มีเรื่องอะไรเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนที่เรายังเป็นเด็กๆบ้าง เพื่อนๆกำลังทำอะไรบ้างในตอนที่เราเป็นเด็ก อย่างบางคนก็เล่นกับเพื่อน ในกระแส Y2K หรือไม่ก็อยู่ในยุคที่ทำงาน และมีความสุขและรอเวลาเลิกงานเพื่อออกมากินข้าวและคุยเล่นกับเพื่อนๆ ซึ่งวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า MBTI 16 บุคลิกภาพ มีช่วงเวลาที่เป็นเด็ก ยังไงบ้าง1. ISFP -- แม่คะหนูวาดรูปของแม่ค่ะ ดูซิว่าเหมือนเปี๊ยบเลย เพราะว่า ISFP เป็นบุคลิกของนักผจญภัย จึงมีนิสัยมองโลกในปัจจุบัน มีอารมณ์ความเป็นศิลปิน มีความติสท์ในตัว มีเซ้นท์ด้านศิลปะค่อนข้างดี และมองโลกในปัจจุบัน ไวต่อสถานการณ์ความเป็นจริงและปัจจุบันที่เกิดขึ้นตรงหน้า และมีความเห็นอกเห็นใจสูง ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย2. ISTP -- เถียงกับพ่อแม่เรื่องที่พ่อแม่ของเขาลืมของทิ้งไว้ในบ้านและของไม่มีขาเดิน ดังนั้นพวกเขาอาจจะลืมไว้ที่ไหนสักที่ในที่บ้าน ที่ทำงาน หรือระหว่างทางกลับมา เพราะว่า ISTP เป็นบุคลิกของผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ จึงมีนิสัยมองโลกตามเหตุตามผล และมองโลกตามความเป็นจริง คิดวิเคราะห์ทุกอย่างอย่างมีเหตุมีผล มีไหวพริบ ไวต่อสถานการณ์ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า3. INTP -- โรงเรียนเป็นสถานที่น่าเบื่อมากที่มีกฎระเบียบอยู่เต็มไปหมดและมีตารางสอนให้ต้องจัดและมีเพื่อนที่บ่นเรื่องซ้ำซากจำเจมากมาย เช่น คนนั้นคบกับคนนั้น คนนี้คบกับคนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก เพราะว่า INTP เป็นบุคลิกของนักตรรกะ จึงทำให้มีนิสัยช่างรู้ ช่างสงสัย ชอบใฝ่หาคำตอบ ขวนขวายอย่างมากในความรู้ที่ตัวเองสนใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นคนที่มองโลกตามความเป็นจริงคนหนึ่ง4. INFP -- ชีวิตในโรงเรียนเป็นเรื่องที่เศร้ามาก เพราะอาจารย์จำชื่อของนักเรียนในห้องไม่ได้ทุกคนด้วยซ้ำ และเพื่อนๆที่ทำงานเอางานของทุกคนในห้องไปส่ง ยกเว้นเรา นี้เรากำลังโดนบูลลี่หรือเปล่า เพราะ INFP คือบุคลิกของนักไกล่เกลี่ย จึงมีนิสัยค่อนข้างเพ้อฝัน อ่อนไหวง่าย มองโลกตามอุดมการณ์และอุดมคติ ให้ความสำคัญกับจินตนาการ และเรื่องที่สมควรจะเกิดขึ้นมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง 5. ENFP -- เราจะออกไปเที่ยว ออกไปข้างนอก ย้ายเมืองที่พวกเราจะอยู่ เพราะว่าฉันรู้สึกเบื่อมากเลยติดอยู่ในเมืองนี้มาเป็นเวลานานแล้วและพวกเราต้องเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เพราะ ENFP คือบุคลิกของนักรณรงค์ จึงมีนิสัยชอบพูด ชอบคุย ชอบเข้าสังคม ชอบพบปะพูดคุยและพบเจอกับคนใหม่ๆ เป็นคนที่ร่าเริงสดใสเป็นอย่างมาก มีพลังงานบวกในตัวเองและค่อนข้างเฟรนด์ลี่ และมักจะอยู่ไม่ค่อยติดที่ และมีความสุขตอนที่ได้ไปในสถานที่ต่างๆ6. INTJ -- ทะเลาะกับพ่อแม่เรื่องที่ทำไมถึงใส่เสื้อชุดเดิมๆซ้ำไปทุกวัน อย่างเช่น เสื้อยืด กางเกงขาสั้น และรองเท้าแตะ เพราะมันใส่สบาย เพราะ INTJ คือบุคลิกของนักออกแบบ จึงทำให้มีนิสัยเก็บตัว ใช้สัญชาตญาณและความคิดที่มีเหตุมีผลในการตัดสินใจมองโลกตามความเป็นจริงอย่างมาก วางแผนการและกลยุทธ์สำหรับเป้าหมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นคนที่ชอบทำงานคนเดียวรวมถึงมีโลกส่วนตัวสูง7. ENTP -- แน่นอนว่าคนเราต้องนอนในเวลากลางคืน และนอนให้เป็นเวลา แต่ขอขออนุญาตถามได้มั้ยว่าทำไมคนเราถึงต้องนอนในเวลานี้ในเมื่อพวกหนู/พวกผมไม่รู้สึกง่วงนอนตอนนี้เลย เพราะ ENTP คือบุคลิกของนักโต้วาที จึงมีนิสัยชอบพูด ชอบคุย ชอบเข้าสังคม มีเสน่ห์ในตัว และเป็นคนที่มองโลกตามความเป็นจริงและมีเหตุมีผลเป็นอย่างมาก ชอบการท้าทายและชอบจุดประเด็นมาถกเถียงสำหรับทุกสิ่งและทุกอย่าง8. INFJ -- เมื่อ 3 ปีที่แล้วเรายังเป็นเด็กอยู่เลยที่ต้องการการดูแลจากพ่อแม่ ที่ต้องมีพ่อแม่พาไปโรงพยาบาลและทุกตอนนี้ เราแค่เป็นเด็กที่อายุมากขึ้นและต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองแล้ว การเป็นผู้ใหญ่เป็นเรื่องที่แย่มาก เพราะ INFJ คือบุคลิกของผู้แนะนำ จึงทำให้มีนิสัยใจดี อ่อนโยน อบอุ่น สุขุม รอบคอบ และเป็นคนที่ลึกลับซับซ้อนในสายตาของคนอื่น แต่จริงๆแล้วเป็นคนที่อ่อนไหวง่ายและใจดีมากๆคนหนึ่งรวมไปถึงคิดมากด้วย 9. ISTJ -- ทะเลาะกับแม่เรื่องของของสะสมแปลกๆที่ ISTJ สะสมมานาน อย่างเช่น แมลงปีกแข็ง หรือแมลงพันธ์หายาก เป็นต้น เพราะ ISTJ คือบุคลิกของนักคำนวณ จึงมีนิสัยมองโลกตามความจริง มีความจริงจัง ขยันทำงานเป็นอย่างมาก ค่อนข้างเรียบร้อยและทำตามกฎระเบียบได้เป็นอย่างดี ค่อนข้างมีความเป็นเด็กในเวลาส่วนตัวของตัวเองสูง10. ESFJ -- หนู/ผมขอชวนเพื่อนๆทุกคนในห้องมางานปาร์ตี้ในวันเกิดที่มาถึงได้ไหม ไม่ แม่ไม่เข้าใจ มันไม่ใช่แค่คนสิบคน เพราะ ESFJ คือบุคลิกของผู้มอบคำปรึกษา จึงมีนิสัยชอบเข้าสังคม มองโลกในปัจจุบัน มีความเห็นอกเห็นใจสูง ใส่ใจ อบอุ่น ใจดี ช่างห่วงใย ชอบช่วยเหลือคนอื่นและเป็นคนที่มีเพื่อนมากและมีเสน่ห์ในตัวคนหนึ่ง11. ENFJ -- ทำไมพ่อกับแม่ถึงทะเลาะกันอีกแล้วคะ/ครับ ถ้าพ่อแม่มีอะไรไม่พอใจ พ่อกับแม่สามารถปรึกษาและระบายอารมณ์และความเครียดได้กับหนู/ผมได้นะคะ/ครับ เพราะ ENFJ คือบุคลิกของตัวเอก จึงทำให้นิสัยชอบพูด ชอบคุย ชอบเข้าสังคม และมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นสูง ให้ความสำคัญกับความสามัคคี ความประนีประนอมและความปรองดอง สามารถจัดการองค์ประกอบด้วยระบบต่างๆได้ดีในชีวิต ค่อนข้างรักความสมบูรณ์แบบและชอบช่วยเหลือคนอื่น12. ENTJ -- มีคนแอบกินคุกกี้ที่พ่อแม่ซื้อมาจนหมด และไม่มีอะไรกินในตู้เย็นวันนี้เลย ซึ่งใครเป็นคนขโมยขนมในตู้เย็นไปจนหมดเพราะ ENTJ คือบุคลิกของผู้บัญชาการ จึงทำให้มีนิสัยมีความเป็นผู้นำสูง มีความแน่วแน่ เด็ดขาด มีความสามารถในการวางแผน วางกลยุทธ์ สั่งการและควบคุมคนอื่น เพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ ต้องการและใฝ่ฝันอย่างมากในการประสบความสำเร็จรวมถึงเป็นคนที่มองโลกตามเหตุและผลและมองโลกตามความเป็นจริงเป็นอย่างมาก 13.ISFJ -- บอกไม่ให้ใจเย็นๆตอนที่หาของไม่เจอ ก่อนจะลุกขึ้นาช่วยแม่หาของพร้อมกับพูดคำพูดให้กำลังใจไปด้วย เพราะ ISFJ คือบุคลิกของผู้ตั้งรับ ซึ่งมีนิสัยเก็บตัว มีความเป็นอนุรักษ์นิยม มองโลกในปัจจุบัน ใจดี เรียบร้อย และมีความรับผิดชอบสูง ชอบช่วยเหลือคนอื่น14. ESFP -- ฟ้องและบอกแม่ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องของเพื่อนบ้านพูดแบบนั้น เรื่องของเพื่อนบ้านที่ทำแบบนี้ หรือเรื่องของหมาแมวข้างบ้านที่เป็นเพื่อนกัน หรือทะเลาะกัน เพราะ ESFP คือบุคลิกของผู้มอบความบันเทิง จึงมีนิสัยขี้เล่น ร่าเริงสดใส มอบพลังงานบวก เข้ากับใครก็ได้ มองโลกในปัจจุบัน รักในการแสดงออก มีเสน่ห์ และมีเพื่อนมาก15. ESTP -- เป็นเด็กที่เถียงกับพ่อแม่ทุกครั้งในเรื่องที่ตัวเองทำและโทษว่าเป็นความผิดของแมวที่เลี้ยงในบ้าน เช่น มือถือไปอยู่ในตู้เย็น รองเท้าไปอยู่ในตู้ปลา เป็นต้น เพราะ ESTP คือบุคลิกของผู้ประกอบการ จึงมีนิสัยอารมณ์ร้อน หุนหันพลันแล่น และตัดสินใจทุกอย่างตามความเป็นจริงและมองโลกในปัจจุบันพอสมควร รวมถึงมีความบุ่มบ่าม และชอบลงมือทำทันทีในปัจจุบัน16. ESTJ -- ทำไมหนู/ผมถึงเล่นเกมที่หนู/ผมอยากจะเล่นไม่ได้ ทำไมถึงต้องควบคุมและจำกัดเวลาในการเล่นเกม หนู/ผมเรียนหนักมาก หนู/ผมอ่านหนังสือสอบทุกวัน แค่ฟังคำพูดของหนู/ผมด้วย เพราะ ESTJ คือบุคลิกของผู้บริหาร จึงมีนิสัยจริงจัง มีความรับผิดชอบสูง จัดองค์ประกอบต่างๆในชีวิตได้ค่อนข้างดี ดื้อรั้นในสิ่งที่ตัวเองตั้งเป้าหมายและมีความเป็นผู้นำ เด็ดเดี่ยวเป็นอย่างมาก ผู้เขียนเป็น INFP นะ ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าในเวลาไหนที่เราควรจะเรียกตัวเองว่าเด็ก และในเวลาไหนที่เราเรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่ เพราะว่าในบางครั้งนั้น ผู้เขียนพบว่าทุกคนนั้นยังคงมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว แม้ว่าจะมีอายุที่เพิ่มมากขึ้นมาเรื่อยๆ และเรื่อยๆแล้วก็ตาม ทุกคนมีความเป็นเด็กในตัวเองไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม จนถึงกระทั่งเราเข้าสู่วัยชราก็ตาม เราก็ยังมีด้านของความเป็นเด็กเล็กๆน้อยๆอยู่เสมอ แล้วเราต้องการการดูแลจากคนรอบตัวเหมือนกับสิ่งที่เราเคยได้รับสมัยที่เราเป็นเด็กจากพ่อแม่และคนในครอบครัวของเรา อย่างเช่น คำถามที่เราได้รับ ในเรื่องเล็กๆน้อยๆ ซึ่งจริงๆแล้วมันก็เป็นแค่การ small talk วันนี้คุณกินอะไรหรือยัง คุณนอนหลับเต็มอิ่มมั้ย คุณมีสุขภาพที่ดีใช่มั้ย ไม่เจ็บป่วยตรงไหนใช่มั้ย คุณมีวันที่ดีใช่มั้ย คุณมีเพื่อนหรือคนที่ไว้ใจได้และคนที่สนิทกันอยู่รอบๆตัวเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนพวกคุณใช่มั้ย คุณมีคนพาคุณไปหาหมอในเวลาที่ป่วยใช่มั้ย นั้นเป็นเรื่องปกติที่คนเราจะมองหาคนที่สามารถดูแลและพึ่งพาและทำให้หัวใจเรามีความสุขได้เหมือนกับสมัยเด็กที่เราได้รับจากพ่อแม่ของเรา ไม่ว่าความจริงแล้วมันจะไม่ใช่ความรักก็ตาม มันจะเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบของเพื่อน มิตรภาพ และแรงบันดาลใจหรือแรงจูงใจในการลงมือทำสิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราได้กลับไปทำตัวเหมือนเด็กครั้งหนึ่งแม้ว่าเราจะโตแล้วและเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม แต่ถ้าถามว่าตอนที่เป็นเด็กผู้เขียนเป็นคนยังไง พ่อแม่ของผู้เขียนคงจะตอบว่าผู้เขียนเป็นเด็กที่ดื้อและซนคนหนึ่ง และเพื่อนๆที่เคยรู้จักและมองเห็นผู้เขียนตอนเด็ก ถ้าเป็นผู้ชายก็คงจะบอกว่าผู้เขียนเป็นโอตาคุ แต่ถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิงก็คงจะบอกว่าผู้เขียนเป็นคนที่เนิร์ด/เรียบร้อยคนหนึ่ง แหล่งอ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมที่ 16personalities.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : MBTI 16 บุคลิกภาพ กับการแสดงออกความรักMBTI 16 บุคลิกภาพ กับการบอกความลับMBTI 16 บุคลิกภาพ รับมือกับปัญหายังไงMBTI 16 บุคลิกภาพ กับ รูปแบบการทำงานMBTI 16 บุคลิกภาพ กับ การระเบิดอารมณ์ ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 โดย Arijitrex / 2 / 3 โดย Bessi / 4 โดย JFGagnonPhotograhie/ pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !