อยากวิ่งออกกำลังกาย 10 นาที ในตอนเช้า ทำยังไงดี / บทความโดย Pchalisaผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนรู้ว่าการออกกำลงกายมันดียังไง แต่สิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆ น่าจะอยู่ในส่วนของการลงมือทำมากกว่า จริงไหมคะ? เพราะก่อนหน้านี้โดยส่วนตัวของผู้เขียนเองก็ไม่ได้ออกกำลังกายที่เป็นแบบแผนเหมือนในตอนนี้เหมือนกันค่ะ แต่หลังจากที่ได้สังเกตตัวเองมาสักระยะหนึ่ง เกี่ยวกับว่าทำไมผู้เขียนสามารถออกกำลังกายได้นั้น จึงเกิดข้อมูลที่ตกตะกอนที่สามารถนำมาใช้ในเรื่องของการวิ่ง 10 นาที ได้ด้วยดังนั้นจึงเป็นความโชคดีที่ในบทความนี้ ผู้เขียนขอส่งต่อเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะทำให้ตัวเราเองพาตัวเองออกไปวิ่งให้ได้ อย่างน้อยเป็นเวลา 10 นาทีค่ะ เพราะเราต่างก็รู้มาว่าการออกกำลังกายคือแนวทางส่งเสริมสุขภาพ พอเป็นแบบนี้แล้วคุณผู้อ่านต้องอ่านให้จบและนำไปปรับใช้ค่ะ รับรองว่าการวิ่ง 10 นาที จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในแล้วในชีวิต งั้นอ่านต่อกันเลยดีกว่าแนวทางง่ายๆ ที่จะช่วยให้เราวิ่งออกกำลังกาย 10 นาที ในตอนเช้าได้สำเร็จ1. เตรียมตัวล่วงหน้าเรื่องยากมักง่ายขึ้นตอนเรามีการวางแผนล่วงหน้าค่ะ ซึ่งคำพูดนี้ก็สามารถใช้ได้กับการออกไปวิ่ง 10 นาที ด้วย โดยที่ผ่านมาสิ่งที่ผู้เขียนต้องนำมาคิดวางแผนล่วงหน้านั้น จะเกี่ยวกับบางประเด็นเท่านั้น เช่น จะใส่ชุดไหนดี จะออกไปวิ่งตอนกี่โมง จะไปคนเดียวหรือพาเด็กๆ ไปด้วย น้ำดื่มต้องเอาไปไหม ถ้าไปขวดไหนหรือไปซื้อใหม่ และจะไปวิ่งตรงไหนดี ซึ่งนี่คือหลักๆ เลยค่ะ ที่ผู้เขียนต้องได้คิดก่อนเสมอ ก่อนจะออกไปวิ่งข้างนอก โดยในตอนหลังมาการเตรียมตัวล่วงหน้าจะรวดเร็วขึ้น เพราะคล้ายกับว่าเราก็จะเริ่มมีรูปแบบของสิ่งที่ต้องเตรียมคล้ายๆ เดิม สำหรับสถานที่ผู้เขียนชอบไปใต้สันเขื่อนค่ะ เพราะไม่มีรถผ่านและคนน้อย บรรยากาศดี สามารถวิ่งได้ยาวๆ เพราะถนนเส้นนี้ค่อนข้างไกลพอสมควร ยาวไปตามแนวสันเขื่อน ก็ราวๆ 1.5 กิโลเมตรค่ะ2. ปรับเปลี่ยนนิสัยการนอนการเข้านอนเร็วขึ้นมีส่วนอย่างมาก ที่ไปทำให้การออกกำลังกายในตอนเช้าเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ค่ะ ดังนั้นควรพยายามเข้านอนให้ตรงเวลา เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ และให้ตื่นเช้ากว่าปกติสักเล็กน้อย ที่อาจปรับนาฬิกาปลุกให้ดังก่อนเวลาที่ต้องการออกวิ่งสัก 15-30 นาที ก็ได้ แต่สำหรับผู้เขียนตอนนี้เลยนะคะ สามารถตื่นนอนและเข้านอนเวลาใกล้เคียงเดิมได้แบบไม่ต้องมีนาฬิกาปลุกเลยค่ะ โดยจะเข้านอนก่อนสี่ทุ่มและสามารถตื่นมาแถวๆ ตีห้าครึ่งได้เองง่ายๆ เลย 3. สร้างแรงบันดาลใจสำหรับบางคนอาจจำเป็นต้องมองหาเพื่อนมาวิ่งด้วยกัน เพราะการมีเพื่อนวิ่งไปด้วย จะช่วยให้เรารู้สึกสนุกและมีกำลังใจมากขึ้น ง่ายๆ เลยค่ะ อะไรที่เราไม่สนุกในโลกนี้ เราจะทำมันได้ไม่นาน ต่อให้เราจะรู้วิธีการทำสิ่งนั้นเป็นอย่างดีก็ตาม ดังนั้นความสนุกคือกุญแจสำคัญ ความสนุกในบางทีก็ต้องมีความง่ายร่วมด้วยนะคะ เพราะอะไรที่ไม่ง่าย เราก็มักหาทางถอยอีก โดยส่วนตัวผู้เขียนได้ผ่านจุดนี้ไปแล้วค่ะ คือตอนนี้ต่อให้ใครจะมาวิ่งด้วยหรือไม่มาวิ่งด้วย ก็ไม่ได้ส่งผลต่อความตั้งใจว่าจะไปวิ่งให้ได้ 10 นาทีค่ะ4. ติดตามความคืบหน้าการมีโปรแกรมบันทึกเกี่ยวกับการวิ่งของเรา บันทึกระยะทางที่วิ่งได้ เวลาที่ใช้ พลังงานที่เผาผลาญได้ ความเร็วในตอนวิ่งและอื่นๆ ทำให้เรามีการโฟกัสในเรื่องการวิ่งได้ดีขึ้นค่ะ เพราะอย่าลืมว่าอะไรที่เราใส่ใจ มันก็จะมีมากขึ้น ยิ่งเราได้เห็นว่าตัวเองวิ่งได้เร็วแค่ไหน ใช้พลังงานไปเท่าไหร่ ข้อมูลทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีส่วนผลักดันให้เราอยากมาวิ่งมากขึ้นทั้งนั้น สำหรับผู้เขียนมักใช้โปรแกรมบันทึกการวิ่งในแอป Samsung health ค่ะ ซึ่งก็จะดูง่ายดี มีข้อมูลที่สำคัญและต้องการจริงๆ ดูแล้วไม่รกลูกตาค่ะ5. สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายก็อย่างที่ได้เกริ่นมาบ้างแล้วนะคะว่า ความสนุกมีส่วนกระตุ้นให้เราอยากไปวิ่งมากขึ้น ดังนั้นคุณผู้อ่านต้องลองเปิดเพลงที่ชอบในระหว่างนั้นดูค่ะ เพราะเพลงที่คุณชอบจะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสนุกกับการวิ่งมากขึ้นได้ ให้หาสถานที่ที่เงียบสงบ เนื่องจากการวิ่งในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ จะช่วยให้เราผ่อนคลายและจดจ่อกับการออกกำลังกายได้ดีขึ้น อย่างในกรณีของผู้เขียนนั้นจะไปวิ่งตอนถึงถนนเส้นใต้สันเขื่อนเท่านั้นค่ะ ไม่เคยวิ่งออกจากบ้านเลย เพราะหมาเยอะมาก รถก็เยอะ เลยขอเลี่ยงการทำแบบนี้ และปกติไม่ฟังเพลงตอนวิ่งค่ะ เพราะชอบแบบเอาสมาธิไปอยู่ที่การวิ่งทั้งหมด ซึ่งก็ไม่ได้น่าเบื่ออะไรนะคะ6. ให้รางวัลตัวเองเนื่องจากว่าในสมองของคนเรามีโปรแกรมการให้รางวัลเกิดขึ้น พอเราได้รางวัล เราก็มีความสุขและอยากทำมากขึ้น ติดการได้รางวัลและอยากทำซ้ำ ดังนั้นพอไปวิ่งได้ครบ 10 วัน ลองให้ซื้อของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ กับตัวเองดูค่ะ ซึ่งเคล็ดลับข้อนี้ผู้เขียนก็ทำบ้าง แต่ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต ก็อย่างที่ได้บอกค่ะว่าผู้เขียนเป็นคนที่หันมาใส่ใจด้านสุขภาพ จนเลยจุดที่ไม่ได้เอาตัวเองไปยึดติดกับสถานการณ์ภายนอกแล้ว แต่นานๆ ทีก็มีให้รางวัลตัวเองบ้างนิดๆ หน่อยๆ พอเป็นพิธีเคล็ดลับการวิ่ง 10 นาทีให้ได้ประโยชน์สูงสุดวอร์มอัพ: ก่อนวิ่งควรวอร์มอัพประมาณ 5 นาที เช่น เดินเร็ว กระโดดตบ หรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมนะคะวิ่งในระดับความเร็วที่เหมาะสม: ไม่จำเป็นต้องวิ่งเร็วมากเสมอไป แต่เรายังสามารถปรับความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคนได้หายใจให้สม่ำเสมอ: พยายามหายใจเข้าทางจมูกและหายใจออกทางปากค่ะคูลดาวน์: หลังวิ่งควรคูลดาวน์ประมาณ 5 นาที เช่น เดินช้าๆ หรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อนะคะเคล็ดลับเพิ่มเติมเริ่มต้นอย่างช้าๆ: อย่าพยายามวิ่งเร็วเกินไปในตอนแรก ให้เริ่มต้นด้วยการเดินเร็วๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นค่ะฟังเสียงร่างกาย: ถ้ารู้สึกเหนื่อยเกินไป ให้หยุดพักได้เลยอย่ากังวลเรื่องเหงื่อ: การออกกำลังกายทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติมีความสุขกับการออกกำลังกาย: ต้องเตือนตัวเองตลอดค่ะว่า การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุก มันไม่ใช่ภาระในชีวิต เพราะถ้าไม่คิดออกกำลังกาย ก็ไม่แน่ว่าอาจได้ภาระใหม่เข้ามาในชีวิตแบบไม่รู้ตัวก็ได้ ใครจะไปรู้!และสิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอค่ะ การวิ่งเพียง 10 นาที ในตอนเช้า ถึงแม้ว่าอาจดูเหมือนน้อยนิด แต่ถ้าทำได้อย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลดีต่อสุขภาพของเราอย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งผลลัพธ์ของเราแต่ละคนที่ได้ ก็จะแตกต่างกันไป เพราะเราแต่ละคนก็ต่างก็มีพื้นฐานด้านสุขภาพที่ไม่เหมือนกัน จริงๆ เรื่องแนวทางดันตัวเองให้ไปวิ่งสำหรับผู้เขียนนั้น ในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องอ่านค่ะ เพราะอยู่ในใจเสมอ ว่าต้องทำอะไร จะมีเฉพาะในส่วนของการเตือนตัวเองไม่ให้วิ่งเร็วเกินไป เพราะบางทีก็ลืมตัวเนื่องจากมีเวลาน้อยค่ะและโดยส่วนมากแล้วถ้าต้องไปวิ่ง ผู้เขียนก็สามารถทำได้จนสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้นะคะ อย่างไรนั้นคุณผู้อ่านลองอ่านและทำความเข้าใจดูก่อนก็ได้ จากนั้นค่อยๆ เอาไปปรับใช้ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากถ้าชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ😃เครดิตภาพประกอบบทความภาพหน้าปก โดย Tirachard Kumtanom จาก Pexelsภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1-3,5 โดยผู้เขียน และภาพที่ 4 จากแอป Samsung healthออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaเกี่ยวกับผู้เขียนภัคฒ์ชาลิสา จำปามูลศึกษาเกี่ยวกับ: พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://intrend.trueid.net/post/439314 https://intrend.trueid.net/post/349679 https://intrend.trueid.net/post/349587 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !