Cover Image by marijana1 from Pixabay ฉันตื่นเช้ามาด้วยอาการเจ็บคอที่ไม่ใช่หวัดมาหลายวัน เดาได้จากประสบการณ์ก็รู้ว่ามาจากอาการกรดไหลย้อน การกินขนมก่อนนอนตอนดูซีรี่ส์นี่ล่ะคือสาเหตุ นี่คือที่สุดแห่งนิสัยการกินที่ไม่ดี เลิกไม่ได้สักทีทั้งที่พยายามมาหลายรอบ วันนี้ฉันจับเข่าคุยกับตัวเองอย่างเคร่งเครียด ว่าต้องแก้นิสัยนี้แบบซีเรียสได้แล้ว คุณอาจโชคดีกว่าฉันที่กินแล้วล้มตัวลงนอน แต่โรคกรดไหลย้อนยังไม่ถามหา แต่ขอให้ระวังไว้เลยนะว่า วันหนึ่งมันจะเริ่มมาเยือนแน่ ๆ การกินขนมหรือของว่างก่อนนอนของฉัน ไม่ได้เกิดขึ้นจากความหิวแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะความอยากขบเคี้ยวอะไรสักอย่าง ความรู้สึกนี้มักเกิดตอนที่ภารกิจประจำวันจบสิ้น เกิดความรู้สึกว่ากำลังพักผ่อน ฉันจะเริ่มเปิดซีรี่ส์โปรดดูก่อนนอน ซึ่งต้องมีของกินเล่นให้หยิบเข้าปากไปด้วยถึงจะฟิน บอกเลยว่าตอนกินน่ะสุข แต่ทุกข์มาโผล่ตอนตื่น เพราะในตอนกลางคืนกระเพาะอาหารยังปล่อยน้ำย่อยออกมาทำงาน ในยามที่เราล้มตัวลงนอน กรดมันจึงไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร พาลทำลายทุกสิ่งที่อยู่ลำคอ Photo by Handy Wicaksono on Unsplash ทุกคืนฉันสวาปามขนมด้วยความเอร็ดอร่อยปะปนกับความรู้สึกผิด เป็นสุขนิด ๆ ที่เจือปนด้วยทุกข์น้อย ๆ แม้ไม่หิวแต่ไม่รู้จะรับมือความอยากได้ยังไง รู้แต่ว่าขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป มะเร็งคงอยู่ไม่ไกลเกินมือเอื้อม ฉันลงมือค้นคว้าหาสารพัดวิธี เพื่อที่จะกำราบนิสัย “กินก่อนนอน” นี้แบบเข้าถึงสาเหตุ จนถึงจุดนี้เริ่มจะเข้าใจ จึงเอามาแบ่งปันสำหรับคุณผู้อ่านคนไหน ที่กำลังอยากเลิกนิสัยอันตรายนี้เหมือนกัน และนี่คือ 7 วิธีแก้ไข ปรับเปลี่ยนนิสัยชอบกินขนมก่อนนอน 1. แปรงฟันทันทีหลังอาหารเย็น อันนี้น่าจะช่วยได้มากทีเดียว เพราะทุกครั้งที่เราแปรงฟัน จะรู้สึกสดชื่นทั้งปากและไม่อยากกินอะไรต่อ ตอนเด็ก ๆ เรามักแปรงฟันก่อนเข้านอน สมองจึงถูกโปรแกรมว่า “จบการกินวันนี้แล้วนะ” หากดีเลย์การแปรงฟันออกไป เช่น เดี๋ยวกินของว่างจบแล้วค่อยแปรงก่อนนอนทีเดียว ปากเรายังไม่สดชื่นสะอาดด้วยรสมินท์ ความอยากกินก็จะยังไปต่อ 2. ดื่มชาแทนขนมขบเคี้ยว อันนี้เป็นสิ่งที่ลองทำและเกือบได้ผล ฉันเปลี่ยนจากกินของขบเคี้ยวมาดื่มชาใบหม่อน ซึ่งจิบร้อน ๆ ตอนดูซีรีส์แล้วฟินมาก แต่ยอมรับว่าบางทีเผลอใจ แอบหาอะไรอร่อย ๆ มากินแกล้มชาไปด้วย ดังนั้นปีนี้ต้องเริ่มใหม่ เปลี่ยนนิสัยกลับมาจิบแต่ชาอย่างเดียวจบ ข้อดีของชาอุ่น ๆ คือทำให้ตุ่มรับรสหมดความโหยของหวาน