกจากกัน เก็บน้ำมะกรูดใส่ขวดและเก็บไว้ในตู้เย็น จะเก็บไว้ได้นาน ประมาณ 1 เดือน แต่กลิ่นจะค่อยๆจางลง แชมพูสูตรนี้ไม่ได้ใส่สารเคมีใดๆและไม่มีฟอง เป็นกลิ่นและสีจากธรรมชาติ ใช้แทนแชมพูทั่วไปได้เลย ช่วงแรกๆที่หนังศรีษะจะขับเอาน้ำมันและสารเคมีที่สะสมบนหนังศรีษะออกมาทำให้ ผมมันเหมือนเอาน้ำมันทาหัว แต่ถ้าคุณอยากที่จะได้ผมที่นุ่มสลวยล่ะก็ท่องไว้สามคำค่ะว่า จง - อด - ทน ช่วงระยะเวลาที่หนังศรีษะและผมมันนี้จะหมดไปช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสารเคมี บนหนังศรีษะของคุณว่ามากน้อยแค่ไหน เมื่อก่อนอิฉันสระผมด้วยแชมพูทั่วไปและ หมักผมด้วย ทรีทเมนท์บำรุงผม ผมจะนุ่มลื่นแค่ช่วงแรกๆ แต่หลังๆมาผมเริ่มร่วงและแห้งเสีย พ่อเริ่มมาใช้วิธี No Shampoo และ เริ่มมาใช้แชมพูสูตรนี้สระผมแรกๆหัวก็มันอย่างที่บอก เกือบสองเดือน สำหรับอิฉันนั้น สองเดือนถือว่าไม่นานเพราะเราสะสมสารเคมีบนหนังศรีษะมานาน มากกว่านั้น ขอบอกก่อนว่าอิฉันไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านหนังศรีษะและเส้นผม แต่จากการที่ได้ลองใช้เองจริงๆ ผลที่ได้มันดีต่อใจมาก แชมพูสูตรนี้สามารถใช้ได้กับคนที่หนังศรีษะแห้ง เป็นรังแค และต้องการความชุ่มชื้น ให้กับหนังศรีษะและเส้นผม แต่ถ้าคุณเป็นคนหนังศรีษะมันแนะนำให้เติม สิ่งนี้เลยจ้า เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) นั่นเองเวลาซื้อต้องดูดีๆนะ ต้องเป็นเบกกิ้งโซดา เท่านั้นเพราะถ้าเป็นผงฟู หรือ ผงฟูดับเบิ้ลแอกชั่น มันจะไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ต่อผมคุณเลยนะขอบอก สำหรับคนที่หนังศรีษะมัน เวลาจะใช้แชมพูมะกรูด ให้เทแชมพูใส่ในขันหรือถ้วย กะปริมาณแชมพูมะกรูดให้สามารถชโลมได้ทั่วทั้งศรีษะ และเติมเบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ช้อน ชาลงไปผสมกับแชมพูมะกรูด *คำเตือน ห้ามนำเบกกิ้งโซดาไปผสมตอนต้มแชมพูเด็ดขาด เพราะเมื่อบรรจุลงขวด และเก็บเอาไว้จะทำให้เกิดแก๊ส พอเปิดขวดออกมาแชมพูมะกรูดของคุณจะพุ่งขึ้น เต็มบ้านเหมือนยิ่งกว่าตอนเปิดขวดแชมเปญเลยล่ะ ที่เตือนเพราะลองทำมาแล้วด้วยความที่ขี้เกียจเอามาผสมแยกต่างหาก พอเปิดขวดออกมา ก็ ปุ้ง!!!! พุ่งเต็มบ้านไปเลยจ้า วันนั้นบันเทิงมากเลยล่ะ ปีนเช็ดแชมพูมะกรูด บนเพดานบ้าน และ ที่กระจายไปเต็มบ้าน เพราะฉะนั้นก็อย่าทำตามอิฉันเลยนะจ้ะ แม้มันจะดูยุ่งยากหลายขั้นตอนแต่รับรองว่าคุ้มที่ลงมือทำแน่นอน และท่องไว้เสมอว่าถ้าจะใช้ต้องมาผสมกันทีหลังเท่านั้น!!!!!!!! เมื่อนำแชมพูมะกรูดที่ทำตามสูตรด้านบนผสมกับเบกกิ้งโซดา แชมพูก็จะกลายเป็นสีเขียว แบบในภาพ ไม่ต้องตกใจไปให้นำมาชโลมบนหนังศรีษะ ขยำๆเบาๆ และ หมักทิ้งไว้ ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้สำหรับคนที่หนังศรีษะมันจะช่วยลดความมันบนหนังศรีษะลงได้ **คำเตือน แชมพูแบบไหนก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้แล้วไม่แพ้ ถ้าหากรู้สึกแสบหนังศรีษะ ให้ผสมแชมพูกับน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดมากๆ ภาพมี่ใช้ในบทความ DETOX!!! กู้ผมเสียให้กลับมาสวยด้วยแชมพูมะกรูด เป็นภาพที่ผู้เขียนถ่ายเองทั้งหมดห้ามนำไปดัดแปลง แก้ไข ทำซ้ำ หรือนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เนื้อหาในบทความทั้งหมดเกิดจากการที่ผู้เขียนทดลองใช้เองและนำมาถ่ายทอดให้ทุกคนได้อ่าน ผ่านทางเว็บไซต์ของ True ID ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอขอบคุณข้อมูลสรรพคุณดอกเกลือจากเว็บไซต์ www.banphuesalt.com ขอขอบคุณข้อมูลสรรพคุณดอกอัญชัญจากเว็บไซต์ www.honestdocs.com