มีใครชอบกินบ๊วยกันบ้างไหมคะ? ส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบกินบ๊วยมาก ไม่ว่าจะเป็นบ๊วยอบแห้งที่ด้านนอกมีผงเค็มๆ หรือจะเป็นบ๊วยหวาน บ๊วยหวานอบนุ่ม ที่อร่อยเด็ดทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่รู้สึกวิงเวียนศีรษะ ไม่สบายตัวเมื่อกินบ๊วยจะช่วยได้มาก กินบ๊วยไปๆ มาๆ ก็พลันสงสัยว่ามีประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ภายในบ๊วยมากกว่าความเปรี้ยวหรือเปล่า? การกินบ๊วยดีต่อสุขภาพของเราอย่างไรบ้าง ว่าแล้วก็ขอเชิญชวนเพื่อนๆ ทุกท่านมาส่องประโยชน์ที่น่าสนใจของบ๊วยไปพร้อมๆ กันเลย บ๊วย ผลไม้รสเปรี้ยวนำ..หวานตาม ที่ใครๆ ก็ต้องชอบ บ๊วยเป็นผลไม้เมืองหนาว ผลสีเขียวขนาดเล็กมีต้นกำเนิดจากประเทศจีน ต่อมากลายเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมไปทั่วภูมิภาคเอเชียไม่ว่าจะเป็นประเทศพม่า เวียดนาม ลาว รวมถึงประเทศไทยที่สามารถปลูกต้นบ๊วยได้ที่บริเวณภาคเหนือ และเริ่มเก็บเกี่ยวผลบ๊วยได้ในช่วงเดือนเมษายน ผลบ๊วยเป็นลูกกลมๆ สีเขียว มองไปมองมาดูคล้ายพุทรานมสด แต่สิ่งที่ต้องระวังเลยก็คือผลบ๊วยนี้ไม่สามารถกินแบบสดได้ แต่จะต้องนำมาผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อให้สารพิษที่ชื่อว่าอะมิกดาลิน (Amygdalin) หายไปเสียก่อน ซึ่งวิธีที่ว่าคือการเอาผลบ๊วยไปดอง บ๊วยเค็ม เหล้าบ๊วย บ๊วยอบแห้ง ฯลฯ แต่ก็อาจมีบางคนที่กินผลบ๊วยสดซึ่งก็ไม่ควรกินมากเกินไปเพราะอาจทำให้สารพิษตัวนี้สะสมในร่างกายได้ 6 ประโยชน์เด็ดของบ๊วย ที่เราอาจไม่เคยรู้ พอพูดถึงบ๊วยเราก็จะคิดถึงรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ เหมาะกับการเอาไว้กินเล่นระหว่างวันหรือจะเอามากินเพื่อบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ เมารถ เมาเรือ แต่บ๊วยยังมีคุณประโยชน์ที่ซ่อนอยู่เยอะมากเชียวล่ะ 1.บ๊วยช่วยกระตุ้นความอยากอาหารข้อนี้ง่ายและตรงตัวที่สุด เพราะบ๊วยที่มีรสชาติเปรี้ยวหวานจะกระตุ้นการทำงานของต่อมรับรส ทำให้น้ำย่อยถูกหลั่งออกมามากขึ้นการกินบ๊วยจึงช่วยเพิ่มความอยากอาหาร นอกจากนี้รสเปรี้ยวของบ๊วยยังช่วยลดอาการขมปากขมคอ ทำให้เรากินอาหารได้อร่อยขึ้น 2.บ๊วยเป็นผลไม้ธาตุเย็น ช่วยปรับสมดุลร่างกายเห็นบ๊วยเป็นผลไม้รสเปรี้ยวแบบนี้แต่ความจริงแล้วนั้นบ๊วยเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น สังเกตได้เลยว่าตอนที่เรากินบ๊วยจะช่วยทำให้รู้สึกว่าชุ่มคอ การกินบ๊วยดอง บ๊วยอบแห้งมีส่วนช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำ ร้อนใน 3.บ๊วยช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน อาเจียน ด้วยรสเปรี้ยวแหลมของบ๊วยจึงช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน รวมไปจนถึงอาการอาเจียนได้เป็นอย่างดี ทั้งในกลุ่มผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และมีอาการแพ้ท้อง คนที่ปวดหัวเพราะมีอาการแฮงค์ รวมไปจนถึงคนที่มีอาการวิงเวียนทั่วไปก็สามารถกินบ๊วยดอง บ๊วยหวาน บ๊วยเค็ม เพื่อช่วยลดความรู้สึกอยากอาเจียนให้ดีขึ้นได้ 4.บ๊วยช่วยปรับสมดุล เพิ่มความแข็งแรงให้ระบบย่อยอาหารบ๊วยมีรสเปรี้ยวและเป็นแหล่งของกรดซิตริก (Citric Acid) ซึ่งกรดชนิดนี้มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงช่วยปรับสมดุลภายในกระเพาะอาหารและลำไส้ให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสม สามารถย่อยและดูดซึมอาหารได้ตามปกติ 5.บ๊วยช่วยบรรเทาความอ่อนเพลีย เคยไหมคะที่รู้สึกว่าหมดเรี่ยวหมดแรงไปหมดจนไม่อยากทำอะไร รู้สึกว่าตัวเองนั้นเหนื่อยล้าเกินทน ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจากสภาวะมีกรดในเลือดสูงทำให้ร่างกายไม่สามารถปรับสมดุลกรด-ด่างได้ทันท่วงที การกินบ๊วยที่มีฤทธิ์เป็นด่าง (pH 7.3) จะช่วยปรับสมดุลความเป็นด่างในเลือด จึงช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าได้อย่างตรงจุด 6.บ๊วยช่วยปกป้องสมอง ป้องกันภาวะโรคอัลไซเมอร์บ๊วยมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าขมิ้นมากถึง 7 เท่า นั่นเป็นเพราะบ๊วยเจริญเติบโตขึ้นภายในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างหนาว มีความชื้นในอากาศน้อย ทำให้ต้องหลั่งสารต้านอนุมูลอิสระมาที่บริเวณผลเพื่อทำให้ผลอยู่รอด ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากการเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร ระบบประสาทและสมองจึงสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดโอกาสการเกิดโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ และนี่ก็เป็นคุณประโยชน์ที่แอบซ่อนอยู่ภายในบ๊วยรสเปรี้ยวที่เรากินกันอยู่บ่อยๆ เห็นไหมละคะว่าบ๊วยเม็ดเล็กๆ แต่มีสรรพคุณอัดแน่นอยู่เยอะมาก แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรกินบ๊วยแปรรูปเยอะเกินไปเช่นเดียวกันค่ะ เพราะอาจทำให้โซเดียมสูงมากเกินไป นอกไปจากนี้ยังรวมไปถึงพวกบ๊วยหวานที่มีการเติมน้ำตาลเข้าไปด้วยก็ต้องระมัดระวังในการกินมากเป็นพิเศษเพราะอาจทำให้น้ำหนักตัวขึ้น หรือมีโรคประจำตัวอื่นๆ ตามมาได้ ส่วนตัวเราจะกินบ๊วยครั้งละ 5-10 เม็ดไม่เกินจากนี้ และจะไม่กินทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพมาแทนนั่นเองเครดิตภาพภาพหน้าปก โดย ผู้เขียนภาพในเนื้อหาภาพที่ 1 โดย alexphotosภาพที่ 2 โดย stockking จาก freepikภาพที่ 3-4 โดย ผู้เขียนหิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !