ในช่วงที่กักตัวอยู่ที่บ้าน เรื่องอาหารการกินคงเน้นง่ายเข้าว่า หลาย ๆ คน หลาย ๆ บ้าน เลือกที่จะซื้ออาหารกึ่งสำเร็จรูปมาเก็บไว้ที่บ้านคราวละมาก ๆ เพราะไม่อยากออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ให้ขัดต่อนโยบายอยู่บ้านต้านเชื้อ โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีหลากหลายรสให้เลือกกินกันตามใจชอบ แต่รู้หรือไม่ว่าในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีปริมาณ “โซเดียม” ค่อนข้างมากกว่าอาหารชนิดอื่น เพราะฉะนั้นก่อนบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในแต่ละครั้ง ควรคำนึงถึงปริมาณโซเดียมที่กินเข้าไปกันด้วยนะคะส่วนใหญ่คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าโซเดียมคืออะไร แต่สำหรับท่านใดที่ไม่รู้ผู้เขียนจะขอเล่าสั้น ๆ โซเดียมมันก็คือสารอาหารชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณที่พอดี หน้าที่ของโซเดียมคือ ควบคุมความสมดุลของเหลวในร่างกาย รักษาความดันโลหิต ช่วยดูแลการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองมาตรฐาน 60 กรัม แต่ละยี่ห้อมีปริมาณโซเดียมไม่เท่ากัน แต่พบว่าบางยี่ห้อมีอยู่มากกว่า 2,000 มิลลิกรัม และในบางยี่ห้อมีมากถึง 2,360 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูงกว่าปริมาณที่องการอนามัยโลกแนะนำ ซึ่งในหนึ่งวันองค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมเท่านั้น เฉลี่ยแล้วตกไม่ถึง 700 มิลลิกรัมต่อหนึ่งมื้อจากข้อมูลนี้ชวนให้คิดต่อไปได้อีกว่า หากบริโภคเกินปริมาณบ่อย ๆ ผลเสียที่จะตามมาคือ โรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความดันสูง เลือดข้น เส้นเลือดแข็ง โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน และโรคไตในวันที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กลายเป็นของคู่ครัวในยุคที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านบ้าน เพราะนอกจากจะราคาถูกแล้ว ยังสะดวกและสามารถเก็บไว้ได้นาน ๆ อีกด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการบริโภคโซเดียมปริมาณมากเกินไป ผู้เขียนขอแนะนำให้ทุกท่าน สร้างสรรค์เมนูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง เช่นต้มบะหมี่ควรทิ้งน้ำที่ต้มก่อนใส่เครื่องปรุง ควรเติมไข่ ผัก และเนื้อสัตว์เท่าที่หาได้ หากหาไม่ได้แนะนำให้เติมปลาเส้น ถั่วลิสงทอด หรือปลากรอบ ก็เข้ากันดี นอกจากเมนูต้มแล้วยังมีเมนูผัดที่สามารถรังสรรค์ออกมาให้น่ากินได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัดขี้เมา ผัดกระเพรา ผัดฉ่า หรือผัดใส่ไข่ธรรมดาก็เข้าที สรุปง่าย ๆ คือพยายามอย่ากินเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียว และพยายามอย่าปรุงเครื่องปรุง ที่มีรสเค็มเพิ่มเติมลงไปอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จะเป็นอาหารที่สะดวกและจำเป็นสำหรับสภาวะวิกฤตเช่นนี้ แต่ก็ไม่ควรกินติดต่อกันทุกวัน หรือบ่อยครั้งจนเกินไปเพราะการได้รับโซเดียม ในปริมาณมากเกินไปบ่อย ๆ โอกาสเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ จะตามมาคงไม่คุ้มกับค่ารักษาพยาบาลเป็นแน่:::::เรื่องและภาพโดยบุหงาอันดามัน::::เชิงอรรถสถานการณ์ปัญหาสุขภาพของ คนไทยจากการบบริโภคเค็ม (โซเดียม)รู้ทัน “โซเดียม” เลี่ยงโรค