ภาพหน้าปกโดย Karolina Grabowska จาก Pixabay สาว ๆ หลายคนชอบรับประทานของหวานเป็นชีวิตจิตใจ บางคน..ใจหนึ่งอยากทานอีกใจหนึ่งก็อยากอด ทำไมทำมา ทานเข้าไปแล้ว กลายเป็นว่า "พรุ่งนี้ค่อยลดก็แล้วกัน" ทำให้มักจะติดเป็นนิสัย ยากที่จะลดน้ำหนัก วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับคนอยากกินของหวาน แต่ไม่อยากอ้วน มาฝากผู้อ่านทุกท่านค่ะ มาตามดูเคล็ดลับกันเลยดีกว่า ^^ 1. ลดสัดส่วนในการรับประทานอาหาร กินอย่างละนิดก็พอเพื่อให้รู้รสชาติของอาหาร เช่น เค้ก 1-2 ชิ้นเล็ก หรือไอศครีมเพียง 1 ลูก เราต้องท่องให้ขึ้นใจว่า เป็นการทานเพื่อให้รู้รสเท่านั้น เช่นนี้แล้วจะช่วยขจัดความอยากอาหารออกไปได้พอสมควร ภาพโดย Steve จาก Pixabay 2. เลือกรับประทานผลไม้แทนขนมหวาน ลองเปลี่ยนมาเป็นการรับประทานผลไม้แทน ซึ่งผลไม้นั้นมีหลายประเภทที่มีรสชาติหวาน ซึ่งเป็นรสหวานตามธรรมชาติ แต่อย่าลืมยกเว้นทุเรียนค่ะ เพราะทุเรียนน้ำตาลสูงมาก ควรหลีกเลี่ยงเลยค่ะ สำหรับผลไม้นั้นมีเยอะแยะมากมายที่มีรสชาติหวานและอร่อย เช่น แอปเปิ้ล สาลี่ สับปะรด แตงโม หรือฝรั่ง เป็นต้น นอกจากนี้แล้วผลไม้ยังมีประโยชน์และมีกากใยอาหาร แถมยังสามารถกินได้ทุกวันเลยค่ะ ภาพโดย silviarita จาก Pixabay 3. กำหนดและคำนวณปริมาณแคลอรี่ ก่อนที่เราจะรับประทานขนมนั้น เราควรอ่านปริมาณหรือตรวจสอบแคลอรี่ในขนมนั้น ๆ ก่อน โดยอาจจะอ่านข้อมูลจากข้างกล่องขนม หรือดูปริมาณไขมันว่ามีมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ดี ควรเลือกซื้อขนมที่มีปริมาณไขมันน้อยที่สุด แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ลองดูว่าขนมที่รับประทานเข้าไปนั้น มีความหวานมากน้อยเพียงใด หากหวานมาก ก็ควรทานแต่พอดีก็พอ ภาพโดย HOerwin56 จาก Pixabay 4. ดื่มชาเขียวหรือกาแฟร้อนหลังรับประทานอาหาร การดื่มชาเขียวหรือกาแฟร้อนนั้น ควรเลี่ยงที่จะต้องใส่ครีมหรือน้ำตาล เพราะในตัวของชาเขียวหรือกาแฟ จะมีคาเฟอีนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน แต่หากต้องการรสชาติหวานจริง ๆ ก็อนุโลมให้ใส่น้ำตาลเทียมได้ค่ะ ภาพโดย Craig Melville จาก Pixabay 5. ออกกำลังกาย วิธีนี้คนส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยทำกัน แต่ถ้าอยากรับประทานของหวานโดยไม่รู้สึกผิด ง่ายนิดเดียว คือต้องออกกำลังกายค่ะ การออกกำลังกายอาจจะเป็นการเดิน หรือวิ่งเหยาะ ๆ จะทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยมาก ใน 1 วัน ในช่วงแรกอาจจะออกกำลังกายเพียง 15 นาที ก่อนก็ได้ จากนั้นค่อยเพิ่มจำนวนเวลา อาจจะเป็น 30 นาที - 1 ชั่วโมง ก็พอค่ะ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีอย่างหนึ่ง แถมยังได้สุขภาพดีกลับคืนมาอีกด้วย ภาพโดย Sasin Tipchai จาก Pixabay เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเคล็ดลับดี ๆ ที่ผู้เขียนได้แนะนำ ลองเอาไปปฏิบัติและปรับใช้กับชีวิตประจำวันดูนะคะ ส่วนคราวหน้าจะมาแนะนำเคล็ดลับอะไรอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ ขอบคุณค่ะ :)