และสร้างความผ่อนคลายสบายตัวหลังเหนื่อยล้ามาทั้งวัน Photo by Debby Hudson on Unsplash 3. พักผ่อนให้เต็มอิ่ม การนอนไม่พอทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดที่ทำให้เกิดความหิว ควรนอนให้เต็มอิ่มจะทำให้ร่างกายทำงานเข้าที่ ดังนั้นดูซีรี่ส์แค่พอสมควรแล้วปิดทีวีนอนเลย ปิดทีวีก็ปิดความอยากขบเคี้ยวไปด้วย 4. กินอาหารทั้งวันให้สมดุล การกินอาหารเช้าจำเป็นมาก เพราะเป็นการเริ่มระบบเผาผลาญครั้งแรกของวันใหม่ ควรทำให้การบริโภคอาหารตลอดทั้งวันมีความสมดุล ถ้าคุณไปเริ่มต้นกินครั้งแรกมื้อเที่ยง คุณจะบริโภคหนักกว่าที่ควร หากเราสามารถเฉลี่ยการกินอย่างสมดุลและพอเพียงตลอดวันแล้ว ความอยากกินในตอนค่ำจะลดน้อยลงเอง 5. แยกพื้นที่การกินกับการนอนออกจากกันให้เด็ดขาด สังเกตเพื่อนๆ คนอื่นที่ไม่มีปัญหา มักเป็นคนที่มีวินัยเด็ดขาดในเรื่องนี้ ต่างจากฉันที่อนุญาตให้ตัวเองเอาขนมเข้ามาไว้ในห้องนอนได้ เมื่อเลือกที่จะดูทีวีในห้องนอน แปลว่าฉันจะอพยพขนมเข้ามาในห้องนอนด้วย ถ้าตั้งกฏว่าทุกครั้งที่อยากกิน ต้องออกไปยืนกินในครัวเท่านั้น ฉันคงกินขนมน้อยลงไปเยอะ Photo by Nicole Wolf on Unsplash 6. สลับลำดับการทำกิจกรรม อันนี้ยากแต่น่าสนใจ ทำไมเราต้องเอาเวลาดูซีรี่ส์ที่ทำให้อยากขบเคี้ยวมาไว้ก่อนนอนล่ะ สลับมันได้ไหม เปลี่ยนไปดูซีรี่ส์ตอนช่วงอาหารเย็นแทน แล้วสลับเอากิจกรรมอื่นที่สร้างความสุขมาทำในช่วงก่อนนอน ต้องเป็นกิจกรรมที่ได้พักผ่อน มีความสุข และมือไม่ว่าง (จะได้ไม่หยิบขนมใส่ปาก) เช่น ทำการฝีมือ เขียนไดอารี่ โยคะเบา ๆ 7.แก้สาเหตุทางอารมณ์ ฉันพบว่าตัวเองกินไม่หยุดทั้งที่ไม่หิว ต่อให้กินของอร่อยแค่ไหนก็ยังกินอะไรต่อได้อีก เป็นไปได้ไหมว่าบางทีมันอาจจะไม่ใช่ปัญหาระหว่างฉันกับอาหาร แต่เป็นปัญหาระหว่างฉันกับอารมณ์ ฉันอาจจะมีความรื่นรมย์กับชีวิตทั้งวันยังไม่พอ เรื่องนี้เป็นนามธรรมที่วัดยาก ฉันตั้งใจจะหากิจกรรมที่ทำให้ตัวเองรู้สึกเต็มอิ่มมากขึ้นในระหว่างวัน ฉันจะได้ไม่ต้องเอามันมาลงเอยกับการกินอีก Photo by Caju Gomes on Unsplash ไม่ว่าสาเหตุจะเกิดจากอะไร และคุณเลือกที่จะเปลี่ยนนิสัยนี้ด้วยวิธีไหน เชื่อเถอะคุณไม่ได้เผชิญกับปัญหานี้คนเดียวในโลก ฉันเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจ ไม่มีนิสัยเสียอะไรที่เราแก้ไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องใช้เวลา แค่มีความมุ่งมั่นตั้งใจก็เหมือนจะมีโอกาสทำได้แล้วเกือบครึ่ง นักวิ่งลงได้สตาร์ทแล้วยังไงก็ออกวิ่งจนได้ ต่อให้สะดุดล้มกลางทางก็ไม่เป็นไร แค่ลุกขึ้นมาเริ่มใหม่ ต้องวิ่งถึงเส้นชัยแน่นอนในสักวัน