อาการเหล่านี้จะบอกว่าคุณนั้นรู้สึกหมดแรงทางจิตใจและอารมณ์หรือไม่ ในชีวิตที่เร่งรีบของเราบางครั้งเราอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้า เราไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราและในสิ่งที่คาดไม่ถึงเราต้องเผชิญกับความเครียดมากมายที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและร่างกายของเรา พวกเราหลายคนนั้นมีอารมณ์ที่อ่อนล้าเพราะความเครียดซึ่งส่งผลให้เกิดอาการที่ไม่ดีต่อสุขภาพเป็นโรคชนิดหนึ่งซึ่งส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดที่ส่งผลกระทบต่อตัวเราทั้งสิ้น สัญญาณเตือนว่าคุณหมดแรงทางด้านจิตใจและอารมณ์หรือไม่ มี 9 ข้อดังนี้ 1. คุณหงุดหงิดอย่างรวดเร็ว คือคุณได้รับผลกระทบอะไรบางอย่างจากเรื่องเล็กๆโดยเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ คุณพบว่าผู้คนรอบๆตัวคุณนั้นรู้สึกไม่ดีต่อคุณและในนาทีใดๆที่คุณรับรู้ถึงความรู้สึกในแง่ลบจากคนรอบๆตัวคุณมันจะทำให้คุณนั้นรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที คุณอารมณ์เสียง่าย ๆ คุณรู้สึกว่าไม่มีความหวังอะไรเหลืออยู่ในโลกนี้แล้ว นั่งพักและผ่อนคลาย หายใจเข้าลึกๆ ความรู้สึกหงุดหงิดนี้เป็นสิ่งที่แย่มาก แต่คุณก็ต้องออกมาจากความรู้สึกเหล่านี้ให้ได้ พักสมองจากความเครียดและผ่อนคลายจิตใจของคุณด้วยการออกไปทำสิ่งต่างๆที่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น 2. คุณมักจะไม่เหลือเวลาสำหรับตัวเองอยู่เสมอ ด้วยเหตุผลใดก็ตามคุณดูเหมือนว่าจะไม่เหลือเวลา คุณไม่มีเวลาพักผ่อนและไม่มีเวลาดูแลตัวเอง บางคนถึงขนาดไม่มีเวลากินข้าวหรือนอนด้วยซ้ำ เรากำลังทำอะไรกันอยู่ ถึงทำให้ใช้เวลาไปมากมายขนาดนั้นจนทำให้เวลาสำหรับตัวเองหายไป ถ้าคุณไม่ดูแลตัวเองมัวแต่เอาเวลาไปทุ่มเทกับการทำงานหรือการเรียนหนังสือ มันอาจเกิดผลเสียต่อตัวคุณในวันหนึ่งในอนาคต หยุกพักผ่อนบ้างหาเวลาดูแลตัวเอง แค่หยุดสักครู่ ออกไปสปามีบริการนวดที่ดีหลากหลายไปผ่อนคลายอารมณ์หาอะไรปนเปรอตัวเองบ้าง ไปชอปปิ้งซื้อของต่างๆ อาจจะหาซื้ออุปกรณ์สำหรับดูแลสุขภาพหรือผิวพรรณ มันเป็นเรื่องที่ดีที่คุณจะหาเวลาเล็กๆน้อยๆให้รางวัลกับตัวเองด้วยการพักผ่อนบ้าง 3. คุณมักจะรู้สึกต่ำต้อยและขาดแรงจูงใจในการใช้ชีวิต คุณมักจะรู้สึกว่ามีสิ่งไม่ดีบ้างสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น คุณสูญเสียศรัทธาในชีวิตและไม่มีอะไรที่สามารถสร้างแรงจูงใจให้คุณเดินหน้าต่อไป ใช่ บางครั้งชีวิตมันก็ช่างโหดร้ายจริงๆ แต่พายุสักวันก็ต้องพัดผ่านไป เมื่อพายุนั้นผ่านไปแล้วเราจะได้กลิ่นหอมของดอกไม้และดินที่เปียกชื้นยามเช้า นั้นเปรียบดังการเริ่มต้นใหม่เพราะเมื่อพายุผ่านเข้ามามันอาจจะรุนแรงและสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่เราสร้างมาต่างๆให้หมดไป อาจทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตไม่เหลืออะไรอีกแล้วจึงทำให้หลายคนที่เจอพายุลูกใหญ่เข้ามาในชีวิตขาดแรงจูงใจในการใช้ชีวิต อย่าทำอย่างนั้น จงดึงสติของตัวเองให้กลับมาและสร้างศรัทธาในชีวิต หากสิ่งต่างๆไม่เพียงพอต่อตัวคุณอย่าดิ้นรนและดื้อรั้น พักผ่อนและรับพลังบวกเข้ามาในชีวิต 4. คุณนอนไม่หลับ ค่ำคืนนี้รู้สึกยากลำบากกว่าปกติ คุณนอนไม่หลับและไม่รู้ว่าเรื่องราวต่างๆที่เจอมามันบั้นทอนจิตใจและทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้ามากแค่ไหน เป็นเพราะความเครียดที่คุณประสบอยู่ ทำให้ค่ำคืนนี้คุณรู้สึกกระวนกระวายภายในจิตใจ จนทำให้จิตฟุ้งซ่านและไม่สงบ นั่งสมาธิก่อนนอน มีความคิดเชิงบวกก่อนเข้านอนและอย่าคิดมาก เพราะคุณต้องนอน 6-8 ชั่วโมงเพื่อให้รู้สึกดีทั้งกายและใจ คุณอาจใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้คุณนอนหลับหรือฟังเพลงที่รู้สึกผ่อนคลายก่อนนอนก็อาจจะช่วยได้มากขึ้น 5. คุณจะรู้สึกคลี่นไส้และเซื่องซึม ความรู้สึกเซื่องซึมความรู้สึกคลื่นไส้และเวียนศีรษะเป็นสัญญานเตือนว่าคุณต้องพักผ่อนเพราะมันเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆของคุณ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะว่าคุณรู้สึกตึงเครียดจนร่างกายไม่สามารถรับได้อีกต่อไปและกำลังทรมาน ถึงเวลาที่คุณจะเริ่มคิดเกี่ยวกับการชาร์จแบตให้ตัวเอง 6. คุณพบว่าตัวคุณเองนั้นหนีจากความรับผิดชอบ คุณรู้สึกว่าตัวเองมีภาระหน้าที่จะต้องรับผิดชอบมากมายมหาศาลและคุณไม่สามารถรับมันได้อีก มันก็โอเคที่คุณจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในบางครั้ง แต่มันอาจสร้างผลกระทบถ้าคุณทำแบบนี้ในระยะยาว ความเครียดที่มากเกินไปทำให้เกิดความคิดด้านลบดังนั้นคุณมักหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ หากคุณหยุดพักและเติมพลังให้ตัวเองคุณจะแข็งแกร่งและดีขึ้น 7. คุณรู้สึกอยากอยู่อย่างสันโดษ คุณไม่อยากที่จะผูกพันธ์กับใครหรืออะไรอีกต่อไป ไม่มีอะไรที่คุณรู้สึกว่าส่งผลกระทบต่อคุณอีกต่อไป คุณไม่มีความรู้สึกยินดีหรือเสียใจมันเหมือนกับว่าคุณเป็นเพียงร่างกายที่ไร้อารมณ์ ปล่อยความเจ็บปวดต่างๆเพราะมันอาจจะทำให้คุณรู้สึกเสียใจมากจนถึงขั้นทำให้คุณเป็นคนไร้ความรู้สึกไปเลย ให้เวลาตัวเอง ดูแลจิตใจตัวเอง 8. คุณมีประสบการณ์ที่ทำให้กระวนกระวายอยู่บ่อยครั้ง คุณรู้สึกเป็นกังวลกับสิ่งต่างๆไปเสียทุกเรื่องแม้เรื่องที่ไม่จำเป็นก็ตาม มันอาจจะเกินไปจนทำให้คุณรู้สึกแย่ลงเรื่อย ๆ เพราะถ้าคุณมีอาการของ "โรควิตกกังวล" ซึ่งเป็นโรคทางจิตใจที่มีอาการรุนแรงกว่าความวิตกกังวลปกติ มันทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดและเครียด อย่าปล่อยให้ความคิดเชิงลบเหล่านี้มาทำลายตัวคุณ ออกไปหากิจกรรมอะไรทำที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขมากขึ้นเพื่อบรรเทาความกระวนกระวายที่เกิดจากประสบการณ์ที่ทำให้เจ็บปวดในอดีต 9. คุณร้องไห้แบบไม่มีเหตุผลเลย มีหลายครั้งที่คุณอยากร้องไห้ออกมาโดยที่ไม่มีเหตุผลเลย จริงๆแล้วไม่ใช่มันไม่มีเหตุผลหรอกแต่คุณคงไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงมากกว่า บางครั้งเราอาจจะเก็บความทุกข์จากสิ่งที่จิตใจเรานั้นยังคงไม่สามารถที่จะทำใจยอมรับมันได้ มันเป็นเพราะความเจ็บปวดที่มีอยู่ภายในจิตใจ มันถูกสะสมมาเรื่อยๆจนคุณรู้สึกทนไมไหวอีกต่อไป จนทำให้น้ำตามันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์เมื่อเจอเรื่องที่ทำให้จิตใจบอบช้ำ น้ำตาจึงเป็นตัวแทนความรู้สึกมากมายที่เอ่อล้นออกมา คนที่ร้องไห้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาอ่อนแอ แต่มันหมายความว่าพวกเขามีความรู้สึก คุณควรจะผ่อนคลายบ้าง บางครั้งคุณอาจจะใช้ชีวิตที่ตึงเคียดมากเกินไปจนทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกินที่ต้องเป็นแบบนี้อีกต่อไป ช่วงเวลาเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นในไม่ช้า ขอให้ทุกคนที่กำลังประสบปัญหาต่างๆจงให้กำลังใจตัวเอง เพราะไม่มีใครบนโลกใบนี้เข้าใจตัวเราและรับรู้ความรู้สึกของตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จงเข้มแข็งและผ่านเรื่องราวต่างๆที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต ปล่อยวางเรื่องราวต่างๆที่ทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวด เพียงแค่คุณนั้นหยุดพักและทำสิ่งที่คุณรัก อย่าฝืนทำอะไรนาน ๆ เพราะการทำงานในสภาวะจิตใจแบบนี้จะไม่เกิดผลดีแน่ อาจจะทำให้คุณรู้สึกแย่ไปมากกว่าเดิมอีก อย่าปล่อยให้เรื่องราวแย่ๆเข้ามามีอิทธิพลภายในจิตใจคุณ เพราะการรักตัวเองเป็นสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดในขณะนี้ ref - https://themindsjournal.com/9-warning-signs-youre-mentally-and-emotionally-exhausted/ Cr. Photo by JJPROJECT ช่องทางติดตามบทความอื่น ๆ https://www.noozup.me/2263778/ https://www.blockdit.com/posts/5de1540c2b674a26cdbbed2a โดยบทความนักเขียนเป็นผู้เขียนเองทั้งหมดตามช่องทางต่าง ๆ นี้