เมื่อพูดถึงกิจกรรมการออกกำลังยอดฮิต ยุคสมัยนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการวิ่งใช่มั้ยล่ะคะ ด้วยความที่ทุกคนก็บอกต่อ ๆ กันมา ว่าการวิ่งนั้นใช้อุปกรณ์น้อย ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ ทักษะการออกกำลังกายใด ๆ ที่ซับซ้อนก็ไม่มี ผู้คนมากมายเลยนิยมกัน แต่เดี๋ยวก่อน!! อย่าเพิ่งเข้าใจว่าจะมาชวนคุยเรื่องการออกกำลังกายนะคะ เพราะวันนี้ผู้เขียนจะพาคุณผู้อ่านไปชมเทคนิคการเลือกชุดวิ่ง รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ ให้เข้ากันตามสไตล์ของผู้เขียนเอง ขอบอกเลยว่า ถนัดกว่าการวิ่งอีกค่ะ อย่างที่บอก เป็นนักวิ่งที่ไม่เน้นทำความเร็ว แต่เน้นการแต่งตัว และอุปกรณ์ ดังนั้น ก็ขอแบ่งเป็นข้อ ๆ เพื่อความเข้าใจง่าย และฝากให้คุณผู้อ่านทุกท่านพิจารณาเป็นไอเดีย ดังนี้ค่ะ 1. ข้อแรก การเลือกกางเกงวิ่งค่ะ ตรงนี้สำคัญทีเดียว เพราะงานวิ่งทุกงานเมื่อเราสมัคร เราจะได้รับเสื้อของงานกันใช่มั้ยคะ คราวนี้เราต้องมาดูว่าโทนสี การออกแบบของเสื้องานที่เราสมัครนั้นเป็นแบบไหน เราควรเลือกกางเกงวิ่งที่สีไม่โดดไปจากสีเสื้อ ผู้เขียนเองจะเน้นโทนสีเข้มหรือสีพื้น อาทิ สีดำ สีน้ำเงิน สีขาว เพื่อช่วยให้การถ่ายรูปออกมาขาดูไม่ใหญ่ค่ะ เทคนิคอีกอย่าง ผู้เขียนเองเป็นคนขาไม่ได้เรียวยาว ดังนั้นจะเลือกใส่กางเกงขาสั้น ซึ่งพบว่าเวลาวิ่งผ่านกล้องถ่ายรูป รูปออกมาดูสวยกว่าการใส่กางเกงขายาว 2. อุปกรณ์อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือกระเป๋าคาดเอวใช้สำหรับใส่ของเวลาวิ่งค่ะ ราคาก็มีตั้งแต่ระดับหลักร้อยจนถึงหลักพันบาทกันเลยทีเดียว และเดี๋ยวนี้เค้าก็เพิ่มลูกเล่นมากมาย ทั้งเพิ่มสายสำหรับติดเบอร์วิ่ง เพิ่มช่องสำหรับใส่พวกเจลให้พลังงานสำหรับนักวิ่งที่วิ่งในระยะไกลๆ อย่างฮาล์ฟมาราธอน 21 กิโลเมตร หรือฟูลมาราธอน 42.195 กิโลเมตรหรือมากกว่านั้น โดยเราต้องดูว่าเราวิ่งแบบไหน และเลือกในแบบที่เหมาะกับตัวเอง สำหรับผู้เขียนเองเลือกเป็นกระเป๋าคาดเอวแบบธรรมดา ราคาหลักร้อย สีพื้นอย่างสีเทา เพื่อสามารถเข้าได้กับทุกชุด 3. ลำดับต่อมา ที่ผู้เขียนใช้บ่อย ๆ คือที่รัดน่อง ซึ่งปัจจุบัน เรียกได้ว่ามีออกมาขายทุกสี และมีหลากหลายแบบ แบบสั่งให้ปักชื่อตัวเองก็ยังมี จริง ๆ แล้ว ที่รัดน่องนั้นมีประโยชน์เพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกเวลาวิ่ง ลดอาการกล้ามเนื้อล้าและลดอาการบาดเจ็บ รวมถึงการเป็นตะคริว