เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ในฤดูกาลเดียวกัน บางวันร้อน บางวันหนาว บางวันฝน ทำให้หลายคนเจ็บป่วยไปตาม ๆ กัน ซึ่งอาการป่วยที่คนไทยจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่สบายกันบ่อย ๆ คือ “ปวดหัว” เป็นอาการเจ็บป่วยที่เกิดได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งเมื่อมีอาการปวดหัว คนส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่ 7-11 ซึ่งเป็นเสมือนร้านขายยาใกล้บ้านที่ขายยาสามัญประจำบ้าน และมียาแก้ปวดฉุกเฉินให้ซื้อหากันได้แบบไม่ผิดหวัง บทความนี้จะรีวิวยาแก้ปวดใน 7-11 ให้ดูกันว่า มียี่ห้ออะไรบ้าง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคนะคะ• ไทลินอล 500 มิลลิกรัม (TYLENOL) แผงสีแดง เป็นยาแก้ปวดทรงรีเม็ดสีขาว บรรจุแผงละ 4 เม็ด ราคา 7.50 บาท• ซาร่า 500 มิลลิกรัม (SARA) แผงสีขาวลวดลายสีชมพู เป็นยาแก้ปวดทรงกลมเม็ดสีขาว บรรจุแผงละ 10 เม็ด ราคา 12 บาท นอกจากนี้ ใน 7-11 ยังมีซาร่าชนิดน้ำสำหรับเด็ก (ขนาด 120 มิลลิกรัม) ด้วยนะคะ• บาคามอล 500 มิลลิกรัม (BAKAMOL) แผงสีเงิน เป็นยาแก้ปวดทรงกลมเม็ดสีเหลือง บรรจุแผงละ 10 เม็ด ราคา 12 บาท ยี่ห้อนี้จะใช้กันในเครือข่ายโรงพยาบาลกรุงเทพ (Bangkok Dusit Medical Services : BDMS)• พานาดอล 500 มิลลิกรัม (PANADOL) แผงสีเงิน เป็นยาแก้ปวดทรงกลมเม็ดสีขาย บรรจุแผงละ 10 เม็ด ราคา 15 บาท• พาราแคพ 500 มิลลิกรัม (PARACAP) แผงสีเขียว เป็นยาแก้ปวดทรงรีเม็ดสีขาย บรรจุแผงละ 10 เม็ด ราคา 13 บาทจากการสำรวจยาแก้ปวดที่ขายใน 7-11 พบว่า ส่วนใหญ่บรรจุในแผง เราเข้าใจว่าเป็นยาบรรเทาปวดฉุกเฉิน จึงจำกัดปริมาณการทานให้เหมาะสมกับอาการ โดยยา 1 เม็ด ประกอบด้วย พาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะ ปวดฟัน และลดไข้ ฯลฯ กล่าวได้ว่า มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดได้ครอบจักรวาล แต่อย่างไรก็ดี การทานยาแก้ปวดไม่ว่ายี่ห้อใดก็ตาม ควรอ่านฉลากทุกครั้งก่อนเสมอนะคะ รวมทั้งควรใช้ยาในปริมาณที่ระบุไว้บนฉลาก (การทานยาเกินขนาดอันตรายมากนะคะ) และไม่ควรทานยากลุ่มพาราเซตามอลต่อเนื่องเกิน 5 วัน เพราะอาจจะมีผลต่อการทำงานของตับและไตทั้งนี้ ปริมาณของการใช้ยาแก้ปวดยาพาราเซตามอลที่เหมาะสม คือ 10 - 15 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ควรทานให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัว เช่น น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ควรทานเท่ากับ 500 - 750 มิลลิกรัม หรือ 1 เม็ด โดยทานทุก 4 - 6 ชั่วโมง และไม่ควรรับประทานยาเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน (ข้อมูลอ้างอิงจาก : bakamol.com) หรือไม่ควรทานเกินวันละ 4 เม็ดนะคะหากทานยาหลายวันแล้วอาการปวดต่าง ๆ ยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบคุณหมอ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการปวดที่แท้จริงนะคะ จากประสบการณ์ส่วนตัว เราเคยปวดหัวต่อเนื่องหลายวัน ทานยาแก้ปวดก็ยังไม่ทุเลา สุดท้ายไปพบคุณหมอจึงทราบว่า เป็นกล้ามเนื้ออักเสบ ทำให้บ่าตึง สะบักจม จึงส่งผลให้มีอาการปวดหัวนั่นเองค่ะ โดยต้องรักษาด้วยการทานยาชนิดอื่น ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด ออกกำลังกายท่ายืดเหยียดอย่างสม่ำเสมอ อาการปวดหัวจึงหายเป็นปลิดทิ้งเจ็บป่วยฉุกเฉิน เดินเข้าเซเว่น ชั้นยาหาง่าย เลือกดูตามอาการ ทานยาตามคำแนะนำบนฉลาก พักผ่อนให้มาก จะหายป่วยในเร็ววัน … สวัสดีค่ะบทความที่เกี่ยวข้อง ศูนย์รวมยาสามัญประจำบ้าน ณ ร้าน 7-11Q&A คำถามเกี่ยวกับยาพาราเซตามอลทำไมต้องมียาพาราเซตามอลติดบ้านยาพาราเซตามอล ยาแก้ไข้ แก้ปวด เลือกยี่ห้อไหนดีเครดิตภาพประกอบภาพปกโดย rawpixel.com จาก Freepikภาพที่ 1 ภาพโดย jcomp จาก Freepikภาพที่ 2 - 4 ภาพโดยผู้เขียน เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !