มาทำความรู้จักกับโรคภูมแพ้กันเถอะ โรคภูมิแพ้ เกิดจากการตอบสนองทางด้านร่างกาย ที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดอาการผิดปกติกับอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้จะมีอาการแตกต่างกันไป เพราะชนิดของสารก่อภูมิแพ้ในแต่ละบุคคลย่อมตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้แตกต่างกันไป ประเภทของสารการก่อภูมิแพ้นั้น หลัก ๆ จะมี 2 ประเภท1). สารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม และสภาพอากาศเช่น ไรฝุ่น ฝุ่นละอองเนื่องจากมลพิษทางอากาศ เชื้อรา และสัตว์นำโรคต่างๆ เป็นต้น2). สารก่อภูมิแพ้ประเภท ที่มาจากอาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว แป้ง และอาหารทะเลอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นกับเด็กวัย 4 - 6 เดือน จะมีอาการแพ้แสดงออกชัดเจนข้อมูลภาพ https://pixabay.comสังเกตุอาการที่บ่งบอกถึงการเป็นโรคภูมิแพ้ มีผื่นคัน ลมพิษ - เป็นลักษณะอาการที่แสดงออกทางด้านผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 2. น้ำหมูกไหล ไอ จาม - เป็นอาการที่แสดงออกทางด้านจมูกและโพรงจมูก 3. คันจมูก คัดจมูก หายใจไม่สะดวก - เป็นอาการที่แสดงออกทางด้านจมูกและโพรงจมูก เช่นกัน 4. คันตา แสบตา เคืองตา น้ำตาไหลบ่อย - เป็นอาการที่แสดงออกทางตา 5. วิงเวียนศีรษะ อาเจียน น้ำหนักลด - เป็นอาการที่แสดงออกของระบบภายในร่างกายของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ข้อมูลภาพ https://pixabay.comนอกจาก 5 อาการเหล่านี้แล้วยังมีอาการข้างเคียงที่แตกต่างกันไป ของแต่ละบุคคลซึ่งจำเป็นจะต้องหมั่นสังเกตุและดูแลตัวเองอยู่เสมอ หากมีอาการบ่อย ๆ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไปข้อมูลภาพ https://pixabay.comควรปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นโรคภูมิแพ้หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านโดยเฉพาะ ห้องนอน หมอน ผ้าห่ม ควรความสะอาดบ่อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดไรฝุ่นต่าง ๆ ไม่ควรมีสัตว์เลี้ยง ตุ๊กตา หรืออุปกรณ์ที่ค่อนข้างเป็นตัวสะสมฝุ่นละลองภายในห้อง เปิดห้องให้แสงแดดและอากาศถ่ายเท ระบายอากาศบ้างหมั่นดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอพยายามหลีกเลี่ยงกลุ่มคนที่มีอาการเป็นไข้หวัด หรือเมื่อในแหล่งชุมนุม ให้สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคหากรู้สึกว่าหายใจไม่สะดวก หายใจติดขัด หรือมีน้ำหมูกไหล แนะนำให้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เช้า - เย็น ข้อมูลภาพ https://pixabay.com โรคภูมิแพ้เป็นโรคเรื้อรังถ้าเกิดขึ้นกับใครแล้วเป็นการรักษาให้หายขาดนั้นเป็นเรื่องยาก ต้องผ่านการตรวจเช็คจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าหากรู้สาเหตุของการแพ้อย่างชัดเจนก็พยายามหลีกเลี่ยง ตลอดจนหมั่นดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังอย่างเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการอยู่ในกลุ่มคนหมู่มาก เท่านี้เราก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยห่างไกลภูมิแพ้ได้เช่นกัน