10 ประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อคุณเลิกกาแฟ สำหรับคนรักกาแฟเขาก็จะบอกคุณว่า กาแฟนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วยการเผาผลาญให้เร็วขึ้น ไปจนถึงลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ แต่วันนี้เราจะมาบอกประโยชน์ของการเลิกคาเฟอีนว่ามีอะไรบ้างและใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงคาเฟอีนทุกชนิดโดยสิ้นเชิง? นี่คือประโยชน์ 10 อย่างจากการลดนิสัยการดื่มเอสเพรสโซ่ของคุณ นอกจากเรื่องช่วยประหยัดเงินให้คุณได้อย่างมากแล้ว 1. ความวิตกกังวลน้อยลง คุณมักจะรู้สึกกังวลบ่อยๆ หรือเปล่า การรับคาเฟอีนมากเกินไปอาจเป็นอีกสาเหตุอีกก็เป็นได้ คนที่มีความเครียดและความวิตกกังวลอยู่แล้ว อาจพบว่าคาเฟอีนทำให้อาการของคุณยิ่งแย่ลง นอกจากนี้การได้รับคาเฟอีนที่สูงขึ้นยังช่วยเพิ่มโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่นอีกด้วย 2. นอนหลับได้ดีขึ้น นิสัยคาเฟอีนของคุณอาจส่งผลต่อการนอนหลับของคุณ จากการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟทุกวันสามารถเปลี่ยนรอบการนอนหลับของคุณ ทำให้นอนไม่หลับและง่วงตอนกลางวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกินคาเฟอีนน้อยกว่าหกชั่วโมงก่อนที่จะเข้านอน นอกจากที่ว่าจะหลับสนิท หลับลึกและไม่ถูกรบกวนง่าย ๆ แล้ว คนที่เลิกกาแฟจะพบว่าตัวเองหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ขอบคุณภาพฟรี สวยๆ จาก Pixabay ถ่ายโดย Claudio_Scott 3. ระบบดูดซึมสารอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากคุณไม่ดื่มคาเฟอีนร่างกายของคุณจะดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้ดีกว่าผู้ที่ดื่ม แทนนินในคาเฟอีนจะยับยั้งการดูดซึม แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินบี การไม่บริโภคคาเฟอีน ทำให้คุณได้รับสารอาหารทั้งหมดจากอาหารที่รับประทานเข้าไป 4. ฟันสุขภาพดี(และขาว)ขึ้น กาแฟและชาสามารถทำให้เกิดคราบฟันได้ ซึ่งมาจากแทนนินที่พบมากในเครื่องดื่มเหล่านี้ ทำให้เคลือบฟันเปลี่ยนสีไป ความเป็นกรดของเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟและน้ำอัดลม ยังทำให้ฟันผุง่ายอีกด้วย ขอบคุณภาพฟรีจาก Pixabay โดย bearinthenorth 5. ปรับสมดุลฮอร์โมนสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงจะได้รับประโยชน์จากการเลิกคาเฟอีนอย่างมาก เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเช่นกาแฟ ชาและน้ำอัดลมสามารถเปลี่ยนระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ จากการศึกษาในปี 2012 พบว่าการดื่มคาเฟอีน 200 มิลลิกรัม (ประมาณ 2 ถ้วย) หรือมากกว่าต่อวัน จะเพิ่มระดับฮอร์โมนหญิง ในผู้หญิงเอเชียและผู้หญิงผิวดำ ในขณะที่ผู้หญิงผิวขาวมีระดับฮอร์โมนหญิงลดลงเพียงเล็กน้อย การเปลี่ยนของระดับเอสโตรเจน ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลายอาการเช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ แม้ว่าคาเฟอีนจะไม่เชื่อมโยงโดยตรงกับโรคเหล่านี้ แต่ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงนั้นสัมพันธ์กับสาเหตุของโรคเหล่านี้โดยตรง 6. ความดันโลหิตลดลง การไม่ดื่มคาเฟอีนจะช่วยลดความดันโลหิตได้ คาเฟอีนทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เนื่องจากผลกระตุ้นที่มีต่อระบบประสาท การดื่มคาเฟอีน 3 ถึง 5 ถ้วยต่อวัน ยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ขอบคุณภาพฟรีจาก Pixabay โดย GDJ 7. เคมีในสมองสมดุลขึ้น ไม่แปลกใจเลยที่คาเฟอีนมีผลต่ออารมณ์ คุณคงเคยได้ยินใครซักคนพูดว่า “อย่าพูดกับฉันจนกว่าฉันจะได้ดื่มกาแฟซักแก้วซะก่อน” คาเฟอีนสามารถเปลี่ยนแปลงเคมีในสมองในลักษณะที่คล้ายกับยาเสพติด