สวัสดี, วันนี้จะมาแนะนำยาขมน้ำเต้าทอง เป็นสมุนไพรแก้ไข้เป็นยาแผนโบราณมีส่วนผสมของยาจีน นิยมรับประทานกันแก้ไข้ สามารถรับประทาน ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่มีสารเคมีหรือสเตียรอยด์ เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ยาง่าย มาเริ่มดูสรรพคุณกันเลยดีกว่าค่ะ และวิธีรับประทานอย่างไร "ยาขมน้ำเต้าทอง" เป็นยาสมุนไพรตำรับดั้งเดิม โดยนำหัวยามาต้มเคี่ยวสกัด จากนั้นทำให้แห้งเป็นผง โดยการกรรมวิธีสมัยใหม่ทางวิทยาศาสตร์ (Spray Dry) แล้วนำมาตอกเป็นเม็ด ให้ได้เม็ดละ 625 mg ทำไมควรกินยาขมน้ำเต้าทอง ก็ถ้าคุณเป็นตัวร้อน ไม่สบาย ก็ไปซื้อมากินเท่านั้นค่ะ ไม่ใช่อาหารเสริม ทำไมถึงต้องกินยาแผนโบราณ สำหรับคนที่แพ้ยาง่ายไงค่ะเครดิตภาพ : ถ่ายเองผู้เขียนซื้อมาแบบกล่อง กล่องนึงมีอยู่ประมาณ 20 ห่อ ห่อละ 10 บาท ถ้าไปซื้อในร้านขายยาบางร้านอาจจะขายให้คุณในราคา 250 บาท แต่บางร้านก็จะขายให้คุณ ในราคาส่งเป็นราคา 200 บาท แนะนำให้ซื้อแบบเป็นกล่องเพราะจะถูกกว่า สามารถซื้อยาขมน้ำเต้าทองได้ที่ : namtaothong.comเครดิตภาพ : ถ่ายเองนี่คือด้านหลังกล่อง ของ "ยาขมน้ำเต้าทอง " แบบเม็ด แน่นอน!! ว่ารสชาติของมันขมจริง ๆ ขมมาก ขมจนเวียนหัวเลยทีเดียว แต่ขมเป็นยา หวานเป็นลม ยาขมแบบไทย ขมแต่ดี ขมแล้วหายเจ็บหายป่วย หายเจ็บคอ แก้ร้อนใน หายไข้ ลดความกระหายน้ำและยังช่วยเจริญอาหารอีกด้วย เครดิตภาพ : ถ่ายเอง* ถ้าแกะซองแล้วก็ต้องกินให้ครบ 4 เม็ด ยังไม่ได้นำตัวยาเม็ดมารีวิวให้เห็นค่ะ จะบอกลักษณะของตัวยาให้นะคะ ยาขมน้ำเต้าทองเป็นตัวยากลม ๆ 4 เม็ด กลมแบน ไม่ใช่ยาลูกกลอน แสดงไม่ต้องกลัวว่ากินยากกินง่ายค่ะ แต่เพียงแค่ว่ามีรสชาติขมนิดสักหน่อยเท่านั้นเอง เนื่องจากมันเป็นยาแก้ไข หลังจากทานยานี้แล้วภายใน 1 ชั่วโมง อาการมีไข้ก็จะหายทันที และหลังจาก 4 ชั่วโมงก็ทานอีก 1 ครั้งวิธีรับประทาน "ยาขมน้ำเต้าทอง" ผู้ใหญ่รับประทานสมุนไพรยาขมน้ำเต้าทอง ครั้งละ 1 แผง (มี 4 เม็ด) เด็กควรรับประทานยา 2 เม็ดต่อ 4 ชั่วโมง ถ้ามีอาการมากให้รับประทาน 2 แผง (สำหรับผู้ใหญ่)ดื่มน้ำตามให้มาก ๆ และควรพักผ่อนให้เพียงพอควรทานครั้งละ 4 ชั่วโมงค่ะสุดท้ายแล้วนี่เป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน เพื่อสุขภาพที่ดี ยานี้เป็นยาขมน้ำเต้าทองเป็นยาสมุนไพรแผนโบราณที่มีมามากกว่า 50 ปี ยาที่กินนี้ยังช่วยระบายความร้อนในร่างกายอีกด้วย สำหรับคุณผู้หญิงที่เวลาเป็นประจำเดือนแล้ว จะมีอาการคั่นเนื้อคั่นตัว หงุดหงิดง่าย รับประทานยานี้ก็สามารถบรรเทาอาการได้ แต่สุดท้ายแล้ว ถ้ามีอาการไข้ขึ้นสูงอย่างหนัก คุณก็ควรไปหาหมอทันที *ภาพปกและภาพทั้งหมดนี้เป็นของผู้เขียนเองรวมถึงบทความนี้ด้วย ผู้เขียน : โต๊ะเขียนหนังสือ