INFP คือบุคลิกของนักไกล่เกลี่ย จึงทำให้มีนิสัยคิดมาก อ่อนไหวง่าย ละเอียดอ่อน เห็นอกเห็นใจคนอื่นสูง มองโลกในอุดมคติ และให้ความสำคัญกับความเชื่อของตัวเอง ตัดสินเรื่องต่างๆจากความเชื่อภายใน มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ต้องการสร้างเรื่องดีๆต่อโลกใบนี้ หลีกเหลี่ยงการทะเลาะเบาะแว้งหรือขัดแย้งกัน รักสงบ ในฐานะ INFP ผู้เขียนพบว่าการผลัดวันประกันพรุ่งในการทำงานถือเป็นเรื่องที่ปกติ และการเอาชนะความขี้เกียจในใจก็ถือว่าเป็นความท้าทายอีกเรื่องในชีวิตของตัวเองเลย เพราะมีหลายอย่างที่ต้องทำมากเลยในชีวิตประจำวัน เวลาจึงเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามากที่สุดของผู้เขียน แม้จะจัดการเวลา และทำสิ่งต่างๆให้เสร็จเพื่อมีเวลาว่างและคิดทบทวนถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ หรือใช้เวลาในเวลาส่วนตัวในเวลาว่างพักผ่อนส่วนตัว วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำ 5 วิธีเอาชนะความขี้เกียจในใจสำหรับเพื่อนๆชาว INFP ที่ผู้เขียนทำตามแล้วได้ผลจริงในการเลิกขี้เกียจและทำงานให้เสร็จตามเวลา 1. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน การตั้งเป้าหมายจะทำให้เรารับรู้และเข้าใจง่ายมากขึ้นว่าเราต้องการอะไร หรือไม่ต้องการอะไร และสามารถประหยัดเวลาที่เราจะทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายหรือสิ่งที่เราวางและแพลนเอาไว้ในใจได้อย่างง่ายดายมากขึ้น จะทำให้เราทำงานเสร็จไวมากขึ้น และทำให้เรามีเวลาไปทำเรื่องอื่นๆในชีวิตได้เพิ่มมากขึ้นด้วย จริงๆการตั้งเป้าหมายนั้นสำคัญมากๆสำหรับการทำงาน ผู้เขียนเป็น INFP นะ ผู้เขียนพบว่าการตั้งเป้าหมายในการทำงานและการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในช่วงหนึ่งถึงสองปีมานี้เพราะว่าโควิดผู้เขียนลาออกจากงานประจำมาเป็นฟรีแลนซ์ และทำงานตามอารมณ์แค่ในช่วงเวลาที่ผู้เขียนอยากจะทำ ผู้เขียนก็เอาเวลาไปเขียนหนังสือ เขียนบทความ วาดรูป รีวิวหนัง รีวิวหนังสือ รีวิวชีวิตประจำวันในฐานะฟรีแลนซ์บ้าง ทำงานจากที่บ้าน พบว่าถ้าเทียบกับหนึ่งถึงสองปีที่แล้วตัวเองใจร้อนขึ้นเยอะเลย รู้สึกว่ารอไม่ได้ รู้สึกว่าต้องได้ตอนนี้ เดียวนี้ทันที และการตั้งเป้าหมายธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้และเพื่อให้เป้าหมายของตัวเองเป็นจริงนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งผู้เขียนจะแบ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้น และเป้าหมายระยะยาว ตามแต่ผลลัพธ์ที่ผู้เขียนต้องการและผลกำไรที่ผู้เขียนหวังว่าจะได้รับ 2. จัดลำดับความสำคัญของงาน การจัดลำดับความสำคัญของงานเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน เป็นสิ่งที่เราตัดสินใจวาเมื่อเราตื่นมา เราจะทำอะไรก่อนระหว่างทำงาน ออกกำลังกาย หรือว่าจะแปรงฟัน อาบน้ำ แม้แต่การอ่านหนังสือ อ่านเอกสาร อ่าน white paper หาความรู้เพิ่มเติมก็ตาม ซึ่งส่วนมากผู้เขียนไม่ค่อยมีเวลาหรอก เพราะชอบดูหนังฟังเพลงอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียงเป็นชั่วโมงๆไปจนถึงทั้งวันมากกว่า ไม่ค่อยชอบลุกขึ้นมาทำอะไร แม้แต่ทำความสะอาดบ้าน ยังต้องจูงใจตัวเองเลย ซึ่งเป็นนิสัยที่ไม่ควรเอาแบบอย่างเพราะขี้เกียจมาก ซึ่งในฐานะของ INFP ผู้เขียนลองจัดการตารางเวลาของตัวเองดู 2 ชั่วโมง อ่านหนังสือ 2 ชั่วโมง ทำงาน 2 ชั่วโมงออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงอ่านข่าวเอกสารความเป็นไปของข่าวต่างๆบนโลก เพื่อช่วยในการลงทุน หรือแม้แต่การเปิดระบบบอทที่ช่วยในการเทรดเพื่อกดรันทุก 4 ชั่วโมง เพราะผู้เขียนต้องทำงานและไม่มีเวลา หรือการแบ่งเวลาเพื่อตามเก็บ Airdrops และ NFT วันละ 30 นาที ช่วยได้มากเลยในการกำจัดความขี้เกียจ แม้ว่าความจริงแล้วผู้เขียนจะสบายใจกับการนอนทั้งวันและไม่ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรมากกว่าก็ตาม เพราะในบางอารมณ์ ผู้เขียนไม่อยากจะลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยซ้ำ ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งนั้นเลย ซึ่งการจัดลำดับความสำคัญของงานและชั่งน้ำหนักสิ่งที่เราจะเสียไปถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาทำสิ่งๆนี้จะทำให้เรากระตือรือร้นและให้ความสำคัญกับมูลค่าของเวลาและความสำคัญของงานเพิ่มมากขึ้นเลย 3. สร้างนิสัยที่ดีต่อการทำงาน การสร้างนิสัยที่ดีต่อการทำงานอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันถือเป็นเรื่องที่ดีมากเลย ผู้เขียนเคยอ่านหนังสือถึงการสร้างนิสัยให้เป็นกิจวัตรประจำวันเรื่องนิสัยที่เราทำต่อเนื่องประจำติดต่อกันจนกลายเป็นเวลา 3 อาทิตย์หรือ กฎ 21 วันจะช่วยให้เราทำซ้ำไปซ้ำมาจนกลายเป็นนิสัยติดตัวของเรา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งเวลาสำหรับออกกำลังกาย การแบ่งเวลาสำหรับการหาสูตรทำอาหารเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่การเดินออกมาจากเซฟโซนของตัวเองเพื่อเข้าสังคม ผู้เขียนเป็น INFP ที่มีปัญหาในการนอนหลับเป็นเวลาต่อเนื่องมายาวนานถึงสิบปีเพราะอาการวิตกกังวล และโรคย้ำคิดย้ำทำส่วนตัวของตัวเอง แต่พอผู้เขียนจัดการเวลาการทำงานและเวลาการเข้านอนของตัวเองอย่างจริงจัง ประมาณ วางระบบนาฬิกาชีวิตของตัวเองไว้ เพื่อที่เวลาที่เราตื่นขึ้นมาจะได้ไม่ต้องรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนหรือหงุดหงิดง่ายและไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันหรือความสัมพันธ์ของผู้คนรอบๆตัวด้วย กลายเป็นว่าผู้เขียนสามารถนอนหลับได้อย่างเป็นเวลา และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ไม่มีปัญหาด้านความจำหรือการหลงลืมเพราะนอนไม่พอด้วย จัดระเบียบของงานได้ดีมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก 4. กำจัดสิ่งรบกวนสมาธิ ผู้เขียนเป็น INFP นะ สิ่งที่รบกวนสมาธิของผู้เขียนมากที่สุดในการทำงานที่ผู้เขียนต้องขอยอมรับอย่างหนึ่งคงจะเป็นอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดีย ที่ดึงความสนใจและขโมยสมาธิของผู้เขียนไปเยอะมากในเวลาการทำงาน เพื่อนๆ ENTP แนะนำให้ผู้เขียนปิดมือถือ ตัดขาดจากโซเชียลมีเดีย หรือไม่ต้องเข้าไปเล่นทวิตเตอร์อีกเลย ซึ่งผู้เขียนก็ทำตามนั้น หาพื้นที่ทำงานเงียบๆของตัวเองเงียบๆ โดยไม่ต้องยุ่งกับใคร ไม่ต้องติดต่อกับใคร และเราสามารถทำงานได้ดีขึ้นจริงๆ อาจจะมีผีในหัวที่โผล่มาปรากฎตัวขึ้นเพื่อก่อกวนผู้เขียนบ้างเป็นครั้งคราวในชีวิตประจำวัน แต่นั้นเป็นเรื่องที่ผู้เขียนทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อเราชอบดาราบนทีวี พวกเขาแค่ยืนอยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตของพวกเขาบนหน้าจอทีวี และเราก็คิดแต่เรื่องของเขาหลังจากที่ดูหนังเรื่องหนึ่งจบที่มีความยาวแค่ 1-2 ชั่วโมง หนึ่งซีซัน เพราะเราเอาแต่คิดแต่หน้าของเขาแต่เขาไม่สามารถเป็นของเราได้ และเราไม่สามารถเป็นเจ้าของเขาได้แต่เรารู้สึกตกหลุมรัก นั้นเป็นเรื่องปกติมาก ที่ผู้เขียนทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว กับการตกหลุมรักคาแรทเตอร์ หรือภาพลักษณ์ของดารา ไอดอล ศิลปิน บนหน้าจอทีวี ในฐานะของแฟนคลับ ในฐานะของคนแปลกหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของเขา ซึ่งหากความรู้สึกที่เรามีให้เขามันมากเกินไปจนรบกวนเวลาในชีวิตประจำวัน ก็คล้ายๆกับคนที่เจอในชีวิตประจำวัน ที่เราแอบชอบคนที่เขาไม่ชอบ ไม่สนใจเรา ก็แค่เลิกสนใจเขาค่ะ เลิกตาม เลิกมองเขาค่ะ ไม่งั้นคนที่รู้สึกเจ็บก็จะเป็นเราเปล่าๆ 5. ให้รางวัลตัวเอง เมื่อเป้าหมายของตัวเองประสบความสำเร็จ หรือเราขยัน ตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อให้เป้าหมายของตัวเองเป็นจริง ก็อย่าลืมที่จะให้รางวัลตัวเอง ในฐานะของ INFP ผู้เขียนมองเห็นคนหลายๆคนที่ตั้งใจทำงานหนักอยู่เสมอ ขยันทำงานหนักอยู่เสมอ หายใจเข้าหายใจออกเพื่องานและเป้าหมายที่ตัวเองต้องการจะให้เป็นจริงและประสบความสำเร็จอยู่เสมอ แต่พวกเขาไม่เคยให้รางวัลตัวเองเลยในชีิวิต พวกเขาใช้ชีวิตกับความเคร่งเครียด ความโดดเดี่ยวและความเข้มงวดรวมถึงความเครียด ความกดดัน และความคาดหวังที่พวกเขามีให้ตัวเอง ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความก้าวหน้าและความสมบูรณ์แบบจนทำให้ตัวเองกลายเป็นโรควิตกกังวลและชีวิตไม่มีความสุขเลย ผู้เขียนจึงเลือกที่จะเห็นอกเห็นใจตัวเองและให้ความสุขและรางวัลของตัวเองหลังจากเงินเดือนออกดีกว่า เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มีแต่ทำให้ดีที่สุดเพื่อที่เราจะไม่ต้องเสียใจภายหลังกับการตัดสินในชีวิตของเราเอง เพราะนั้นคือชีวิตนี้ และคนเรามีทางเลือกเสมอ บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : บ้านแบบไหนที่เหมาะกับ MBTI ทั้ง 16 บุคลิกภาพMBTI 16 บุคลิกภาพกับบ้านจัดสรรในแฮร์รี่พอตเตอร์MBTI 16 บุคลิกภาพจะถูกเติมเต็มด้วยเรื่องอะไรในชีวิตMBTI 16 บุคลิกภาพคิดมากเรื่องอะไรMBTI 16 บุคลิกภาพ ทำให้คุณประทับใจได้ด้วยความรู้สึกแบบไหน ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canvaรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 โดย QuinceCreative/ pixabay7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์