เช่น โคเคนและนักวิจัยยอมรับว่าคาเฟอีนมีผลต่อสมองเช่นเดียวกับยาเสพติด สำหรับท่านที่ปรกติไม่ค่อยดื่มกาแฟ ไม่ต้องกลัวมากเกินไปครับ และสำหรับเพื่อน ๆ ที่ตัดสินใจจะเลิกคาเฟอีนหรือหยุดดื่มมันอาจจะมีอาการถอนหรืออารมณ์แปรปรวนในระยะสั้น ขอบคุณภาพฟรีจาก Pixabay โดย Tumisu 8. ปวดหัวน้อยลง ภาวะถอนคาเฟอีน (Caffeine withdrawal) มีจริง ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปและไม่พึงประสงค์อย่างหนึ่งของการถอนคาเฟอีนคืออาการปวดหัว และอาจใช้เวลาสองสามวันกว่าจะแสดงอาการ เคยสังเกตไหมว่าคุณจะปวดหัว ถ้าคุณยุ่งจนได้ดื่มกาแฟเช้าช้าเกินไป นี่เป็นอาการเดียวกับการถอนกาเฟอีน อาการอื่น ๆ ได้แก่ ภาวะสมองล้า (Brain Fog Syndrome), เมื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย, สมาธิสั้น และหงุดหงิดง่าย แม้ว่าคุณจะโชคดีไม่ได้รับผลจากการถอนคาเฟอีนทันที แต่จากการศึกษาในปี 2547 พบว่าการบริโภคคาเฟอีนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออาการปวดศีรษะเรื้อรังทุกวันในอนาคตได้ 9. ระบบย่อยอาหารดีขึ้น การดื่มคาเฟอีนมาพร้อมกับปัญหาการย่อยอาหารที่ไม่พึงประสงค์ กาแฟมีผลคล้ายยาระบาย การบริโภคกาแฟจำนวนมาก อาจทำให้ท้องเสียหรืออุจจาระเหลว (และแม้กระทั่งกลั้นปัสสาวะไม่อยู่) นอกจากนี้เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ยังทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน (GERD) ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย 10. ไม่แก่และอายุยืนยาวขึ้น หากคุณกลัว "แก่" นั่นเป็นอีกเหตุผลที่คุณควรเลิกกับคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนรบกวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย เนื่องจากคอลลาเจนมีผลกระทบโดยตรงต่อผิวกายและเล็บ การไม่จิบกาแฟยามเช้าทำให้ริ้วรอยของคุณน้อยลง ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงคาเฟอีน เป็นการดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงคาเฟอีนโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากว่า 1. คุณกำลังตั้งครรภ์หรือกำลังพยายามตั้งครรภ์ เรารู้ว่าผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงคาเฟอีน แต่มันก็สำคัญมากเช่นกัน ถ้าคุณพยายามตั้งครรภ์ คาเฟอีนเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของการแท้ง และทำให้เด็กไม่แข็งแรง ขอบคุณภาพฟรีจาก Pixabay โดย Canidia Jupiter 2. คุณมักจะเครียดและวิตกกังวล ผู้ที่มีแนวโน้มที่จะวิตกกังวลหรือซึมเศร้า อาจพบว่าคาเฟอีนทำให้สภาพร่างกายแย่ลง คาเฟอีนมีผลทางจิตเวชบางอย่าง มันทำให้หงุดหงิด โกรธง่าย ฉุนเฉียว กระวนกระวาย 3. คุณมีปัญหากับระบบลำไส้และทางเดินอาหาร กรดไหลย้อน โรคเกาต์หรือโรคเบาหวาน ถ้าคุณมีปัญหากับระบบย่อยอาหารอยู่แล้ว คาเฟอีนยิ่งจะทำให้อาการของคุณแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน, เกาต์(นิ้วเท้าบวม) โรคไอบีเอสหรือลำไส้แปรปรวน ควรเลิกกับคาเฟอีนโดยเด็ดขาด 4. คุณกำลังกินยาบางอย่างอยู่ ก่อนดื่มกาแฟแก้วถัดไป โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคาเฟอีนมีผลกับยาของคุณหรือไม่ ยาบางตัวที่ควรระวัง เช่น ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย ยาต้านอาการซึมเศร้าและยารักษาโรคหอบหืด รู้แบบนี้เเล้ว เพื่อน ๆ ก็ลองคิดทบทวนดูว่าควรจะลด ละ เลิกหรือดื่มต่อดี แต่สำหรับคนที่ติดกาแฟเป็นอาจิณไปแล้วแล้วอยากจะเลิก ก็เริ่มจากค่อย ๆ ลดปริมาณลง จากวันละ 2 แก้วก็เป็นวันละแก้วพอ หรือวันละแก้วอยู่แล้ว อาจจะเปลี่ยนเป็นวันเว้นวันแทน ขอบคุณภาพปกสวย ๆ จาก Pixabay โดยคุณ kaboompics