ความเครียดสะสม (Chronic stress*) หรือภาวะเครียดเรื้อรัง เกิดจาก ความรู้สึกกดดันและหนักใจอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อความเครียดนั้นได้ แสดงออกด้วยอาการ ปวดเมื่อย นอนไม่หลับ/อ่อนแรง ไม่มีสมาธิจดจ่อ เข้าสังคมน้อยลง เริ่มป่วยแบบไม่ทราบสาเหตุความเครียดเหล่านี้ มักมีหลายสาเหตุงานความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลภาวะคุณแม่ Full timeการดูแลผู้ป่วยระยะยาวการสูญเสีย หรือเหตุการณ์ที่สะเทือนใจแต่หาวิธีจัดการไม่ได้ซึ่งในที่นี้ เราจะกล่าวถึงเฉพาะการลดความเครียดสะสมจากที่ทำงาน และเพื่อนร่วมงาน 8 วิธี ลดความเครียดสะสม** จากงาน 1. อย่า!! เปิดคอมพิวเตอร์ทำงาน จนเป็นนิสัยหลังกลับถึงบ้าน อย่าทำงานจนเป็นกิจวัตร ถ้ามีงานด่วน ให้อนุโลมได้ในบางวัน ลองใช้กฎ 8-8-8 ชั่วโมงดู (8ทำงาน 8เวลาส่วนตัว และ 8นอน) ถ้าทำใน 8 ชั่วโมงไม่ได้ มีแต่งานด่วนทุกวัน ให้กลับไปดูวิธีการจัดการงานด่วน(มีหลายคนหอบงานกลับมาทำที่บ้าน จนเป็นนิสัย เพราะงานไม่เสร็จ จนสุดท้ายเป็นโรคเครียดและ แพนิค เพราะปรับสมดุลชีวิตไม่ได้) 2. ผ่อนคลายอารมณ์ด้วยอาหารอร่อย และเสียงเพลงคลายจากอารมณ์เครียดค้างหลังเลิกงาน ลองหาอาหารอร่อยๆ หรือขนมที่ชอบ เพื่อฮีลใจ แวะร้านน่ารักๆ ใกล้บ้าน ถ่ายรูปกับขนมและแสงสวยๆ ซักรูป กลับบ้านอาบน้ำ ฟังเพลงที่ชอบไปด้วย ร้องเพลงตามด้วย คนเราจะสามารถปล่อยอารมณ์ตามใจได้ ในขณะอาบน้ำนี่แหละ 3. งดเปิดไลน์ หลังเลิกงานเราสามารถกำหนดขอบเขตของเวลา เช่น กำหนดว่า หลัง 2 ทุ่ม งดการอ่าน (ทำเหมือนว่าเข้านอนแล้ว) เนื่องจาก การเห็นเรื่องงานตอนดึก จะทำให้หัวเราไม่หยุดคิด เกิดความวิตกกังวลในงาน ผลที่ตามมา คือ นอนไม่หลับ(ก่อนเข้านอน ครึ่งชั่วโมง ควรงดแสงสีฟ้า งดดูจอโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์) 4. ฝึกให้ความคิด เหมือนสวิสไฟ เปิดปิดได้ตามที่เรากำหนดทำให้งานเหมือนสวิส ถึงเวลาก็เปิดออก ทำงานได้ทันที ถึงเวลาเลิกงานก็ปิดความคิด ที่จะนึกถึงงานทันที ต้องทำให้ความคิดแยกออกจากกันชัดเจน เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลายอารมณ์ และเพื่อทำให้ชีวิตมีสมดุลที่ดีด้วย การทำแบบนี้จะช่วยให้อยู่กับงานนี้ไปได้ในระยะยาว โดยไม่เกิดการเจ็บป่วยจากการทำงาน 5. ห้าม ทำงานบนเตียง เด็ดขาดเมื่อร่างกายเคยชินกับภาวะเครียดในระหว่างที่ทำงานบนเตียง (จนกลายเป็นนิสัย) ผลที่ตามมาคือ เราจะนอนไม่หลับบนเตียงที่แสนจะวุ่นวายนี้ แยกห้องทำงานกับสถานที่นอนออกจากกันอย่างชัดเจน 6. ออกกำลังกายการออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มสารแห่งความสุข ซึ่งหลั่งขณะและหลังการออกกำลังกาย จะช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว ในขณะเดียวกัน ก็สร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมกับงานหนักในวันถัดไป 7. จัดระเบียบความคิดและอารมณ์ให้เป็นระบบระเบียบ ทิ้งอดีต และพร้อมรับวันใหม่ หลังจากเจอภาวะวุ่นวายมาทั้งวัน ด้วยการผ่อนคลาย นั่งสมาธิ หรือสวดมนต์ การทำกิจกรรมนี้ จะทำให้จิตใจเราสงบขึ้น 8. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่คุ้นเคย ในชีวิตประจำวัน อาจจะทำให้เราลดภาวะตึงเครียดลงได้ เช่น เข้านอนเร็วแล้วตื่นมาทำงานตอนเช้า แทนการนอนดึก การย้ายปรับเปลี่ยนสถานที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างบรรยากาศ แห่งการพักผ่อนให้มากขึ้น การย้ายถิ่นย้ายงาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นต้น อย่าลืมว่า สุขภาพสำคัญที่สุด ถ้าสุขภาพไม่ดี ก็หาเงินไม่ได้"อย่าโหมงานหนัก แล้วกลับมา รักษาตัวที่โรงพยาบาล" ขอให้ทุกคนมี สุขภาพกาย สุขภาพใจ ที่แข็งแรงจาก...ใจสตอรี่ เครดิตภาพภาพปก: canva โดย @gokgakphotosภาพประกอบ1: canva โดย @leungchopanภาพประกอบ2: canva โดย @monthirayodtiwongภาพประกอบ3: canva โดย @sydaproductionsภาพประกอบ4: canva โดย @gettyimagespro เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !