มาค่ะ ต่อกันเลยกับการรีวิวแอพพลิเคชัน Nomo - point and shoot กับกล้องตัวที่ 11 (อ่านบทความแรกได้ที่ "มาถ่ายภาพ(ฟิล)ฟิล์มแบบไม่ต้องใช้ฟิล์มกันเถอะ! (ตอนที่ 1)" นะคะ) แต่ก่อนที่จะเริ่ม เราต้องอย่าลืมรูปมาตรฐานที่จะนำมาเปรียบเทียบกันก่อนนั่นก็คือรูปนี้!! (เหมือนเดิม แฮ่!!) กล้องตัวที่ 11 กล้องตัวนี้เป็นกล้องที่คล้ายกับ Fuji รุ่น Natura s ซึ่งเป็นกล้องใช้แล้วทิ้ง ภาพที่ได้จะมีความสว่าง คมชัด คอนทราสต์สูง เป็นกล้องที่มีโหมดถ่ายภาพวิว ภาพบุคคล อะไรต่างๆเพิ่มมาจากกล้องรุ่นก่อนหน้านี้ที่เคยรีวิวไป กล้องตัวที่ 12 กล้อง Lomography Sprocket Rocket เป็นกล้องรุ่นแรกของ Nomo ที่มีเฟืองฟิล์มในรูป ภาพมันจะเป็นแนวพาโนราม่า โดยที่เลนส์กล้องจะบีบการมองเห็นให้เป็นภาพขนาดพาโนฯโดยอัตโนมัติ ภาพที่ได้ก็จะเป็นรอยฟิล์มม้วนตามรีวิวนั่นแหละ สีจะออกโทนเขียวๆขาวๆจ้าๆหน่อย กล้องตัวที่ 13 กล้องคอนแท็กซ์ รุ่น T3 ที่มีสีโทนฟิล์มออกแนวของ Kodak มีโหมดถ่ายภาพบุคคล โหมดวิว ต่างๆเพิ่มมา ซึ่งถ้าเอาสะดวกก็ตั้งค่าเป็นออโต้ได้ กล้องตัวที่ 14 กล้องแนวใหม่ ที่เหมือนยกเอาเครื่องเกมบอยมาถ่ายรูปเลย กล้องเหมือนได้รับแรงบันดาลใจจากเกมส์บอย เน้นเฉดสีเทาสี่เฉด ฟิลภาพจะเป็น dot (จุด) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวนี้ และที่สำคัญ ตัวนี้ใช้ฟรีจ้า!! กล้องตัวที่ 15 เป็นกล้องพิเศษที่ Nomo ออกมาต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสปี 2018 ได้แรงบันดาลใจจากกล้องใช้แล้วทิ้งของ AGFA มีเกล็ดหิมะเพิ่มเข้ามาในเฟรม แต่เราสามารถตั้งค่าเปิด/ปิดเกล็ดหิมะได้ ในตัวอย่างเราลองเปิดโหมดหิมะดู เห็นหิมะมั้ยคะ กล้องตัวที่ 16 กล้องทอยอีกตัวที่มีความพิเศษคือสีภาพที่ได้จะออกสีแดง+ฟ้า น่าจะคล้ายฟิล์มอินฟาเรด Aerochrome รู้สึกสวยแบบแปลกๆดี ใช้ถ่ายภาพ Landscape น่าจะได้อยู่ กล้องตัวที่ 18 ได้แรงบันดาลใจจาก Leica รุ่น Sofort เหมือนกล้องโพลาลอยด์ตัวแรกที่เรารีวิวไปเลย แต่ภาพจะหม่นกว่า ถ่ายแล้วได้ภาพเลย ไม่ต้องรอไม่ต้องเขย่า ปรับตั้งค่าความชัดกล้องขณะถ่ายได้ กล้องตัวที่ 19 เป็นกล้องรุ่นแรกของ Nomo ที่เปลี่ยนฟิล์มได้ 3 เฉดสี คือ meat film,cocktail film,sweet film ภาพที่ได้จะสดใส สว่าง แล้วแต่โทนสีฟิล์มที่เลือก เขาบอกว่าใช้ถ่ายโหมดอาหารต่างๆ น่าจะสวย กล้องตัวที่ 20 กล้องเลียนแบบภาพแนวโบราณสมัย 20-30 ปีที่แล้ว โทนสีฟิล์มสไตล์ขาวดำแบบวินเทจที่จะมัวๆเบลอๆหน่อย มีกรอบแบบรูปสมัยก่อนพร้อมโลโก้ Nomo มุมล่างขวาด้วยจ้า กล้องตัวที่ 21 กล้องตัวแรกจาก Nomo ที่สามารถถ่ายรูป 4 ช็อต ใน 1 วินาทีได้ หรือจะถ่ายภาพเดียวก็ได้ เป็นภาพโทนขาวดำ มีกรอบสีดำคล้ายรูปโพลาลอยด์ กล้องตัวที่ 22 ภาพที่ได้คือ wide สมชื่อเลยจ้า เกือบจะพาโนราม่าแล้วด้วย เค้าเคลมว่าเป็นกล้องที่เหมาะกับภาพวิวทิวทัศน์ ซึ่งลองแล้วว่ากว้างพอที่จะถ่ายกับวิวได้และสวยจริงแหละ กล้องได้แรงบันดาลใจจาก Hasselblad 65*24 mm. สีภาพที่ได้จะเหมือนถ่ายด้วยฟิล์ม Kodak Ektachrome E100VS จ้า กล้องตัวที่ 23 เป็นกล้องที่ได้แรงบันดาลใจจากกล้อง Leica M3 เป็นกล้องแนวขาวดำที่ตัวกล้องโคตรเท่ แต่เราไม่ค่อยอินกับภาพขาวดำเท่าไหร่ จบรีวิว กล้องตัวที่ 24 เป็นกล้องที่ได้แรงบันดาลใจจากปี 1840 โดย Joseph Petzval ตัวกล้องสีทองแบบโบร๊าณโบราณ สไตล์รูปภาพที่ได้ก็จะเป็นแบบโบเก้ขอบ เน้นองค์ประกอบตรงกลาง คอนทราสต์แรงๆ สีเข้มๆ ประมาณนี้ ปล. ความจริงโทนสีมันดีมากเลยอ่ะ ถ้าไม่เบลอขอบจะดีมาก 55555555 กล้องตัวที่ 26 เป็นกล้องที่เหมือนให้รูปเราอยู่ในโรงภาพยนตร์อ่ะ กล้องมันมี2โหมด มีแบบเป็นภาพมุมกว้างแนวภาพยนตร์ขาวดำธรรมดา กับภาพถ่ายที่อยู่ในกรอบรูปรูปโรงภาพยนตร์ แค่นี้แหละ กล้องตัวที่ 27 ตัวกล้อง Rainbow ที่เป็นเหมือนภาพถ่ายจากโพลาลอยด์ ภาพจะมีขนาด 1:1 กรอบที่ได้จะมีสีที่ต่างกันในแต่ละครั้ง โทนภาพที่ได้ก็จะโทนเดียวกับสีกรอบ มีทั้งหมดประมาณ 7 สี ต้องสุ่มเอา กล้องตัวที่ 28 แรงบันดาลใจจากกล้อง Olympus รุ่น Pen โทนภาพจะเป็นโทนขาวดำ เรียกว่าเป็นกล้องแบบ Half frame คือใน 1 รูปจะมี 2 เฟรม คือต้องถ่าย 2 รูปภาพจึงจะล้างออกมาเป็น 1 รูป กล้องตัวที่ 29 กล้องตัวโปรดอีกตัวของเราค่ะ เป็นกล้องที่ได้แรงบันดาลใจจากกล้อง Autoboy Luna ของญี่ปุ่น มีฟังก์ชั่นเยอะขึ้น -มีแคปชั่นในรูป -การแสดงวันที่4แบบ -เปิด/ปิดแฟลช -สามารถซูมได้ *อันนี้ดีเพราะปกติกล้องตัวอื่นที่ผ่านมายังซูมไม่ได้ -เปลี่ยนขนาดภาพได้ คือ 3:2 กับ พาโนราม่า ส่วนสีฟิล์มก็จะดรอปลง ภาพเบลอๆตามสไตล์ กล้องตัวที่ 30 เค้าว่าเป็นกล้องที่เฉลิมฉลองการจอดยานบนดวงจันทร์ครบรอบ 50 ปี ได้แรงบันดาลใจจาก Hasselblad รุ่น Data camera และ 500EL/M ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ช่างมันเถอะ เป็นภาพถ่ายขนาด 1:1 ปรับแต่งอะไรไม่ได้เลยจ้า สลับกล้องหน้าไม่ได้ ตั้งค่าได้แค่เปิด/ปิดกริดหรือตาราง + เป็นกล้องที่เอาไว้เผื่อใครชอบมู้ดและโทนแนวๆนี้ก็ถ่ายละครอปไปลงไอจีก็น่าจะได้แหละ ถ้าใครอ่านมาถึงตอนนี้แล้วสงสัยว่า กล้องตัวที่ 17 และ 25 หายไปไหน อยู่นี่ค่ะ เราเอามากันตรงนี้ กล้องตัวที่ 17 ได้แรงบันดาลใจจากไอโฟนสมัยปี 2007 ที่เต็มไปด้วยนอยซ์ และคุณภาพภาพแบบดั้งเดิมฉบับไอโฟน ซึ่งเจ้าตัวนี้ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากกดถ่ายจากกล้องหลัง อิมพอร์ตภาพไม่ได้ กลับกล้องหน้าไม่ได้ และหาความคมชัดไม่ได้ ตามสไตล์ของไอโฟนรุ่นปี2007 กล้องตัวที่ 25 เป็นกล้อง 4 เลนส์ 4 มุม แต่เวลากดถ่ายจะได้รูปเพียงรูปเดียว แต่มี 4 มุมในการลั่นชัตเตอร์เพียงเสี้ยวนาที อิมพอร์ตภาพมาแต่งเองไม่ได้เด้อ กล้องตัวนี้ถ่ายสดหน้างานอย่างเดียวจ้า ใครชอบกล้องแนวๆนี้ก็ไปลองซื้อมาเล่นดู กล้องตัวที่ 31 เป็นกล้องรุ่นแรกของ Nomo ที่ถ่ายวิดีโอได้ ได้แรงบันดาลใจจากกล้อง Canon Legend รุ่น Super8 ที่ใช้ฟิล์มถ่าย ใครที่ชอบวิดีโอแนวภาพฟิล์มต้องตัวนี้ น่าลองมาก (แอบบอกว่าโทนสีดีด้วย) ยัง!! ยังไม่หมดนะคะ ยังมีกล้องอีก 6 แบบที่ยังรอรีวิวอยู่ แต่เรากลัวคนอ่านจะเบื่อ เดี๋ยวบทความหน้าจะเปลี่ยนรูปต้นฉบับที่จะมารีวิวละดีกว่า ฝากติดตาม "มาถ่ายภาพ(ฟิล)ฟิล์มแบบไม่ต้องใช้ฟิล์มกันเถอะ! (ตอนที่ 1และ3)" ต่อกันด้วยนะคะขอบคุณค่า #ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียนเองเลยนะคะ ผิดพลาดประการใดให้อภัยกันด้วยน้าาาาา