ผู้เขียนเองจะใช้เมื่อวิ่งในระยะ 10 กิโลเมตร ขึ้นไป โดยการเลือกสีนั้น ผู้เขียนจะเลือกสีตัดกับเสื้อ หรือสีแบบเดียวกับเสื้อ เช่น เสื้อสีเหลืองเลือกที่รัดน่องสีแดง เสื้อสีชมพูเลือกที่รัดน่องสีชมพู เสื้อสีแดงเลือกที่รัดน่องสีดำ ซึ่งที่รัดน่องนี้นอกจากจะช่วยเรื่องการวิ่งแล้ว ยังช่วยให้ถ่ายรูปออกมาดูน่ารักดีค่ะ 4. ผ้าบัฟ ตรงนี้เป็นสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใช้สำหรับพันข้อมือไว้เช็ดเหงื่อค่ะ ปกติจะพันไว้ที่ข้อมือข้างขวา เนื่องจากข้อมือข้างซ้ายผู้เขียนจะใส่นาฬิกา แถมผ้าบัฟนี้ ยังนำมาคาดผมหรือรัดผมได้อีกด้วย โดยผู้เขียนจะเลือกลายน่ารัก ๆ พันไว้ที่ข้อมือ สีของผ้านั้น จริง ๆ จะใช้แบบไหนก็ได้ แต่ผู้เขียนจะใช้แบบไม่ต่างจากสีเสื้อมากนัก ปัจจุบันผ้าบัฟก็ได้กลายเป็นของสะสมอีกอย่างของงานวิ่งไปแล้วด้วยค่ะ 5. นาฬิกาสมาร์ทวอทช์สำหรับจับระยะทางวิ่ง ข้อนี้จริง ๆ แล้วจะสิ้นเปลืองสักหน่อยสำหรับคนที่ไม่ได้วิ่งบ่อย ๆ แต่สำหรับนักวิ่งสายอุปกรณ์อย่างเรา ของมันต้องมีอีกแล้วค่ะ ผู้เขียนเลือกใช้เป็นนาฬิกาสีขาว ยี่ห้อ GARMIN ที่เลือกสีขาวนั้น เพราะว่าสามารถเข้ากับชุดได้ทุกสี ทุกแบบ เนื่องจากผู้เขียนใช้ใส่ในชีวิตประจำวันด้วย แต่ไม่ต้องกังวลว่าเราจะรู้สึกเบื่อเจ้านาฬิกาเรือนเดิม เพราะในปัจจุบันมีทางเลือกอีกอย่างคือ เราสามารถเปลี่ยนเจ้าสายนาฬิกาให้มีลูกเล่นและสีที่ต่างไปจากเดิมได้ ซึ่งในตลาดก็มีสายนาฬิกาหลากหลายแบบออกมาวางจำหน่าย คุณผู้อ่านสามารถเลือกหาได้ตามใจชอบเลยค่ะ 6. เรื่องสุดท้าย เมื่อเป็นแฟชั่นชุดวิ่ง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือรองเท้าผ้าใบ สมัยนี้เรียกได้ว่ามีทุกสี ทุกแบบ และหลากหลายราคา ซึ่งต้องบอกว่า รองเท้านั้น เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการวิ่งมาก นอกจากดูสี รูปแบบ ความสวยงามแล้ว ยังต้องดูว่าเป็นรองเท้าสำหรับวิ่งในระยะใดด้วย โดยผู้เขียนเองเลือกเป็นรองเท้าผ้าใบสำหรับวิ่งสีขาว สีเดียวกับนาฬิกาเพราะเข้ากับสีชุดวิ่งได้ง่ายอีกเช่นกัน แล้วสังเกตว่า เมื่อเป็นสีเดียวกับนาฬิกาแล้ว เมื่อถ่ายรูปออกมาจะดูลงตัวทีเดียว ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคการเลือกชุดวิ่งผสมผสานกับอุปกรณ์ อย่างง่าย ๆ ให้ลงตัวของผู้เขียนเองค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านทุกท่านไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่นะคะ