สำหรับช่วงนี้ถือเป็นช่วงแห่งการทำงาน Work From Home ของทุกคนทั่วทั้งประเทศหรือทั่วโลกเลยด้วยซ้ำ และเมื่อเราต้องทำงานที่บ้านก็อาจทำให้เราไม่มีเวลาในการทำงานที่แน่นอนและตายตัวเหมือนกับทำงานที่ออฟฟิตปกติ และเมื่อไม่มีเวลาในการทำงานที่ตายตัวนักก็อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนนั่งทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์นานกว่าปกติเพราะลืมเวลาในการทำงานไปแล้ว หรือบางคนอาจจะเพลิดเพลินกับการดูจอโทรศัพท์นานเกินไป ดังนั้นก็ทำให้ใบหน้าของเราต้องอยู่กับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เป็นเวลานานเกินไป และอย่างที่หลาย ๆ คนทราบดีว่าแสงจากหน้าจอทำให้สายเราเสียได้ง่าย ๆ ด้วยเช่นกัน โทษของแสงสีฟ้าที่ทำให้สายตาของเราเสียแล้ว โทษอีกอย่างหนึ่งเลยก็คือ ' ทำให้หน้าคนเราหมองคล้ำด้วย ' เพราะนอกจากแสง UVA ที่แผ่ออกมาจากหน้าจอแล้ว ยังมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมาซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ เกิดฝ้ากระบนใบหน้า ทำให้หน้าของเราไม่เรียบเนียน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดปัญหาสิวอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เราจึงมีคำแนะนำดี ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่กับหน้าจอนานเกินไปทำเสียสุขภาพและใบหน้าของเราด้วย ภาพโดย Peter Olexa จาก Pixabay 1.ลดแสงหน้าจอให้ความสว่างที่พอดี ขณะอยู่กับหน้าจอ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการปกป้องใบหน้าจากแสงหน้าจอได้ง่ายที่สุด โดยปรับแสงให้พอดีกับสายตาของเราไม่ให้สว่างมากจนเกินไป จะสามารถช่วยให้ผิวหน้าของไม่ได้รับรังสีจากแสงหน้าจอที่ทำให้หมองคล้ำได้ ถ้าทำร่วมกับอีก 4 วิธีด้านล่างนี้ อาจจะได้ผลลัพธ์ที่เยี่ยมเลยก็ได้ค่ะ 2. ติดฟิล์มกรองแสงหน้าจอ เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดผลกระทบจากแสงจากจอที่ดีอีกวิธีหนึ่งที่อยากแนะนำให้ทุกคนทำดู เพื่อผิวหน้าของเราให้ยังอ่อนเยาว์และขาวใสอยู่เหมือนเดิมแม้ต้องอยู่กับหน้าจอนานเกินไปในช่วง Work From Home ตอนนี้หรือช่วงเวลาอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะฟิล์มกรองแสงมีการเคลือบด้วยสารป้องกันรังสีในการใช้กรองแสงจากจอคอมหรือโทรศัพท์ได้โดยเฉพาะ ภาพโดย Lalmch จาก Pixabay 3. เลือกพื้นที่ในการนั่งทำงานให้เหมาะสม ในทีนี้หมายถึงการเลือกตั้งโต๊ะทำงานหรือโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ไว้ให้อยู่ในที่ที่มีแสงส่องได้พอดี ไม่ให้พื้นที่ตรงที่เรานั่งทำงานนั้นมืดเกินไปหรือมีแสงสว่างจนเกินไป เพราะแสงที่ตกกระทบจากแสงหน้าจออาจะทำให้หน้าเราเสี่ยงโดนแสงเยอะจนเกินไปโดยที่เราไม่ทันรู้ตัวจนหน้าเราเกิดปัญหาใบหน้าหมองคล้ำ ใต้ตาคล้ำ ฯลฯ ภาพถ่ายโดย Elvis จาก Pexels 4. ใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารกันแดดชนิดสะท้อนหรือหักเหแสง ซึ่งครีมกันแดดชนิดนี้จะแตกต่างกับครีมกันแดดทั่ว ๆ ไปที่มักจะดูดซับแสงแดดไว้แล้วจึงเช็ดทำความสะอาดออกทีหลัง ครีมกันแดดชนิดนี้จะทำหน้าที่เหมือนกระจกเงาที่คอยสะท้อนและหักเหแสงออกจากผิวเรา อธิบายง่าย ๆ คือ แสงไม่สามารถทะลุผ่านผิวเราได้ถ้าทาครีมชนิดนี้ อย่างที่เคยมีคนกล่าวว่าแม้จะอยู่ในบ้านหรือที่ร่มไม่ว่ายังไงเราก็ต้องทาครีมกันแดดทุกครั้ง 5. ปรับเวลาการทำงานให้ลงตัวมากขึ้น จัดสรรเวลาการทำงานให้เหมาะสม เป็นวิธีที่สามารถทำให้เราเห็นผลลัพธ์ชัดเจนได้มากที่สุด จากการปกป้องผิวหน้าของเราไม่ให้ได้รับแสงจากหน้าจอคอมหรือโทรศัพท์มากจนเกินความจำเป็น โดยการแบ่งเวลาการทำงานและการพักผ่อนให้เป็นเวลามากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น ทำงานตอน 10 โมง พอเที่ยงก็พักกินข้าว หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานอีกสองชั่วโมงแล้วพักอีกรอบ เนื่องจากนักวิจัยส่วนใหญ่บอกว่าการอยู่หน้าจอคอมหรือโทรศัพท์นานมากกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไปเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาของผิวหน้ามาตามมาได้ ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนแบ่งเวลาในการทำงานและเวลาพักผ่อนบ้างนะคะ รวมถึงลองนำอีก 4 วิธีข้างต้นไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันในช่วงนี้กันดูนะคะ เพื่อไม่ให้ใบหน้าของเราดูแก่ก่อนวัยหรือใบหน้าหมองคล้ำเหมือนหมีแพนด้า และยังช่วยปกป้องสายตาของเราจากการจ้องจอนานเกินไปอีกด้วยนะคะ ภาพปกโดย : canva.com