9 เทคนิคการผ่อนคลายที่บ้าน แบบไม่ต้องออกไปไหน / บทความโดย Pchalisaปัจจุบันคนค่อนข้างเครียดง่าย จากที่รูปแบบการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ประกอบการทำงานที่มีความซับซ้อนให้ต้องแก้ไข รวมทั้งเรื่องส่วนตัวก็มักเป็นจุดที่ทำให้มีตึงเครียดในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน และการที่จะผ่านเหตุการณ์แบบยุ่งยากไปได้ในแต่ละคนนั้น หลายคนก็ต้องการหาพื้นที่และเวลาในการผ่อนคลายความตึงเครียดของตัวเองแบบวันต่อวัน โดยหลายๆ ครั้งจากที่ผู้เขียนได้สังเกตจากประสบการณ์ของตัวเองและคนใกล้ตัวมานั้น บ้านคือที่ๆ ดีที่สุดที่จะเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับตัวเราเอง ในการลดความตึงความเครียดในชีวิตประจำวันค่ะพอเป็นแบบนี้ในบทความนี้เราเลยจะมาพูดถึง เทคนิคการผ่อนคลายที่บ้าน แบบไม่ต้องออกไปไหนเลยก็ได้ แต่ทำให้ตัวเราแฮปปี้ขึ้น สบายๆ ชิลๆ ได้ ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องต้องจัดการมาทั้งวันก็ตาม โดยวิธีการในนี้หากคุณผู้อ่านได้ลองนำไปใช้แล้ว รับรองว่าจะชอบตัวเองตอนมาถึงที่บ้านมากขึ้น เพราะนอกจากจะผ่อนคลายได้แล้ว วิธีการในนี้ยังเป็นวิธีการที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ตลอด ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปขนาดไหนก็ตามค่ะ ส่วนจะมีวิธีการอะไรบ้างนั้น ลองอ่านต่อให้จบนะคะ ดังนี้1. จัดมุมอ่านหนังสือการอ่านทำให้เราหายเครียดและผ่อนคลายได้ค่ะ เพราะสมาธิของเราจะย้ายฝั่งจากเรื่องเครียดๆ มาเพลิดเพลินกับเนื้อหาที่เรากำลังอ่าน ยิ่งถ้าเรื่องที่เรากำลังอ่านมันสนุกด้วย ยิ่งทำให้เราเพลินแบบลืมเวลาเทาๆ ในชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นการหามุมสงบในบ้าน จัดแสงไฟให้สบายตา พร้อมหนังสือเล่มโปรดมาอ่าน แบบอ่านไปเรื่อยๆ ไม่ได้เร่งรีบ แบบนี้เราจะรู้สึกผ่อนคลายได้ค่ะ โดยที่นี่ผู้เขียนจะมีมุมโปรดอ่านหนังสือคือนั่งหน้าห้องตัวเองค่ะ และมักอ่านหนังสือจากแอป และความรู้แบบเบาๆ เรื่องที่ไม่หนักมาก ก็พบว่าเราจะลืมเรื่องเครียดๆ ไปได้และใจเบาขึ้นจริง2. จัดระเบียบบ้านความไม่เป็นระเบียบของสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา โดยเฉพาะความรกรุงรังที่บ้าน เป็นจุดที่ทำให้เราเหนื่อยไปอีกสองเท่าได้ง่ายๆ และจุดนี้เองเลยทำให้ผู้เขียนพยายามฝึกตัวเอง ให้ทำอะไรสักอย่างในทุกวัน เพื่อมีบ้านที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งข้อนี้ไม่ได้ความหมายว่าให้เราไปปรับปรุงบ้านใหม่นะคะ แต่เป็นเรื่องของการจัดเก็บข้าวของและการทำความสะอาดค่ะ เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นได้ง่ายๆ 3. ออกกำลังกายเบาๆการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขนะคะ ดังนั้นแน่นอนว่าเราก็จะผ่อนคลาย รู้สึกเบาหวิวจากเรื่องปวดหัวได้ และการออกกำลังกายเบาๆ ที่ผู้เขียนชอบทำประจำคือการทำโยคะในท่าง่ายๆ ค่ะ ซึ่งสามารถทำได้ที่บ้านแบบค่อยเป็นค่อยไปตามแบบที่เราต้องการได้เรื่อยๆ ตามเวลาที่เรามี ดังนั้นลิงจัดตารางการออกกำลังกายให้กับตัวเองดูค่ะ4. นอนหลับให้เพียงพอการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพทั้งกายและใจ ถ้าเข้าบ้านมาแล้วหงุดหงิดและตึงๆ มาแล้ว ลองทำตัวเองให้ขนานกับพื้นโลกสักงีบค่ะ เพียงเท่านี้ร่างกายเราก็จะผ่อนคลายได้แล้วนะคะ ปกติถ้าต้องนอนพักจริงๆ ผู้เขียนก็ทำค่ะ และพอตื่นมารู้สึกผ่อนคลายสบายๆ ได้ โดยมีตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือ ช่วงไปเที่ยวทั้งเหนื่อยทั้งเครียดจากที่ไปเจอสถานการณ์ข้างนอก พอกลับมาบ้านนอนพักงีบแล้วดีขึ้นมากค่ะ ดังนั้นถ้าคุณผู้อ่านตึงเครียดมาก็อย่าลืมเรื่องการนอนหลับพักผ่อนนะคะ5. นวดผ่อนคลายเวลาเจอเรื่องตึงเครียดในชีวิตประจำวันแล้ว อย่าเพิ่งเหนื่อยท้อและคิดลบไปค่ะ ลองหันมานวดเพื่อผ่อนคลายดูก่อน เพราะการทำแบบนี้สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดความตึงเครียดได้ การลองนวดตัวเบาๆ หรือใช้ลูกกลิ้งนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วยตัวเอง สมัยนี้สามารถทำได้แล้ว เพราะอุปกรณ์นวดอย่างง่ายก็มีขายในราคาจับต้องได้ ซึ่งการนวดน่องง่ายๆ ด้วยตัวเองผู้เขียนก็ทำบ่อยค่ะ แต่ทำประจำก็คือการนวดแถวต้นคอและท้ายทอย เพราะเวลาตึงเครียดกล้ามเนื้อส่วนนี้มันตึงและแข็งมาก เคยสังเกตไหมคะ?6. ฟังเพลงที่ชอบเนื่องจากว่าดนตรีเป็นตัวช่วยที่ดีในการผ่อนคลายนะคะ พอต้องการจะผ่อนคลายที่บ้านก็ให้ลองเปิดเพลงที่คุณผู้อ่านชอบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพลงบรรเลงเบาๆ เพลงแจ๊ส หรือเพลงคลาสสิกก็ตามแต่ ก็สามารถช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ทั้งนั้น แต่แนะนำเพิ่มเติมว่าอย่าฟังเนื้อเพลงที่ลบๆ เพราะอาจไม่สุขสบายใจเท่าที่ควรก็ได้ เช่น คนอกหักก็ควรฟังเพลงแนวรักตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง ชีวิตมีคุณค่า การตั้งเป้าหมายและทำให้สำเร็จ อะไรประมาณนี้นะคะ ปกติผู้เขียนมักฟังเพลงทำนองเบาๆ ที่มีเนื้อเพลงในเชิงบวกค่ะ และมักฟังแบบใช้หูฟัง7. นั่งสมาธิหาที่นั่งสงบ ปิดไฟ ปิดเสียงรบกวน แล้วลองฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ หรือทำสมาธิเบาๆ เพื่อปล่อยวางความคิดค่ะ แบบนี้ก็ลดความหนักใจเหนื่อยใจได้ ปกติผู้เขียนเลือกนั่งสมาธิช่วงสั้นๆ ก่อนจะนอนตอนกลางคืน และนอนสมาธิอีกช่วงสั้นๆ หลังตื่นนอน และจริงค่ะ คือแค่เราลดเสียงรบกวนได้ ใจก็สบายขึ้นเยอะแล้ว และดีไม่ดีตอนทำสมาธิยังมีไอเดียเจ๋งๆ และแนวทางในการแก้ปัญหาผุดขึ้นมาอีก จึงอยากแนะนำสำหรับคุณผู้อ่านที่กำลังตึงเครียดกับชีวิตค่ะ8. พูดคุยกับคนใกล้ชิดการพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัวหรือคนรัก สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นและลดความเครียดได้ค่ะ เพราะการได้ระบายความรู้สึกให้คนอื่นฟัง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการผ่อนคลายความเครียด สมัยนี้อาจเป็นการพิมพ์ข้อความไปหาคนที่เราไว้ใจได้และเล่าให้เขาฟังก็ได้ ซึ่งบางครั้งผู้เขียนเองก็ทำค่ะ เพราะมันช่วยให้เราได้ระบายความคิดที่กำลังกังวลในตอนนั้นได้ และได้ผลค่ะทำให้ความตึงเครียดหย่อนลงได้จริง9. ทำกิจกรรมที่ชอบการลองทำกิจกรรมที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป หาอ่านเพิ่มเติมความรู้ที่สนใจ การทำอาหารหรือดูหนัง ก็สามารถช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขได้ค่ะ สำหรับผู้เขียนเลือกทำสวนผักรั้วกินได้ ปลูกต้นไม้ และทำอาหารก็ชอบค่ะ และจริงมากว่ากิจกรรมเหล่านี้ช่วยทำให้ผ่อนคลายได้ เพราะเราจะไปโฟกัสที่กิจกรรมที่เราชอบ แทนการกังวลใจกับเรื่องเครียดๆ ค่ะ ดังนั้นพอตึงมาทั้งวันแล้วเป็นหน้าที่ของเราต้องมองหากิจกรรมมาทำ หรือกำหนดขึ้นมาเลยว่ากิจกรรมที่เราต้องทำในบ้านคืออะไร ก็จะช่วยให้ลดความตึงเครียดได้ค่ะและนั่นคือตัวอย่างของทางออกเวลาเครียดๆ ค่ะ ซึ่งความไม่สบายใจ ความหนักและเหนื่อยใจจะว่าไปมันเป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่พอเกิดขึ้นแล้วตัวเราต้องเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบ ทำตัวเองให้ผ่อนคลายและมีความสุขขึ้น เพราะไม่อย่างนั้นคนรอบข้างก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ที่บางทีนั้นแค่นวดหรือนอนพักสถานการณ์ก็ดีขึ้นแล้วนะคะ จึงไม่ควรปล่อยให้ตัวเองโดนความตึงเครียดเล่นงานแล้วไม่ทำอะไรเลย!เพราะแนวทางดีๆ ที่ทำได้ที่บ้านง่ายๆ ผู้เขียนก็ได้นำเสนอไว้เป็นตัวอย่างแล้ว ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อย และถ้าชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ😀เครดิตภาพประกอบบทความภาพหน้าปก โดย Andrea Piacquadio จาก Pexelsภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 ถ่ายภาพโดยผู้เขียน, ภาพที่ 2 โดย Meruyert Gonullu จาก Pexels, ภาพที่ 3 โดย Andrea Piacquadio จาก Pexels และภาพที่ 4 จากเว็บไซต์ TrueIDออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaเกี่ยวกับผู้เขียนภัคฒ์ชาลิสา จำปามูลศึกษาเกี่ยวกับ: พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa https://intrend.trueid.net/post/459108 https://intrend.trueid.net/post/449748 https://intrend.trueid.net/post/424095 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !