ถั่วลันเตาถือว่าเป็นพืชที่มีอายุที่เก่าแก่มากๆพอสมควร จนไม่รู้ว่าเกิดมาตั้งแต่ปางไหนกันเพราะเกิดมาก็ได้ยิน คำว่าถั่วลันเตาแล้วมีต้นกำเนิดมาจาดทวีปแอฟริกาโน้น ต่อมาจึงได้แพร่ขนาดมาในแถบบ้านเรา แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดนะว่าเข้ามาในประเทศไหนก่อนบ้างก็ว่าจีน บ้างก็ว่าฮอลแลนด์ จนคนจีนเข้าได้อพยพเข้ามาในประเทศไทยเรามากขึ้น ถั่วลันเตาก็คงติดหาบมาด้วยแหละว่างั้น จึงได้มีในบ้านเราจนถึงทุกวันนี้ถั่วลันเตาเป็นไม้เลื้อย ลำต้นเล็กเหลี่ยมๆ กิ่งก้านจะแตกจากข้อของลำต้น รากเป็นรากแก้ว ดอกจะออกตามซอกของใบมีสีขาวคล้ายกับผีเสื้อ ผลออกเป็นฝักทรงแบนรีโค้งงอเล็กน้อย ฝักอ่อนจะมีสีเขียวฝักแก่จะเขียวเข้มมากๆ ฝักถั่วลันเตาจะนูนขึ้นจนเห็นร่องของเมล็ดข้างใน รสชาติ หวาน กรอบกรุบๆจึงนิยมนำมาประกอบเมนูอาหารเพราะอร่อยและมีประโยชน์ ฝักที่แก่จัดๆนั้นจะกลายเป็นสีน้ำตาลไม่นิยมนำมาประกอบอาหาร เมล็ดข้างจะเป็นลูกกลมๆประมาณ 4-9 เมล็ดต่อ 1 ฝักนะคะเมล็ดอ่อนก็สีเขียว เมล็ดแก่จัดๆก็สีน้ำตาล เราปลูกเองได้ไหมลองซิ ถือว่าเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ในทุกสภาพดินแต่นางจะชอบมากหน่อยก็คือดินร่วนปนดินเหนียวจะเขียวงามมากฝักแบบอวบๆ โดยใช้เมล็ดหว่านลงในแปลงดินที่เตรียมปลูก โดยทำเป็นหลุมๆเว้นระยะห่างสัก 30x30เซนติเมตรพื้นที่ต้องระบายน้ำได้ดีด้วยนะ หลังจากหว่านลงหลุมแล้วก็กลบด้วยดิน พร้อมน้ำ ช่วงแรกๆมั่นรดน้ำเป็นประจำทุกวัน เช้าและเย็น เมื่อต้นเริ่มโตถ้ามีหลายต้นก็ทำการถอนให้เหลือ 2-3 ต้น จากนั้นนางก็จะค่อยๆเจริญเติบโตเป็นทอด อย่าลืมๆนะ? ทำหลักให้นางได้พันขึ้นไปด้วยเพราะนางเป็นไม้เลื้อย นางก็จะเลื้อยตามหลักที่เราทำก็ค่อยโตขึ้นเรื่อยๆและออกดอก ออกฝักตามระยะเวลาเอง น้ำเป็นเรื่องที่สำคัญมากต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ นางชอบแดดก็จริง อย่างรดน้ำในช่วงที่แดดจัดๆเป็นอันขาดนางกลัว! ให้รดเช้าและเย็นให้ชุ่มก็จะทำให้นางโตวันโตคืน แล้วตอนไหนจะเกือบฝักมากินได้ สังเกตนะสังเกตที่ฝักจะอวบ ฉ่ำ เด้งดึงๆสีเขียวกำลังดี ประมาณได้ 2-3 เดือนนั่นแหละใช้ได้แล้ว อย่าเพิ่ง!เก็บฝักต้องเก็บแบบมีขั้วมาด้วยไม่ใช่จะเด็ดยังไงมาก็ได้นะ เก็บสดๆแล้วก็นำไปล้างด้วยน้ำให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำให้หมดแล้วค่อยนำมาใส่ถุง กล่อง ห่อกระดาษแล้วแช่ตู้เย็น แค่นี้ก็มีถั่วลันเตาสดไว้กินแล้วนะคะคุณค่าทางโภชนาการของถั่วลันเตา 100 กรัม พลังงาน 81 กิโลแคลอรี่คาร์โบไฮเดรต 14.45 กรัม เส้นไย 5.1 กรัม สังกะสี 1.24 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 33 มิลลิกรัม โซเดียม 5 มิลลิกรัม น้ำตาล5.67กรัม โปรตีน 5.42 กรัม ไขมัน 0.4 กรัม เหล็ก 1.47 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 108 มิลลิกรัม ลูทีนและซีแซนทีน 2,477 ไมโครกรัม แคลเซียม 25 มิลลิกรัม เบต้าแคโรทีน 449 ไมโครกรัม โพแทสเซียม 244 มิลลิกรัม แมงกานีส 0.41 มิลลิกรัม วิตามินเอ 38 ไมโครกรัม วิตามินบี1 0.266 มิลลิกรัม วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี6 0.132 มิลลิกรัม วิตามินบี9 65 ไมโครกรัม วิตามินซี40 มิลลิกรัม วิตามินอี 0.13ไมโครกรัม วิตามินเค 24.8 ไมโครกรัม ประโยชน์และสรรพคุณถั่วลันเตาลดคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงเส้นเอ็น บำรุงตับ ตับพิการ ตับทรุด ตับติดเชื้อ ตับผิดปกติ เพิ่มน้ำนม บำรุงไขมัน ขับปัสสาวะ แก้ขัด บำรุงกระดูก บำรุงฟัน บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ แก้ความดัน ถอนพิษ ป้องกันการหลงๆลืมๆ แก้เหน็บชา แก้ตะคริว บำรุงหัวใจ สลายลิ่มเลือด ขับของเหลวในร่างกาย บำบัดโรคหัวใจ ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเจอถั่วลันเตาในรูปแบบของขนมขบเคี้ยวหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างเพื่อเป็นทางเลือกให้เลือกซื้อ หาทานง่ายมากขึ้น เช่น ถั่วลันเตาแช่แข็ง ถั่วลันเตากระป๋อง แป้งจากถั่วลันเตา ขมถัวลันตาอบเกลือ เป็นต้นหรืออาหารบางชนิด เช่น ผัดผัก แกงจืด แกงเลียง ผัดหมูใส่ถั่วลันเตา หรือจะมากินจิ้มกับน้ำพริกก็ได้ กินได้ทั้งสด ลวกและต้ม เราชอบกินแบบที่เป็นขนมนะเป็นซองของยี่ห้อๆหนึ่งอบเกลือ รสชาติถัวลันเตาก็จะออกมันๆ แต่ถ้ากินแบบที่เป็นฝักมีเมล็ดอยู่ข้างอันนั้นจะหวานมัน หอม กรอบอร่อยผัดใส่หมูคืออร่อยมากๆ เรามีสูตรที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิต สูตรนี้คุณลุงข้างบ้านบอกมา เพราะมีอยู่วันนึงที่เราเห็นคุณลุงกำลังต้มอะไรอยู่สักอย่าง พอเดินเข้าไปดูก็เจอนี้แหละถั่วลันเตาต้มอยู่เลยถามแกว่าทำอะไรคะลุง แกกลับหัวเราะแล้วบอกว่า ลุงกำลังต้มยาสมุนไพรอยู่ว่างั้น ลุงเป็นความดันลองกินน้ำถั่วลันเตาต้มแล้ว ทำให้ความดันลุงปกติว่างั้น คุณลุงจะใช้ฝักถั่วลันเตานี้ละต้มกับน้ำเปล่า โดยใช้ถั่วลันเตา 1 กำมือหรือน้อยกว่านี้ ต้มกับน้ำ 1 ลิตรหรือต้มให้เดือดให้พอดีดื่มใน 1 วัน วันละ 2 แก้วเช้าเย็นจะดื่มง่ายรสหวาน ดื่มแล้วช่วยให้รู้สึกสดชื่นด้วย ความดันลุงก็ปกติด้วย แถมยังตาใส ตาหวาน ได้ชิมกับลุงก็เลยลองเอามาต้มดื่มเอง ประมาณ 1 อาทิตย์ผลลัพธ์ที่เราได้ เรารู้สึกว่าตาไม่แห้ง รู้สึกสบายดวงตามากขึ้น ข้อแนะนำและข้อควรระวังการทานถั่วลันเตา ผู้ป่วยโรคเกาต์ โรคไต โรคนิ่ว ควรหลีกเลี่ยงหรือทานเพียงแต่น้อย เพราะในถั่วลันเตามีสารชนิดหนึ่งเป็นสารที่จะแปรสภาพเป็นกรดยูริกซึ่งจะทำให้อาการต่างๆที่ว่ามากำเริบได้เป็นยังไงบ้าง?ถั่วลันเตา? สารพัดประโยชน์กินเล่นก็ได้ ทำกับข้าวก็ดี เมนูไหนๆก็อร่อย ถือเป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์มากๆ อวบแน่น รสชาติหวานกรอบอร่อย เราเชื่อว่าเด็กๆก็กินง่ายนะ หรือกินไม่ได้ก็ขนมไง ถั่วลันเตาอบเกลือลองดูอร่อยมันมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรกินเยอะเกินไปนะ ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ผัก ผลไม้ การออกกำลังกายก็ห้ามขาด ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เราหวังว่าบทความเรื่องของถั่วลันเตาจะเป็นประโยชน์สูงสุดให้กับเพื่อนๆนะคะ ภาพปก เครดิตจากBlackRiv ออกแบบจากCanvaโดยผู้เขียนบทความภาพประกอบเครดิตจาก Pexels : ภาพที่1โดยR Khalil,ภาพที่2โดยKarolina Grabowska,ภาพที่3โดยNimit N,ภาพที่4โดยR Khalilอยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้
