สวัสดีค่ะ สำหรับใครที่อยากผอม เคยคิดกันหรือไม่คะว่า เราวิ่งแล้วทำไมยังไม่ผอมอยู่ดี ซึ่งต้องบอกเลยว่า การวิ่งเป็นแค่เครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะทำให้เราหุ่นดี แต่เราไม่สามารถใช้แค่เครื่องมืออย่างเดียวที่จะทำให้เรานั้นผอมได้ เพราะการจะทำอะไรให้สำเร็จนั้น เราต้องอาศัยหลาย ๆ อย่างประกอบกัน ทั้งการกินอาหาร การออกกำลังกาย หากทำได้พร้อม ๆ กัน หุ่นจะดีอย่างแน่นอนไม่พูดกันให้มากความค่ะ เราขอนำภาพมาเล่าเรื่องในภาพนี้ก็คือตัวผู้เขียนเองค่ะ จะเห็นได้ชัดเลยว่าภาพซ้ายจะค่อนข้างอวบกว่า ซึ่งนั่นก็คือสามปีที่แล้วค่ะ ส่วนภาพขวาคือปัจจุบันนี้ สงสัยแล้วใช่ไหมว่าผู้เขียนเปลี่ยนไปได้อย่างไรพฤติกรรมของผู้เขียนตอนที่อยู่ในภาพซ้าย ตอนนั้นผู้เขียนวิ่งเป็นประจำค่ะ วันละ 40 นาที เน้นวิ่งให้เร็วเป็นหลัก ผลการวิ่งดีมากนะคะ เพซอยู่ที่ 8 กว่า ๆ (เท่าที่จำได้) ส่วนอาหารไม่ได้เน้นอะไรเป็นพิเศษ เน้นกินน้อยเป็นหลัก เวลาหิวดื่มไมโล นมรสหวานทั้งวัน ข้าวจะกินครึ่งทัพพี กับอีกนิดหน่อย แต่ขนาดอดมื้อกินมื้อยังไม่ผอมเลยค่ะ จนมาจุดหนึ่ง เริ่มไม่ไหวกับการคาร์ดิโอหนัก ๆ กินน้อย ๆ เลยเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมกว่าจะได้ร่างในภาพขวาผู้เขียนเปลี่ยนมาคาร์ดิโอวันละ 30 นาที และบอดี้เวทอีกวันละ 30 นาทีค่ะ ทำเป็นประจำและต่อเนื่อง หากจะนับตั้งแต่วันเริ่มต้นมาจนปัจจุบันก็ราว ๆ 1 ปีครึ่งได้แล้วค่ะ บอดี้เวทคือทำตามคลิป ทั้งเวทแขน เวทขา เวทหน้าท้อง แบ่งเป็นวัน ๆ ไป วันละ 3 เซ็ท เซ็ทละ 10 นาที ทำแบบนี้ แรก ๆ ก็ไม่เห็นผลค่ะ รู้สึกว่าผอมช้ามาก แต่เอ๊ะ เวลาผ่านไป ทำไมเราไม่ค่อยเผละผละแล้วล่ะ ก็เลยสังเกตตัวเองและถึงบางอ้อว่า เราบอดี้เวทควบคู่ไปด้วย ส่วนอาหาร ทานปกติ เน้นผัก โปรตีน ข้าว ไม่ได้กินคลีนนะคะ เพราะไม่สะดวก ไม่ได้กินน้อยด้วยค่ะ กินให้พออิ่ม เน้นออกกำลังกายตัวอย่างอาหารที่ผู้เขียนรับประทานบะหมี่ผักลวกกับกะหล่ำปลีลวก พร้อมด้วยไก่ผัดและกุ้งลวกดอกหอมผัดไข่ ไก่ต้ม โรยน้ำพริกส่วนนี่เป็นมื้อว่าง หลังจากที่เปลี่ยนแปลงตัวเอง น้ำหนักของเราลดจาก 56 กิโลกรัม ลงไปเป็น 51 กิโลกรัม จากนั้นมีเราเพิ่มเวทเทรนนิ่งไปในการออกกำลังกายด้วย ซึ่งการเวทเทรนนิ่งเราก็ทำสม่ำเสมอมาก คือทำ 5 วันต่อสัปดาห์ น้ำหนักก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาเป็น 55 กิโลกรัมค่ะ จะเห็นว่าน้ำหนักไม่ได้ลดลงมากเท่าไรนัก แต่หุ่นค่อนข้างแตกต่างกัน เนื่องจากว่าการเวทเทรนนิ่งทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายเพิ่มขึ้น แต่มวลไขมันในร่างกายลดลง น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นคือน้ำหนักของกล้ามเนื้อ เลยดูผอมลงไปกว่าเดิมนั่นเองค่ะ สิ่งที่ผู้เขียนอยากเน้นย้ำให้ผู้อ่านรับรู้ก็คือว่า น้ำหนัก ไม่ใช่ตัวบ่งบอกว่าคุณผอมหรือคุณอ้วนค่ะ ถ้าหากน้ำหนักน้อย แต่น้ำหนักนั้นประกอบไปด้วยไขมัน เนื้อก็จะเหลว เผละผละ หุ่นไม่เฟิร์ม แต่หากเรานั้นเวทเทรนนิ่งไปด้วย คุมอาหารไปด้วย คาร์ดิโอไปด้วย ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ามากลดความอ้วน ผลพลอยได้ที่เกินคาดนอกจากนี้ผลดีอีกอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ แข็งแรงขึ้นมากค่ะ ทำอะไรก็ไม่เหนื่อย เมื่อก่อนจะยกของหนักไม่ได้ ทำสวนได้นิดหน่อย ขุดดินนิดหน่อยก็หมดแรง ที่สำคัญเป็นโรคกระเพาะด้วยค่ะ เพราะว่าอดอาหาร ด้วยชุดความคิดที่ว่า กินน้อยจะทำให้น้ำหนักลด ทำให้หุ่นดี แต่นั่นเป็นชุดความคิดที่ผิด เพราะว่ายิ่งอด ร่างกายยิ่งอ่อนแอ ไม่มีแรงเวทเทรนนิ่ง ไม่มีแรงคาร์ดิโอ ที่สำคัญก็คือ ทำให้ท้อใจ พาลไม่อยากลดน้ำหนัก ไม่อยากลดความอ้วนเลยก็มีอยากให้สิ่งที่เรานำมาบอกเล่าในวันนี้ เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากจะเริ่มลดความอ้วนแล้วท้อ แนะนำว่าให้เริ่มจากการคุมอาหารก่อน คุมอาหาร ไม่ใช่อดอาหารนะคะ เน้นกินให้อิ่ม แต่กินของที่มีประโยชน์ งดของหวาน พยายามทำในสิ่งที่ไม่ฝืนตัวเองมาก หากว่าเมื่อก่อนชอบกินจังค์ฟู้ด ก็ค่อย ๆ ลดลงไป จะได้ไม่เครียดนั่นเองค่ะ จะเห็นแล้วใช่ไหมว่าการวิ่งอย่างเดียวไม่ได้ทำให้เราผอม เช่นกัน การกินน้อยก็ไม่ได้ทำให้ผอม เราต้องเน้นผัก โปรตีน เน้นบอดี้เวทและคาร์ดิโอควบคู่ไปพร้อม ๆ กันนะคะ และที่สำคัญกว่าจะเห็นผล ก็เป็นปี ๆ เลยค่ะ ใครเพิ่งเริ่มอย่าท้อใจนะคะ ใช้เวลานานค่ะ วันนี้ขอลาไปก่อนนะคะ บาย ๆ ค่าภาพประกอบโดยผู้เขียน