อายุก็เท่ากันแต่ทำไมหน้าของเราดูแก่กว่า? เพื่อนๆ เคยประสบปัญหามาเจอเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันแต่พบว่าหน้าเราล้ำกว่าวัยไปไหมคะ? หรือใครที่อาจเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ พอมองกระจกอีกทีริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ผิวหมองคล้ำก็มาแบบจัดเต็มโดยที่ไม่รู้ตัวเพราะพฤติกรรมทำผิวของเราให้เหี่ยวย่น แห้งเสีย มีริ้วรอยนั้นใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด แถมบางอย่างเรายังทำบ่อยมากเพราะความเคยชินจนไม่รู้ตัวอีกด้วย วันนี้เราเลยอยากขอพาเพื่อนๆ มาส่อง 6 พฤติกรรมทำผิวแก่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีผิวก็แย่จนน่าตกใจ มีพฤติกรรมอะไรบ้างนั้นมาดูกันได้เลยค่ะ 1.ไม่ใช้ครีมกันแดด หรือใช้ครีมกันแดดน้อยเกินไปมีใครเป็นเหมือนเราบ้างไหมคะ ที่ไม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเพราะรู้ว่าแสบหน้าและเหนียวเหนอะหนะสุดๆ จนเราปล่อยให้ผิวหน้า ผิวตัว ของตัวเองเจอแสงแดดจังๆ มายาวนานหลายสิบปี ปรากฏว่าผิวของเรานั้นอ่อนแอ หมองคล้ำและดูย่นกว่าเพื่อนวัยเดียวกันแบบสังเกตได้ แสงแดด แสงไฟ แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นทำร้ายผิวของเราได้มากกว่าที่คิดค่ะ ถึงแม้ว่าเรามองไม่เห็นแสงเหล่านั้นแต่กลับกันคือเรารู้สึกได้เลยว่ามันทั้งร้อนและแสบผิว โดยเฉพาะรังสี UVA ในแสงแดดที่ทำร้ายเซลล์ผิวลึกมากจนถึงขั้น DNA ส่วน UVB ก็ทำให้ผิวไหม้แสบเบิร์นแล้วแบบนี้ต้องทำยังไง? เราแนะนำว่าให้หากันแดดที่เหมาะกับผิวตัวเองมากที่สุด จะเป็นเนื้อไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็นเนื้อครีม เนื้อเจล แบบน้ำ แบบสเปรย์ ครีมกันแดดแบบแท่ง เลือกค่า SPF30 PA+++ เป็นอย่างน้อย ใช้ในปริมาณ 1 เหรียญสิบบาทสำหรับใบหน้า ถ้าออกแดดเยอะๆ ก็ให้ทาซ้ำระหว่างวัน 2.ไม่บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เมื่อก่อนเราแทบจะไม่ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เลยค่ะ เพราะเป็นคนผิวมันอยู่แล้วเลยคิดว่าผิวเราก็ไม่ได้แห้ง ไม่จำเป็นต้องทามอยส์เจอไรเซอร์ แต่ความจริงแล้วผิวทุกชนิดไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวมันมากๆ ผิวธรรมดา ก็ต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์อยู่ดีเพราะผิวของเราต้องการความชุ่มชื้นเสมอ การมองข้ามการใช้มอยส์เจอไรเซอร์จะยิ่งทำให้ผิวที่แห้งอยู่แล้วแห้งมากขึ้นหรือผิวที่มันอยู่แล้วมันมากขึ้นไปอีกเพราะเซลล์ผิวพยายามเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยน้ำมันแล้วแบบนี้ต้องทำยังไง? ไม่ว่าเพื่อนๆ จะมีผิวสภาพไหนก็ไม่ควรขาดมอยส์เจอไรเซอร์ โดยควรใช้เป็นประจำทั้งเช้าเย็น พยายามหาครีม มอยส์เจอไรเซอร์ที่เข้ากับผิวของตัวเองที่สุดและใช้มันทุกวัน และอาจเสริมด้วยการมาสก์หน้าร่วมด้วยเพื่อบำรุงผิวไม่ให้เหี่ยวย่น ดูแก่กว่าวัย 3.ดื่มน้ำน้อยมาก ดื่มน้ำไม่ถึงวันละ 1.5 ลิตรใครดื่มน้ำน้อยๆ จะส่งผลกระทบหลายอย่างต่อร่างกาย ทั้งภาวะร่างกายขาดน้ำ เลือดข้นหนืด ความดันสูง โดยเฉพาะเรื่องผิวที่จะสังเกตเห็นได้เลยว่าผิวแห้งเสีย หมองคล้ำชัดเจนสุดๆ เมื่อก่อนเราเป็นอีกคนที่ดื่มน้ำน้อยมาก ต่อวันแทบจะไม่ถึง 1 ลิตร เพราะไม่อยากเข้าห้องน้ำบ่อยๆ และรู้สึกว่าการดื่มน้ำไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แต่เมื่อโตขึ้นจึงได้รู้ว่าร่างกายกว่า 70% ประกอบไปด้วยน้ำ การที่เราดื่มน้ำน้อยจึงส่งผลเสียต่อร่างกายสุดๆ โดยเฉพาะงานผิว ลองคิดภาพว่าเวลาที่เลือดของเราข้นหนืด การจะนำเอาสารอาหาร ออกซิเจน ต่างๆ มาส่งที่เซลล์ผิวก็จะพลอยไม่ดีไปด้วยจึงเป็นสาเหตุให้ผิวของเราหมองคล้ำ ดำเสีย แห้งกร้าน แถมยังทำให้เกิดปัญหาสิว ผิวอักเสบได้ด้วย แต่ถ้าร่างกายเรามีปริมาณน้ำที่เพียงพอ การนำส่งสารอาหาร ออกซิเจนจะดี ผิวจึงดูชุ่มชื้น เปล่งปลั่งแล้วแบบนี้ต้องทำยังไง? พยายามดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากกว่า 1.5 ลิตร/วัน เน้นย้ำว่าเป็นน้ำสะอาด น้ำเปล่าเท่านั้น ไม่นับรวมน้ำหวาน ชานมไข่มุก กาแฟหรือเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ช่วงที่เราฝึกดื่มน้ำเยอะๆ เราจะใช้น้ำขวด 1.5 ลิตร และกำหนดว่าจะต้องดื่มให้หมดภายใน 1 วัน โดยเราจะแบ่งดื่มไปเรื่อยๆ ไม่ดื่มครั้งละมากๆ เพราะอาจทำให้จุกเสียด แน่นท้องได้ 4.รับประทานอาหารกระตุ้นผิวแก่เยอะเกินไป ได้แก่ อาหารที่มีแป้งและน้ำตาลเยอะๆ ขนม ของหวาน ของทอด อาหารที่มีไขมันทรานส์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ อาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ยิ่งกินมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างผลเสียให้กับสุขภาพของเราค่ะ ทั้งทำให้น้ำหนักตัวขึ้น สุขภาพผิวแย่ ช่วงที่เรากินน้ำหวาน กินน้ำตาล ของทอด อาหารรสจัดเยอะๆ ผิวของเราจะมันมากขึ้น สิวถามหา หน้าหมองคล้ำ ดูไม่สดใส ส่วนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่จะยิ่งทำให้ผิวดูแก่แบบชัดเจนค่ะ โดยเราสังเกตได้จากคนรอบตัวของเราที่มีพฤติกรรมเหล่านี้จัดๆ ผิวจะดูหมองคล้ำ หยาบกร้าน หน้าดูแก่กว่าอายุกันเป็นส่วนใหญ่เลยแล้วแบบนี้ต้องทำยังไง? ขนม ของหวาน น้ำตาลและแป้ง เรามองว่าถ้าให้งดไปเลยอาจไม่ใช่วิธีที่ยืนยาวและดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ ทางที่ดีให้เลือกกินแต่น้อย กินอย่างเหมาะสม อาจเลือกสั่งเป็นแบบหวานน้อย น้ำตาลน้อยหรือใช้สารให้ความหวานแทน เลือกกินคาร์โบไฮเดรตดีๆ จากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงร่างกายไปด้วยในตัว เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ ฟักทอง เผือก ขนมปังโฮลวีต ฯลฯ ส่วนการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถ้างดได้ก็ควรงดไปเลยจะดีที่สุด 5.พักผ่อนน้อย นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันในช่วงไหนที่นอนน้อย ทำงานหนัก มีความเครียดสะสมเยอะๆ จะเห็นได้เลยค่ะว่างานผิวของเราพังมาก ทั้งความหมองคล้ำ (โดยเฉพาะใต้ตา) ผิวดูเหี่ยวย่น หน้าดูโทรมจนทำให้หน้าดูมีอายุมากขึ้นไปอีกหลายปีแล้วแบบนี้ต้องทำยังไง? พยายามจัดตารางนอนใหม่ โดยควรนอนให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน กำหนดเวลาเข้านอนและเวลาตื่นเอาไว้อย่างชัดเจน พยายามทำให้ได้ตามตารางที่วางเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ข้อนี้เรายืนยันเลยว่าการพักผ่อนอย่างเพียงพอจำเป็นสำหรับผิวของเราจริงๆ ถึงแม้จะใช้สกินแคร์ราคาแพงแค่ไหน เข้ารับหัตถการฟื้นบำรุงผิวบ่อยเพียงใด แต่ถ้าเรานอนน้อย มีความเครียดมากๆ ยังไงก็ดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ได้ยากอยู่ดี 6.การแสดงอารมณ์ แสดงสีหน้ามากเกินไปส่วนตัวเราเองชอบยิ้มกว้างๆ จนตอนนี้เริ่มมีปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมากลึก คือสามารถมองเห็นรอยเหล่านี้ได้ตอนที่ยังไม่ได้ยิ้ม ส่วนคนใกล้ตัวของเราที่ชอบเผลอขมวดคิ้วบ่อยๆ ก็มีปัญหารอยย่นระหว่างคิ้วและรอยย่นหน้าผากเช่นเดียวกันค่ะ ริ้วรอยเหล่านี้ถูกเรียกว่าริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์และสีหน้า พอเราใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมย้ำๆ ซ้ำๆ เป็นประจำ จึงทำให้เกิดริ้วรอยไปโดยปริยายแล้วแบบนี้ต้องทำยังไง? อาจยากหน่อยแต่ต้องเตือนตัวเองค่ะว่าอย่าแสดงสีหน้ามากเกินไป พยายามไม่ขมวดคิ้ว ไม่หรี่ตา ไม่ย่นหน้าผากบ่อยๆ ถ้าเรารู้สึกว่าตัวเองแสดงสีหน้ามากเกินไปให้รีบเตือนตัวเองแล้วหยุดทำ แรกๆ อาจจะฝืนตัวเองหน่อยค่ะแต่เมื่อผ่านไปสักพักจะเริ่มชินและแสดงสีหน้าน้อยลงได้และนี่ก็เป็น 6 พฤติกรรมทำลายผิว ทำบ่อยๆ ยิ่งทำให้ผิวแก่กว่าวัย ที่เพื่อนๆ หลายคนอาจมองข้ามบางข้อไป และเราอยากรวบรวมมาฝากกัน หากเพื่อนๆ กำลังทำพฤติกรรมข้อหนึ่งข้อใดบ่อยๆ อยู่ รู้แล้วเลิกทำให้ไวและเปลี่ยนมาดูแลผิวให้เหมาะสมมากขึ้น สุขภาพผิวของเราก็จะดีขึ้น หน้าไม่แก่กว่าวัย ไม่แก่ล้ำใครอย่างแน่นอน ภาพหน้าปก ภาพที่1 โดย A's Images จาก canvaภาพในเนื้อหาทั้งหมด โดย ผู้เขียน 7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์