รีเซต

AHA กับ BHA ต่างกันอย่างไร ควรใช้ตัวไหนให้หน้าใส ลดสิวแบบได้ผล!

AHA กับ BHA ต่างกันอย่างไร ควรใช้ตัวไหนให้หน้าใส ลดสิวแบบได้ผล!
Faii_Natnista
11 ธันวาคม 2562 ( 16:30 )
27.5K
1

     เคยได้ยินไหมคะสาวๆ ว่าถ้าอยากหน้าใสต้องใช้ AHA และ BHA แต่เอ๊ะ 2 ตัวนี้มันต่างกันยังไงนะ วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว! ต้องบอกก่อนค่ะว่า จริงๆ แล้ว การผลัดเซลล์ผิว นั้นเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการบำรุงผิวหน้าเราไม่น้อยค่ะ เพราะการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากใบหน้า จะช่วยป้องกันการเกิดสิว และช่วยให้ใบหน้าเราขาวใสขึ้นด้วย! ซึ่งตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA และ BHA นี่ล่ะค่ะ จะช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวของเราเป็นไปได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้นด้วย

 

 

AHA และ BHA คืออะไร? มาทำความรู้จักกันก่อน

AHA คืออะไร

     AHA (Alpha Hydroxy Acid) และ BHA (Beta Hydroxy Acid) ทั้งสองตัวนี้เป็นกรดชนิดหนึ่งที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวต่างๆ นั่นเองค่ะ โดย AHA นั้น เป็นส่วนผสมสารเคมีที่สามารถละลายในน้ำ เน้นช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเห็นในชื่อของ Glycolic, Lactic และ Citric Acid

BHA คืออะไร

     ส่วน BHA เป็นส่วนผสมสารเคมีที่สามารถละลายในน้ำมัน จะพบมากในชื่อ Salicylic Acid ซึ่งเจ้าตัวนี้ก็มักจะเป็นส่วนผสมในครีมที่ช่วยลดสิวทั้งหลายนั่นเองค่ะ

 

AHA และ BHA เหมือนและต่างกันอย่างไร?

     AHA และ BHA ถือเป็นกรดที่ช่วยในเรื่องผลัดเซลล์ผิว และป้องกันการเกิดสิวเช่นเดียวกันค่ะ แต่สองตัวนี้จะต่างกันตรงการใช้ให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว โดย BHA นั้น เนื่องจากสามารถละลายในน้ำมันได้ จึงสามารถทำความสะอาดรูขุมขนที่เป็นแหล่งเกิดน้ำมันบนใบหน้าได้มากกว่า และช่วยลดความมันได้ดี ในขณะที่ AHA ไม่สามารถละลายในน้ำมันได้จึงทำงานได้ดีบนผิวหน้าชั้นบนเท่านั้นค่ะ นอกจากนี้ AHA ยังก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวและส่งผลให้ผิวหน้าบางลงจนอาจถูกทำร้ายจากแสงแดดได้มากกว่าอีกด้วย!

 

 

BHA เหมาะกับคนผิวมันมากกว่า

      อย่างที่บอกไปค่ะว่า BHA นั้นสามารถละลายในน้ำมันได้ แต่ AHA ไม่สามารถทำได้ ฉะนั้น BHA จึงเหมาะกับคนผิวธรรมดาจนถึงผิวมัน ซึ่ง BHA จะช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า Sebum (ซีบั่ม) นั่นเอง นอกจากนี้ BHA ยังเหมาะกับคนที่ผิวเป็นสิว และมีปัญหาสิวเสี้ยนอีกด้วย เพราะ BHA นั้นมีความอ่อนโยนมากกว่า AHA ซึ่งนอกจากผิวเป็นสิวแล้ว ผิวแพ้ง่ายก็แนะนำให้ใช้ BHA มากกว่า AHA นะคะ

 

AHA ควรใช้อย่างไรและเมื่อไหร่ มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

     หากใครที่มีปัญหารอยสิว แผลเป็นจากสิว ฝ้า กระ แนะนำให้ใช้ AHA ค่ะ แต่อย่าลืมว่า AHA มีความแรงมากกว่า BHA คนผิวแพ้ง่ายจึงควรใช้ AHA เพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น ส่วนสาวผิวอื่นๆ ควรใช้ทุกๆ 2 วันค่ะ และที่สำคัญควรใช้เฉพาะกลางคืน และอย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อป้องกันการผลัดเซลล์ผิวในระหว่างวัน และเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น AHA แล้ว แนะนำว่าไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีและเรตินอลตามไปด้วยนะคะ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวระคายเคืองได้

 

BHA ควรใช้อย่างไรและเมื่อไหร่ มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

      BHA นั้นอ่อนโยนต่อผิวธรรมดา ผิวมัน รวมถึงผิวเป็นสิวเลยค่ะ โดยเราสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี BHA ได้ทุกวัน แต่ปริมาณ BHA นั้นอาจจะแตกต่างไปตามสภาพผิวค่ะ อย่างผิวบอบบางแพ้ง่าย การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid 0.5% ก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ ส่วนสภาพผิวอื่นๆ จะเลือกใช้ที่เป็นแบบ 2% หรือมากกว่านั้นก็ได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ง่ายขึ้นก็แนะนำให้ใช้ช่วงกลางคืน และอย่าลืมทาครีมกันแดดในตอนเช้าด้วยเช่นกันค่า

 

        และที่สำคัญคือ ควรเลือกใช้ทีละประเภท ไม่ใช้ปนกันหลายตัว เพราะอาจแรงเกินไปกับผิวของเรา และกรณีที่เกิดการแพ้จะได้รู้ว่าแพ้ตัวไหนนั่นเองค่ะ

 

บทความที่คุณอาจสนใจ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง