สภาพสังคมทุกวันนี้มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ผู้คนเป็นจิตเวชได้มากขึ้น แต่การที่จะบอกคนอื่นและให้เขาเข้าใจก็ทำได้ยากเช่นกัน ไม่ว่าจะกังวลเรื่องเรียน เรื่องการทำงาน ตกงาน และสภาพของคนแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราก็ทำให้ผู้คนบางกลุ่มป่วยได้ โรคเหล่านี้ไม่ใช่โรคที่เสแสร้งหรือแกล้งทำ ตอนแรกอาจจะคิดกันแค่ว่าเครียด หรือเหมารวมว่าเป็นโรคซึมเศร้า ที่จริงมันก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียวแต่ก็สามารถแทรกซ้อนโรคซึมเศร้าเข้ามาได้ ถ้าเราได้ปรับตัวเข้าหาสภาพแวดล้อมที่ดีก็ช่วยให้จิตใจคนเราดีขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้นเลื่อนลงไปอ่านได้เลยค่ะอาการของโรคที่ Creator เป็นอยู่ถือว่าอยู่ในระดับขั้้นเกือบสุด เนื่องจาก Creator เป็นคนชอบเก็บตัวตั้งแต่เด็ก ไม่ชอบเข้าสังคมเป็นคนที่ introvert มากเวลาอยู่ในที่คนเยอะ ๆ จะรู้สึกเหนื่อยมากเป็นพิเศษ และจิตใจที่ต้องรองรับอารมณ์ของคนอื่นภายใต้ภาวะการกดดันนั้นต่ำมาก เป็นคนที่ข้างหน้าไม่มีอะไร แต่ในใจเก็บมาคิดตลอดเวลา และก็จะย้ำคิดย้ำทำ จนเกิดความหวาดระแวง ตัวอาการจะแยกออกเป็นข้อ ๆ ดังนี้ตั้งแต่เด็กจนโตอาการเริ่มแรกที่เป็นจะมีภาวะตื่นกลัวปากสั่น ตัวสั่น เวลาที่ต้องคุยกับคน ไม่ว่าจะกับเพื่อน ครู สังคมภายนอก หรือแม้กระทั่งคนในบ้านมักจะเหม่อลอย ตกอยู่ใน Comfort zone ที่ป้องกันตนเองจากผู้อื่นใน ร้องไห้ไม่ว่าจะทาหน้าตาหรือบางครั้งก็ร้องไห้ในใจเวลาใครมองก็จะรู้สึกว่าตัวเองโดนเอาไปพูดถึงรึเปล่า ซึ่งเขาอาจจะพูดถึงเราในทางที่ดีก็ได้ แต่เรามักคิดไปในทางลบเสมอ แม้กระทั่งอยู่คนเดียวก็ได้ยินเสียงด้านลบเก็บตัวเข้าห้องอยู่คนเดียว ด้อยคุณค่าในตัวเอง และชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น และยิ่งเราไม่ได้ทำงานมีหน้ามีตาได้เงินเดือนสูง ๆ เหมือนคนในบ้าน เราจะยิ่งเก็บมาคิดต่าง ๆ นานา จะให้เลิกคิดมันก็ทำไม่ได้เริ่มเกิดความรู้สึกไม่มีความสุข ไม่ว่าจะกินข้าวก็ไม่รับรู้ถึงความอร่อย ไม่อยากออกไปเที่ยวเพราะรู้สึกไม่สนุก ไม่ปลอดภัย เวลาแสดงความคิดเห็นก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรพูดอยู่ดี จนถึงขั้นทำร้ายร่างกายตัวเองอาการเหล่านี้สามารถแก้ได้ไหม อาการเหล่านี้ถ้ารุ่นแรงจนส่งผลกระทบกับชีวิตมากขึ้นจนคนอื่นจับสังเกตได้อย่างแรกที่ควรทำคือ การไปปรึกษาจิตแพทย์ค่ะ ไปเล่าให้จิตแพทย์ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องเล่าให้หมดทุกอย่างนะคะ จะร้องไห้ต่อหน้าคุณหมอก็ไม่เป็นไรค่ะ ครั้งแรกอาจจะกลัว แต่ครั้งสองด้วยความที่จิตแพทย์เขามีจิตวิทยาล้วงลึกจิตใจคนไข้ได้ก็จะยิ่งทำให้คนไข้กล้าพูดมากขึ้น ซึ่งสื่งที่ทำให้คนเรากลายเป็นโรคทางด้านนี้ได้ อาจไม่ได้เกิดแค่สภาพแวดล้อม แต่เกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ดังนั้นคุณหมอจะประเมินอาการแล้วให้ยามาทานค่ะ ควบคู่กับการพูดคุยการไปหาคุณหมอช่วงแรกจะถี่หน่อย ทานยาแล้วพูดคุยกับคุณหมอไม่น่ากลัวอย่างที่คิดทานยาแล้วก็ต้องรู้จักสนใจความรู้สึกตัวเองให้มากขึ้น พยายามหาคนในครอบครัวสักคนที่เข้าใจแล้วระบายให้เขาฟัง สำหรับเราคือ คุณแม่บุญธรรมค่ะที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก และเป็นคนแนะนำให้ไปหาหมอ ถ้ามีคนในบ้านที่คุณรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยไม่สนิทใจหรือ toxic ใส่เรา นับ 1-10ค่ะ แล้วค่อย ๆ ศึกษาตัวของคนผู้นั้นถึงแม้เราจะเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนความหวาดกลัวเป็นการทำความเข้าใจคนเหล่านั้นแทน และไม่ต้องเก็บมาใส่ใจค่อย ๆ ปล่อยวางลงค่ะหัดมองโลกในดีให้มากขึ้น เพราะคุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก บางครั้งคนใกล้ตัวก็คอย support เราอยู่แต่เราอาจจะไม่รู้ตัว ดังนั้นเราหันมาใส่ใจพวกเขาให้มากขึ้นดีกว่าฝึกตั้งสติและมีสมาธิในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เสมอ มันอาจจะหักดิบได้ไม่ 100% เพราะเก็บสะสมมานาน แต่ถ้าเรารู้ตัวทุกขณะจิต เราก็จะมีความสุขได้เริ่มหันวาดรูป ฟังเพลง ร้องเพลง หรือทำอะไรที่เราเคยชอบและยังมีความสุขกับมันอยู่ให้มันช่วยบำบัดเราได้ค่ะ สัตว์เลี้ยงของเราก็ช่วยได้นะคะอยากเห็นคุณค่าในการเติบโตจิตใจของตัวเองก็เอาตัวเองลงไปทำตรงนั้นค่ะ ยกตัวอย่างการที่ได้กลับมาเริ่มเขียนงานกับ TrueID Creator ก็ช่วยให้เรามีคุณค่ามากขึ้น การด้อยค่าตัวเองน้อยลง เมื่อบทความของเราถูกเผยแพร่ไปแล้วมีคนอ่านสัก 1 วิว จนจำนวนเพิ่มเป็นหลัก 10 หลัก 100 หลักพัน ยิ่งทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานต่อไป แทนที่จะเอาเวลาไปนั่งนอยไร้สาระ เรามาคิด Content หรือ คิดงานที่เราชอบกันดีกว่าค่ะ ใครมีอะไรที่ชอบอยู่แล้วสบายใจให้ไปคิดเรื่องนั้น ๆ แทนค่ะโรคเหล่านี้หายได้ด้วยพลังใจ พลังความคิด และพลังจากยาเป็นส่วนเสริมค่ะ ที่เรามาเล่าประสบการณ์ให้อ่านหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย แต่เราเชื่อว่าสักวันบทความนี้อาจช่วยเหลือผู้คนได้ ใครที่เริ่มรู้สึกตัวว่าจะเป็นอย่าปล่อยไว้นานไปพบคุณหมอไม่น่ากลัวเลย ต่อไปเรามาใช้ชีวิตทุกวันให้พอมีความสุขมีเรื่องดี ๆ เข้ามา ถึงแม้ว่าในวันนั้นจะเจอเรื่องแย่ก็ตามให้หาข้อดีของมันแล้วปรับปรุงพัฒนาตัวเองแทนการวิตกกังวลกันดีกว่าค่ะ สุขภาพกายสำคัญ ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพจิตกันด้วยนะคะ โรคทางด้านนี้ทานยาควบคู่ไปกับการฟื้นฟูจิตใจตัวเองสามารถช่วยให้ดีขึ้นได้ค่ะ ถ้าที่เราเขียนไปมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ขอบคุณค่ะเครดิตภาพประกอบที่ 1 Graehawk / Pixabay ภาพประกอบที่ 2 ElisaRiva / Pixabay ภาพประกอบที่ 3 Simedblack / Pixabay ภาพประกอบที่ 4 RazorMax / Pixabayภาพประกอบที่ 5 Kranich17 / Pixabay ภาพปก ตกแต่ง Canvaเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !