เคยสงสัยไหมว่าถ้าแต่ละMBTIเป็นพ่อแม่ พวกเขาจะกลายเป็นพ่อแม่แบบไหน และจะสอนลูกว่าอะไรบ้างINTP“จงใช้เหตุผลไม่ใช่อารมณ์ และถ้าลูกรู้ว่าลูกควรทำอะไร ก็จงเชื่อมั่นในตัวเองซะ”พ่อแม่ INTP แม้ว่าจะแสดงความรักไม่เก่ง แต่ชาวINTPเป็นพวกรักในการเรียนรู้เสมอ พวกเขาจะเป็นพ่อแม่ที่ใจกว้างและสอนให้ลูกๆ คิดได้อย่างเป็นอิสระ พวกเขาไม่ต้องการควบคุมชีวิตลูก แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการให้ลูกเติบโตโดยคิดวิพากษ์เป็น พร้อมทั้งเลือกที่จะโน้มน้าวลูกโดยใช้เหตุผลแทนการสร้างกฎเกณฑ์คร่ำครึINTJ“ถึงจะไม่แสดงออกถึงความรักมากนัก แต่ก็หวังว่าทุกสิ่งที่สอนจะดีกับลูก”พ่อแม่INTJ เป็นพวกที่ไม่ค่อยแสดงออกนัก หลายๆ ครั้งที่พวกเขาก็มองข้ามความรู้สึกของลูกๆ ไป อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่รักหรือไม่สนใจลูก แต่เพราะพวกเขาฉลาดพอที่จะรู้ว่าตัวเองจะไม่ได้อยู่กับลูกไปตลอด การสอนให้พวกเขาอยู่ได้ด้วยตัวเองและแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างฉลาดจะเป็นที่ทำให้เด็กๆ เติบโตได้ในโลกใบนี้ENTP “พูดออกไปซะ ถ้าลูกรู้ว่าสิ่งที่ลูกคิดมันถูกต้องแล้ว”พ่อแม่ENTPจะเป็นผู้สร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้ลูกโต้เถียง พอๆ กับการพยายามทำให้ลูกคิดได้อย่างเป็นอิสระ และคัดค้านเป็น อย่างไรก็ตาม เขาต้องการให้เด็กๆ โต้เถียงด้วยเหตุผลและมีความเป็นกลาง นั่นทำให้การโต้เถียงของเด็กๆ มีประสิทธิภาพในการเอาชนะมากกว่าทำให้คนอื่นๆ รู้สึกดี และทำให้เป็นไปได้ที่ในวันหนึ่งบางทีลูกๆ อาจโต้แย้งจนทำให้พ่อหัวเสียเลยก็ได้ENTJ “ความพยายามและระเบียบวินัยจะนำลูกให้ประสบความสำเร็จ”พ่อแม่ชาวENTJ เป็นพ่อแม่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดกับเด็กๆ แต่นั่นเพราะพวกเขาอยากชี้ทางที่ดีที่สุดให้กับลูก เขาจะกดดันตัวเองมากพอๆ กับกดดันเด็กๆ อย่างไรก็ตามพวกเขาจะเป็นคุณพ่อที่ไม่มีวันยอมแพ้ เขาจะเป็นพ่อที่ยืนอยู่เคียงข้างลูกเสมอไม่ว่าจะเจออุปสรรคใด พวกเขาจะพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะเป็นพ่อแม่ที่ห่วงใยและยอมสละทุกอย่างได้เพื่อลูกINFP “เติบโตเป็นตัวของเอง อย่างไรก็ตามลูกต้องเห็นใจคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน”พ่อแม่ชาว INFP จะเป็นพ่อแม่ที่ให้อิสระลูกไม่ว่าจะเป็นการค้นหาตัวเอง อิสระทางความคิดหรือแม้แต่คำพูด อย่างไรก็ตาม พวกเขายังรู้สึกว่าตัวเองมีความรับผิดชอบที่จะต้องทำให้เด็กๆ เป็นคนดี บางทีพวกเขาอาจรู้สึกว่าตัวเองผิดพลาดเมื่อรู้ว่าลูกทำผิดบางอย่างแม้จะไม่ได้ส่งผลแย่ๆ ก็ตาม แต่ความใจกว้าง อบอุ่นและใส่ใจจะทำให้เด็กๆ เติบโตขึ้นโดยมีทั้งความสุขพร้อมความรับผิดชอบINFJ “ลูกมีคุณค่าในตัวเองนะ แม้ว่ามันจะไม่เหมือนใครก็ตาม”พ่อแม่ INFJ เป็นพ่อแม่ที่มีความละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง การอุทิศตัวเองเพื่อคนอื่นเป็นจุดเด่นอย่างยิ่งสำหรับคนไทป์นี้ และเมื่อพวกเขามีลูกสิ่งที่เขาจะทำก็คืออุทิศได้ทุกอย่างเพื่อลูกผู้เป็นที่รัก ชาวINFJจึงมักจะพยายามที่สุดที่จะเลี้ยงลูกๆ ให้เป็นเด็กดีร่วมกับการมีอิสระทางความคิด มันไม่เป็นไรถ้าเด็กๆ จะเชื่อในสิ่งที่ต่างจากพ่อแม่ไปบ้าง และนั่นอาจทำให้พ่อแม่สะเทือนอารมณ์ไปบ้าง อย่างไรก็ตามเด็กๆ จะซาบซึ้งกับการให้อิสระทางความคิดและการเลี้ยงดูอย่างเปิดใจของพ่อแม่ENFJ“ก้าวไปข้างหน้าเลย ไม่ต้องกลัว เรายืนอยู่เคียงข้างและผลักดันลูกเสมอ”พ่อแม่ชาวENFJ มองว่ามันเป็นภารกิจที่ต้องทำให้ลูกเติบโตเป็นผู้ที่กล้าหาญ ใจดี และมีความรับผิดชอบโชคดีที่เขายังคงเห็นคุณค่าในความรู้สึกของลูก พวกเขาจะมองเห็นความสามารถในตัวเด็กๆ และผลักดันลูกให้ไปจนสุดทาง ดังนั้นไม่แปลกใจเลย ถ้าเขาจะทุ่มสุดตัวและให้ทุกอย่างเพื่อการเติบโตของลูก พ่อแม่จะเป็นตัวอย่างของผู้ที่มีเป็นผู้นำที่แสนอบอุ่นให้แก่พวกเขาตลอดไปENFP “ลูกบอกทุกอย่างกับเราได้ เราจะไม่ตัดสินแต่จะอยู่ข้างๆ แทน”พ่อแม่ ENFPเป็นพ่อแม่ที่ต้องการสนิทสนมกับลูกให้มากที่สุด พวกเขาอยากให้ตัวเองเป็นเหมือนพื้นที่ปลอดภัย อยู่ด้วยแล้วสบายใจ พวกเขาจะให้ความรักและสนับสนุนลูกๆ อย่างท่วมท้น และบางครั้งก็แอบเศร้าที่ลูกๆ จะโตขึ้นและไม่ต้องการพวกเขาอีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตามพวกเขาให้เกียรติกับการตัดสินใจของลูกเสมอ และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กๆ เติบโตได้อย่างดีเยี่ยมและเห็นคุณค่าของตัวเองเราคิดว่าการเป็นพ่อแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้ว่าจะกับคนไทป์ไหนก็ตาม ทุกคนต่างเลี้ยงลูกโดยอ้างอิงจากการเคยถูกเลี้ยงมาแบบไหน ความเชื่อ รวมไปถึงประสบการณ์ที่ล้วนสร้างเราให้เป็นเราในวันนี้ (ส่วนตัวคิดว่าการที่เราเป็นคนไทป์ไหนมันไม่สามารถถูกแยกออกประสบการณ์ต่างๆที่หล่อหลอมเรามาได้)สำหรับเราที่เป็นชาวINTP เราคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องสอนลูกว่าเหตุผลเป็นสิ่งสำคัญ และมันคุ้มค่าที่จะต้องตั้งคำถามกับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว เช่น วัฒนธรรม กฎเกณฑ์ต่างๆ หรือแม้แต่ความเชื่อหลักในสังคม เพราะเด็กๆจะต้องเติบโตไปอยู่ในสังคมที่บิดเบี้ยวและคนต่างทำสิ่งต่างๆตามๆกันไปเสมอ มันคงจะดีไม่น้อยที่ย้อนกลับมามอง สิ่งที่พวกเขาจะต้องทำหรือจะต้องเชื่อ แล้วแยกมันให้ออกระหว่างสิ่งที่เป็นและสิ่งที่ควรเป็น สุดท้ายแล้วเด็กๆก็จะต้องเดินตามชีวิตของพวกเขาเอง การฝึกให้เขาคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาอยู่รอดในสังคมนี้ได้โดยไม่ใช่แค่ไหลตามสังคมไป อ้างอิงภาพภาพปกโดย Lorraine Cormier จาก Pixabay ภาพ1โดย shanghaistoneman จาก Pixabay ภาพ2โดย Daniela Dimitrova จาก Pixabay ภาพ3โดย Jupi Lu จาก Pixabay ภาพ4โดย skalekar1992 จาก Pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !