9 ความเสี่ยงจากการทำงาน ในสวนสัตว์เปิด มีอะไรบ้าง ที่ต้องรู้! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ทุกอาชีพไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ต่างก็มีความเสี่ยงในรูปแบบที่แตกต่างกันค่ะ งานออฟฟิศอาจเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยจากการนั่งนาน งานก่อสร้างต้องเผชิญอุบัติเหตุจากเครื่องจักร ส่วนงานบริการต้องรับแรงกดดันทางอารมณ์และความคาดหวังของผู้คน พอจะมองเห็นภาพไหมคะ? ซึ่งการตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าเราควรเลิกทำงานนะคะ แต่เป็นการเรียนรู้เพื่อหาวิธีป้องกันและจัดการอย่างเหมาะสม เพราะการเพิกเฉยต่อความเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ ที่มองไม่เห็นอาจทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงในอนาคต เพราะหลายครั้งสิ่งที่ค่อยๆ สะสมกลับอันตรายไม่แพ้อุบัติเหตุเฉียบพลันค่ะ ในทำนองเดียวกันงานในสวนสัตว์เปิด ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงเฉพาะตัว โดยหลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อน ที่จะเป็นการทำงานใกล้ชิดกับสัตว์ป่า การเผชิญกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน และการรับมือกับปัจจัยแวดล้อมที่ควบคุมได้ยาก ที่หลายคนอาจมองเห็นแค่ความเสี่ยงจากสัตว์ที่ทำร้ายโดยตรง แต่กลับละเลยเรื่องโรคติดต่อจากสัตว์ ฝุ่น สารเคมี เสียงดัง หรือแม้แต่ความเครียดสะสมที่เกิดจากภาระงาน ดังนั้นการทำความเข้าใจความเสี่ยงรอบด้านเหล่านี้ จึงเป็นก้าวแรกของการบริหารจัดการอย่างมีระบบ เพื่อให้การทำงานในสวนสัตว์เปิดปลอดภัยทั้งต่อเจ้าหน้าที่และผู้มาเยือนค่ะ ถ้าหากวิเคราะห์ความเสี่ยงจากการทำงานในสวนสัตว์เปิดนั้น มีดังต่อไปนี้นะคะ 1. ความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมฉุกเฉิน หลายคนยังไม่รู้ว่า การทำงานในสวนสัตว์เปิดต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่อาจควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ไฟป่า หรือพายุลมแรง ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวและก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อเจ้าหน้าที่ นักท่องเที่ยว และสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่กว้าง การทำงานในพื้นที่ที่ต้องดูแลสัตว์จำนวนมากท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้การตัดสินใจต้องรวดเร็วและแม่นยำ หากขาดการเตรียมความพร้อม อาจนำไปสู่การสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินในเวลาอันสั้น ดังนั้นการมีแผนรองรับเหตุฉุกเฉินและการฝึกซ้อมเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เจ้าหน้าที่ควรได้รับการอบรมเกี่ยวกับการอพยพสัตว์ การช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และการปกป้องตนเองในสถานการณ์เสี่ยง องค์กรควรลงทุนในระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า เช่น เครื่องตรวจจับควันไฟ ระบบกระจายเสียง หรือป้ายแสดงเส้นทางหนีไฟอย่างชัดเจน รวมทั้งจัดให้มีอุปกรณ์กู้ชีพและยารักษาเบื้องต้นพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพราะมาตรการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความสูญเสีย แต่ยังสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้มาเยือนว่า สวนสัตว์เปิดคือสถานที่ที่ปลอดภัยแม้ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอน 2. การสัมผัสโรคติดต่อจากสัตว์ การทำงานในสวนสัตว์เปิดย่อมมีความเสี่ยงสูง ต่อการสัมผัสโรคติดต่อจากสัตว์มากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องคลุกคลีใกล้ชิดกับสัตว์หลากหลายชนิดทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหาร ทำความสะอาดคอก หรือการเคลื่อนย้ายสัตว์ โดยเฉพาะในกรณีที่สัมผัสกับมูล สารคัดหลั่ง หรือบาดแผลโดยตรง ความเสี่ยงยิ่งสูงขึ้นค่ะ การขาดการป้องกันที่ถูกวิธี เช่น ไม่สวมถุงมือ หน้ากาก หรือไม่ล้างมือหลังปฏิบัติงาน จะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายอย่างมาก เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ควรได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ฉีดวัคซีนป้องกันที่จำเป็น รวมทั้งต้องมีมาตรการเฝ้าระวังสุขภาพสัตว์อย่างสม่ำเสมอ องค์กรควรจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้พร้อมใช้งาน เช่น ถุงมือยาง แว่นตานิรภัย และเสื้อคลุมกันเปื้อน พร้อมทั้งอบรมเรื่องการจัดการกับของเสียและการล้างมืออย่างถูกวิธี เพราะการลงทุนด้านความปลอดภัยเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดโอกาสติดโรค แต่ยังเป็นการปกป้องสุขอนามัยในระยะยาวของผู้ปฏิบัติงานและผู้มาเยือนในสวนสัตว์เปิดด้วยนะคะ 3. อุบัติเหตุจากเครื่องมือและอุปกรณ์ คุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า การทำงานในสวนสัตว์เปิดไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่การดูแลสัตว์เท่านั้น แต่ยังต้องพึ่งพาเครื่องมือและอุปกรณ์จำนวนมาก เช่น รถขนอาหาร เครื่องตัดหญ้า เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ไปจนถึงเครื่องมือซ่อมบำรุงรั้วหรือกรง หากใช้งานโดยไม่มีความระมัดระวังหรือขาดการบำรุงรักษาที่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เช่น การถูกของมีคมบาด การถูกเครื่องจักรหนีบ หรือแม้แต่อุบัติเหตุรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต และความเสี่ยงนี้สูงขึ้นหากเจ้าหน้าที่ขาดการฝึกอบรมที่ถูกต้อง หรือใช้อุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพโดยไม่ตรวจสอบก่อนใช้งาน ซึ่งแนวทางป้องกันที่สำคัญ คือ การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน โดยให้น้ำหนักกับการตรวจสอบสภาพเครื่องมืออย่างสม่ำเสมอ การจัดเก็บอุปกรณ์ให้เป็นระเบียบ และการใช้เครื่องมืออย่างถูกวิธีตามคู่มือมาตรฐาน องค์กรควรจัดฝึกอบรมการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับ พร้อมทั้งจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น รองเท้านิรภัย ถุงมือ และหมวกนิรภัย เพื่อเสริมความปลอดภัย การลงทุนด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดอุบัติเหตุ แต่ยังสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการทำงานทุกวัน 4. อุบัติเหตุจากการถูกสัตว์ทำร้าย เราต่างก็รู้แล้ว่า การทำงานในสวนสัตว์เปิดเต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะเจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับสัตว์ป่าหลากหลายชนิดที่มีพฤติกรรมแตกต่างกัน บางครั้งสัตว์อาจดูเชื่องสงบ แต่เมื่อถูกกระตุ้นหรือรู้สึกถูกคุกคาม ก็สามารถทำร้ายคนได้ทันที เช่น การกัด ข่วน ชน หรือเหยียบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดบาดเจ็บตั้งแต่แผลเล็กน้อยจนถึงบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ช้าง ม้าลาย หรือนกกระจอกเทศ ที่มีกำลังมากพอจะทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตได้ ความประมาทเพียงเสี้ยววินาทีจึงอาจสร้างความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับได้ และเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องผ่านการอบรมเรื่องพฤติกรรมสัตว์ การอ่านสัญญาณเตือน และการปฏิบัติที่ถูกต้องเมื่ออยู่ใกล้สัตว์ นอกจากนี้ยังควรทำงานเป็นทีมเสมอ โดยมีเพื่อนร่วมงานคอยช่วยสังเกตการณ์ และใช้เครื่องมือกั้นระยะหรืออุปกรณ์ป้องกันเมื่อจำเป็น องค์กรควรกำหนดมาตรการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เช่น การฝึกซ้อมสถานการณ์ฉุกเฉิน การจัดพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัย และการประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานร่วมกับสัตว์ได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุดค่ะ 5. ความเสี่ยงจากการทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน เจ้าหน้าที่ในสวนสัตว์เปิดมักต้องปฏิบัติงานท่ามกลางสภาพอากาศที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดจัด ความร้อนสูง หรือรังสีอัลตราไวโอเลตที่สะสมต่อเนื่อง การทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดภาวะลมแดด อาการขาดน้ำ และผิวหนังไหม้แดดได้ง่าย หากไม่ได้รับการป้องกันอย่างเหมาะสม นอกจากนี้การทำงานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงต่อเนื่อง ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดความเจ็บป่วยเรื้อรัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้เตรียมร่างกายให้พร้อม มักเผชิญกับอาการเหนื่อยล้าและสมาธิลดลง จึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัยโดยรวม ซึ่งการจัดการความเสี่ยงจึงจำเป็นต้องมีมาตรการหลายด้านควบคู่กัน องค์กรควรกำหนดตารางการทำงานที่เหมาะสม ให้มีเวลาพักในที่ร่มหรือพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี จัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด เช่น หมวก เสื้อแขนยาว และครีมกันแดด รวมถึงส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ดื่มน้ำบ่อยครั้งเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ นอกจากนี้การให้ความรู้เกี่ยวกับอาการเตือนของการเกิดภาวะลมแดด และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความรุนแรงของเหตุฉุกเฉินได้ การดูแลสุขอนามัยของเจ้าหน้าที่ในแง่มุมนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ไม่ควรถูกมองข้ามค่ะ 6. ปัญหาฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ รู้ไหมคะว่า การทำงานในสวนสัตว์เปิดทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้จากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์ แพขน ฟางแห้ง อาหารสัตว์ หรือแม้แต่เกสรดอกไม้ในพื้นที่กว้าง โดยสิ่งเหล่านี้สามารถฟุ้งกระจายในอากาศและเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ง่าย เมื่อสัมผัสเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ไอ จาม น้ำมูกไหล หรือรุนแรงถึงขั้นเจ็บป่วยเรื้อรัง ยิ่งเจ้าหน้าที่ที่มีภูมิแพ้อยู่เดิมก็ยิ่งเสี่ยงสูงกว่าปกติ หากไม่ได้รับการป้องกันที่เหมาะสมก็อาจทำให้อาการกำเริบจนส่งผลต่อการทำงานในแต่ละวัน ดังนั้นมาตรการป้องกันที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างมากค่ะ องค์กรควรจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น หน้ากากกรองฝุ่น N95 หรือหน้ากากผ้าที่สามารถกรองละอองได้ รวมถึงการออกแบบพื้นที่ทำงานที่มีระบบระบายอากาศดี และลดการกวาดฝุ่นแห้งด้วยการใช้น้ำพ่นละอองช่วยลดการฟุ้งกระจาย การตรวจปอดประจำปีและการเฝ้าระวังอาการแพ้ของเจ้าหน้าที่ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยค้นหาความเสี่ยงตั้งแต่ระยะแรก การดูแลเรื่องนี้ไม่เพียงช่วยลดความเจ็บป่วยจากการทำงานในสวนสัตว์ แต่ยังทำให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในระยะยาวค่ะ 7. การสัมผัสสารเคมีและยาปฏิชีวนะ ในการดูแลรักษาสัตว์ภายในสวนสัตว์เปิด เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้สารเคมีและยาหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าเชื้อสำหรับทำความสะอาดคอกสัตว์ น้ำยาฆ่าแมลงเพื่อควบคุมพาหะนำโรค หรือแม้แต่ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาสัตว์ที่เจ็บป่วย หากมีการใช้งานโดยขาดความรู้ความเข้าใจ หรือไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม สารเหล่านี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง แสบตา หรือปัญหาระบบทางเดินหายใจ และบางชนิดอาจก่อให้เกิดผลสะสมในร่างกายเมื่อสัมผัสต่อเนื่องเป็นเวลานาน ความเสี่ยงจึงไม่ได้จำกัดแค่การเจ็บป่วยเฉียบพลัน แต่ยังรวมถึงผลกระทบด้านสุขอนามัยระยะยาวด้วย และเพื่อป้องกันอันตราย องค์กรควรจัดให้มีการอบรมการใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง จัดเก็บในพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีการระบายอากาศดี พร้อมติดฉลากและเอกสารข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีให้เข้าถึงได้ง่าย เจ้าหน้าที่ทุกคนควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือยาง หน้ากากกรองสารเคมี และแว่นตานิรภัยเมื่อทำงานกับสารเหล่านี้ นอกจากนี้ควรมีการติดตามร่างกายเป็นประจำ เพื่อตรวจหาความผิดปกติที่อาจเกิดจากการสัมผัสสารเคมีตั้งแต่ระยะเริ่มต้น