จากกระแสท้องทิพย์ที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ แอดก็ขอจับกระแสแชร์ประสบการณ์ท้องลูกคนแรกให้ฟัง ว่ามีวิธีการสังเกตอย่างไรว่าตั้งครรภ์ ขั้นตอนการฝากครรภ์ต้องทำอย่างไร วิธีการดูแลตัวเองช่วงตั้งครรภ์ มีอะไรต้องดูแลเป็นพิเศษไหม ไปติดตามกันเลยกับบทความ แชร์ประสบการณ์ท้องคนแรก พร้อมเล่าวิธีการฝากครรภ์ ค่ะหลังจากแต่งงานสักระยะหนึ่ง การรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ถือเป็นข่าวดีที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งตารอ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าท้องหรือไม่ท้อง ก็มีวิธีดูง่าย ๆ ด้วยกันอยู่ 4 ข้อดังนี้ประจำเดือนขาด เช่นขาดมา 2 - 3 เดือนแล้วเป็นต้นคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อยากทานของที่ปกติไม่ทานปัสสาวะบ่อย เต้านมคัด (คล้าย ๆ เวลาประจำเดือนจะมา)สำหรับท้องแรกของแอด ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าท้อง เพราะประจำเดือนมาไม่ค่อยตรงอยู่แล้วในแต่ละเดือน แต่ที่รู้เพราะตอนนั้นไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลเพราะอยากมีลูก คุณหมอทำการอัลตราซาวด์จึงได้รู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่สำหรับลูกคนที่สองนั้นเริ่มจะจับทางได้ก็เลยซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์จากร้านขายยามาตรวจดู แล้วก็พบว่าขึ้นสองขีด แปลว่าตั้งครรภ์ ซึ่งทำการตรวจด้วยชุดตั้งครรภ์ถึงสองครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าชุดตรวจไม่บกพร่อง (ขึ้นสองขีดทั้งสองครั้ง) หลังจากนั้นก็เลยไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล การฝากครรภ์นั้นควรทำทันทีเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ สามารถฝากครรภ์ได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือคลินิกฝากครรภ์ใกล้เคียง ควรเลือกสถานที่ที่ไม่ไกลบ้านเพราะหากเกิดฉุกเฉินขณะตั้งครรภ์จะได้ถึงมือหมอได้ทันเวลา ซึ่งการฝากครรภ์แล้วโดยปกติคุณหมอจะนัดเดือนละครั้ง ซึ่งคุณพ่อทั้งหลายก็ควรจัดตารางให้ว่างไปเป็นเพื่อนคุณแม่จะได้ช่วยเป็นกำลังใจให้คุณแม่ในช่วงที่ฮอร์โมนกำลังแปรปรวน สามีแอดก็ไปเป็นกำลังใจให้ทุกครั้ง คุณแม่อย่างแอดก็รู้สึกมีกำลังใจมาก ๆ เลย* ภาพอัลตราซาวด์เมื่อายุครรภ์ 1 เดือนในทุกครั้งที่พบคุณหมอจะได้รับการตรวจเลือดเพื่อดูระดับน้ำตาล เพราะคุณแม่ช่วงท้องจะทานเยอะ ระดับน้ำตาลในเลือดก็อาจจะเพิ่ม หากเพิ่มจนถึงขั้นเป็นเบาหวานก็จะส่งผลต่อลูกในท้องได้ ซึ่งข้อมูลการตรวจทุกครั้งสำหรับการไปพบคุณหมอช่วงฝากครรภ์ เช่น น้ำหนัก ความดัน เบาหวาน ระยะเวลาการตั้งครรภ์ ขนาดของทารก น้ำหนักทารก จะถูกบันทึกในสมุดฝากครรภ์ เพื่อดูพัฒนาการของทารกในครรภ์* ภาพอัลตราซาวด์เมื่อายุครรภ์ 3 เดือนวิธีการดูแลตัวเองในช่วงตั้งครรภ์ สิ่งที่จำเป็นคือในช่วง 3 เดือนแรกร่างกายต้องการโฟลิก จำเป็นต้องรับประทาน โฟเลต วันละ 1 เม็ด ขนาด 5 มิลลิกรัม เพื่อป้องกันการพิการแต่กำเนิดของทารก แอดก็กินตามที่คุณหมอสั่งตลอดจนคลอดเลยนะ นอกจากการทานโฟเลตแล้ว คุณแม่ควรดูแลสุขภาพทั่ว ๆ ไปตามนี้เลยค่ะรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 - 10 แก้วไม่ควรทานอาหารรสจัด ไม่ควรทานของหมักดอง ไม่ควรทานอาหารปรุงไม่สุก ไม่ควรดื่มชา ไม่ควรดื่มกาแฟ ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรสูบบุหรี่ ไม่รับประทานยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจมีผลต่อทารกในครรภ์พักผ่อนให้เพียงพอ 8 - 10 ชั่วโมง ออกกำลังกายพอสมควร เช่นเดิน ทำงานบ้านที่ไม่ออกแรงมากเกินไป และอย่ายกของหนักรักษาความสะอาดของร่างกายทุกวัน วันละ 2 ครั้งใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ ขับถ่ายให้เป็นเวลาตลอดการตั้งครรภ์ คุณแม่อาจจะอยากอาหารเป็นพิเศษ แต่ก็ควรควบคุมน้ำหนักให้เพิ่มตลอดการตั้งครรภ์ให้อยู่ที่ 10 -12 กิโลกรัม (ช่วง 3 เดือนแรกประมาณ 1-2 กิโลกร้ม จากนั้นสัปดาห์ละ 0.5 กิโลกรัม) เพื่อที่จะง่ายต่อการคลอดและการกำจัดน้ำหนักหลังคลอดด้วย ส่วนแอดนั้นกินกระจาย ขึ้นมาประมาณ 16 กิโลกรัม นานกว่าจะเอาออกไปได้ ทุกวันนี้ยังเอาออกไม่หมดกำหนดคลอดจะอยู่ในช่วงอายุครรภ์ระหว่าง 37 - 40 สัปดาห์ท้องจะเริ่มลด อาจมีเจ็บครรภ์เตือน ช่วงนี้ก็ควรเตรียมสมุดฝากครรภ์ บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านที่จะแจ้งย้ายลูกเข้า และของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าอนามัย ผ้าเช็ดตัว ที่จะใช้ระหว่างคลอด ไว้ให้พร้อม เผื่อเมื่อถึงเวลาจะได้ไม่ฉุกละหุกเกินไปจบไปแล้วนะคะกับบทความ แชร์ประสบการณ์ท้องคนแรก พร้อมเล่าวิธีการฝากครรภ์ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่าน ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่กำลังจะเป็นคุณแม่ด้วยนะคะ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง ขอบคุณที่ติดตามค่ะ เครดิตภาพ : ภาพปกและภาพประกอบโดยผู้เขียนบทความสุขภาพที่น่าสนใจรีวิวประสบการณ์ฉีดวัคซีนโควิด-19 เล่าจบทุกขั้นตอนอุทาหรณ์!! ปวดท้องอาจอันตรายกว่าที่คิดไข้สูงลอยติดต่อกันหลายวัน อาการของโรคอะไร เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายบน App TrueID โหลดเลย ฟรี !