การจัดการที่เป็นระบบและรัดกุมเช่นนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างมาตรฐานอาชีวอนามัยที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนที่ทำงานในสวนสัตว์เปิดค่ะ 8. ความเสี่ยงจากเสียงดังรบกวน ในการทำงานในสวนสัตว์เปิดไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับสัตว์และสิ่งแวดล้อมเท่านั้นนะคะ แต่ยังต้องเผชิญกับระดับเสียงที่เกินมาตรฐานอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องของสัตว์ เช่น สิงโต ช้าง หรือลิงที่สามารถส่งเสียงดังได้หลายเดซิเบล ไปจนถึงเสียงจากเครื่องจักรที่ใช้ในการดูแลพื้นที่ เช่น รถบรรทุก เครื่องเป่าใบไม้ หรือเครื่องตัดหญ้า การสัมผัสเสียงดังต่อเนื่องโดยไม่มีการป้องกันอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าทางการได้ยิน หูอื้อ และในระยะยาวอาจนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินถาวร ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นมาตรการป้องกันที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง องค์กรควรจัดหาอุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน เช่น ที่อุดหูหรือที่ครอบหูให้เจ้าหน้าที่ใช้งานเป็นประจำในพื้นที่ที่มีระดับเสียงสูง นอกจากนี้ควรมีการตรวจการได้ยินของเจ้าหน้าที่เป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจหาความผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ การวางแผนจัดสรรเวลาทำงานไม่ให้ต้องอยู่ในพื้นที่เสียงดังเกินไปต่อเนื่องเป็นเวลานาน และการบำรุงรักษาเครื่องจักรเพื่อลดเสียงที่เกิดขึ้น ก็เป็นแนวทางที่ช่วยลดความเสี่ยงได้เช่นกัน การใส่ใจเรื่องนี้ไม่เพียงช่วยปกป้องการได้ยิน แต่ยังทำให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาวค่ะ 9. ความเครียดและภาวะเหนื่อยล้าทางจิตใจ การทำงานในสวนสัตว์เปิดไม่ใช่เพียงการดูแลสัตว์อย่างเดียว แต่ยังเต็มไปด้วยความกดดันรอบด้าน ทั้งความรับผิดชอบต่อชีวิตสัตว์ป่าที่มีค่าตัวมหาศาล ความคาดหวังจากนักท่องเที่ยว และภารกิจประจำวันที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องโดยแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งความกดดันเหล่านี้หากสะสมเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ความเครียดเรื้อรัง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รู้สึกเหนื่อยล้า หมดแรงจูงใจ และอาจเกิดภาวะหมดไฟ (Burnout) ที่บั่นทอนทั้งสุขภาพจิตและร่างกาย นอกจากนี้การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงสูง เช่น การเผชิญหน้ากับสัตว์ใหญ่ การดูแลสัตว์ที่เจ็บป่วย หรือการต้องจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่อยู่ในภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัว อาการต่างๆ เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร สมาธิลดลง หรือหงุดหงิดง่าย มักเกิดขึ้นโดยที่หลายคนไม่ทันสังเกต หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ความเครียดอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในการทำงาน และนำไปสู่อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงได้ค่ะ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากความเครียด องค์กรควรจัดให้มีการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต เช่น การให้คำปรึกษา การสร้างบรรยากาศการทำงานที่เป็นมิตร และการจัดตารางงานที่สมดุลระหว่างภารกิจและเวลาพักผ่อน เจ้าหน้าที่ควรได้รับโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมผ่อนคลายหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงทางจิตใจและร่างกาย การดูแลสุขภาพจิตควบคู่กับการดูแลร่างกาน ถือเป็นส่วนหนึ่งของอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่สำคัญต่อความยั่งยืนในการทำงานในสวนสัตว์เปิดค่ะ ที่โดยสรุปแล้วเมื่อมองภาพรวมของการทำงานในสวนสัตว์เปิด จะเห็นว่ามีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าที่หลายคนคาดคิดค่ะ โดยความเสี่ยงที่มีครอบคลุมทั้งด้านร่างกาย สุขภาพจิต และความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อจากสัตว์ที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า อุบัติเหตุจากการถูกสัตว์ทำร้ายที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไปจนถึงการสัมผัสฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ สารเคมี หรือเสียงดังที่แทรกซึมในงานประจำโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังรวมถึงความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่ไม่แน่นอน และความเครียดสะสมที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจ หากไม่มีการจัดการที่รอบคอบ ความเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้สามารถสะสมจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งตัวบุคลากรและการดำเนินงานขององค์กรในระยะยาวได้ค่ะ ดังนั้นการนำหลักอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอนจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยองค์กรควรมีการวางมาตรการป้องกันเชิงระบบ เช่น การอบรมเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง การจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสม การตรวจร่างกายและจิตใจประจำปี ตลอดจนการประเมินสภาพแวดล้อมการทำงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจหาความเสี่ยงที่อาจมองไม่เห็น การมีแผนรับมือเหตุฉุกเฉินและการฝึกซ้อมเป็นประจำก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยลดความตื่นตระหนกเมื่อเกิดสถานการณ์จริง และเพิ่มความพร้อมให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกระดับค่ะ และถึงแม้การทำงานในสวนสัตว์เปิดจะเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้ทั้งหมด แต่การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยร่วมกันระหว่างองค์กรและเจ้าหน้าที่ จะช่วยลดความรุนแรงของความเสี่ยงเหล่านี้ลงได้อย่างมาก การลงทุนในด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่สูญเปล่า แต่เป็นการสร้างรากฐานของความยั่งยืน เพราะนอกจากจะปกป้องชีวิตและสุขอนามัยของเจ้าหน้าที่แล้ว ยังทำให้สวนสัตว์เปิดสามารถรักษาคุณภาพมาตรฐาน เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านธรรมชาติและสัตว์ป่าที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวและสาธารณชนต่อไปในอนาคต ดังนั้นความรู้ ความตระหนัก และการลงมือปฏิบัติจริง คือเกราะที่ดีที่สุดในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความท้าทายเช่นนี้ค่ะ ซึ่งจากที่ผู้เขียนได้มีประสบการณ์ได้ไปเที่ยวที่สวนสัตว์เปิดมานั้น พบว่าสัตว์เสียงดังพอสมควรค่ะ โดยเฉพาะในโซนที่มีการแสดงนะคะ แต่ว่าด้วยความที่เราไปเที่ยวนานๆ เจอทีก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่คนทำงานจะได้รับผลกระทบค่ะ และจากที่ได้ยินตามข่าวว่าเจ้าหน้าที่ถูกสัตว์ทำร้าย นั่นก็เป็นตัวอย่างของหนึ่งความเสี่ยงตามที่ผู้เขียนได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ค่ะ ดังนั้นหากใครกำลังจะไปทำงานที่สวนสัตว์เปิดหรือตอนนี้ทำงานอยู่แล้ว และทั้งหมดนั้นคือความเสี่ยงจากการทำงานในสวนสัตว์เปิดค่ะ จริงๆ ทุกอาชีพมีความเสี่ยงที่แตกต่างกันไปและทุกอาชีพมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ เพียงแต่ว่าผู้เขียนยังไงไม่ได้พูดถึงและบางคนอาจมองไม่ออกนะคะ เอาไว้บทความหน้าจะมาเผยแพร่ความเสี่ยงจากการทำงานของอาชีพอื่นๆ เพื่อให้ทุกคนนำไปเป็นแนวทางในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากการทำงาน และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #โรคจากการทำงาน #อาชีวอนามัยและความปลอดภัย #ความเสี่ยงจากการทำงาน_ในสวนสัตว์เปิด #OccupationalHealthandSafety เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปกและออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล ความเสี่ยงจากการประกอบอาชีพ คนทำความสะอาด ในโรงพยาบาล ที่ควรรู้ ความเสี่ยงของพนักงานเก็บขนขยะ จากการประกอบอาชีพ มีอะไรบ้าง 10 ปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน ส่งผลกระทบต่อคนได้ มีอะไรบ้าง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !