โกรธง่าย โมโหบ่อย ด่าเก่ง! 3 พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพที่อาจทำให้ถึงแก่ชีวิต สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาด้วยบทความที่คิดว่าหลายคนน่าจะให้ความสนใจเพราะตัวเองกำลังมีพฤติกรรม หรือคนรอบข้างกำลังมีพฤติกรรมแบบนี้อยู่นั่นก็คือ โกรธง่าย โมโห (หัวร้อน) บ่อย ด่าเก่ง ไหนใครเช็คแล้วพบทั้ง 3 ข้อนี้รีบแสดงตัวด่วนค่ะ เพราะคุณกำลังมีความเสี่ยงที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ มนุษย์เรานั้นให้ความสำคัญกับสุขภาพอยู่ 2 ส่วนหลัก ได้แก่ สุขภาพทางกาย และ สุขภาพทางใจ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้มีผลกระทบต่อกัน หากร่างกายป่วย จิตใจก็มักจะย่ำแย่ตาม หรือแม้ว่าร่างกายจะแข็งแรงดี แต่หากจิตใจอ่อนไหว ซึมเศร้า หดหู่ ก็จะพาให้ร่างกายอ่อนแอตามไปได้เหมือนกัน ดังนั้น อารมณ์ต่าง ๆ ที่เราเกริ่นไปข้างต้นนั้น มีผลร้ายแรงไม่ใช่แค่ในแง่ของสุขภาพทางจิต แต่มันยังส่งผลไปยังสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย ที่สำคัญพลอยจะทำให้คนรอบข้างสุขภาพจิตแย่ตาม วันนี้อยากชวนทุกคนมาเช็คตัวเองและคนรอบข้าง ว่าเรามีพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ไหม แล้วเราจะแก้ไขอย่างไร และถ้าหากคุณไม่แก้ ในระยะยาวคุณจะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง? รู้จัก และรู้เท่าทัน อารมณ์โกรธ อารมณ์โกรธเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ ในยุคนี้ เพราะเป็นยุคที่มีช่องทางสื่อสารกันง่าย แค่โพสด่ากันก็หัวร้อนเป็นเรื่องเป็นราวได้ เป็นยุคของการใส่สีตีไข่ ยั่วยุให้เกิดอารมณ์เกลียด โกรธกันได้ง่ายมาก ๆ หากไม่มีสติยับยั้ง และไตร่ตรองมากพอ ทั้งพฤติกรรมของเราก็เปลี่ยนไปตามความรวดเร็วของเทคโนโลยี หลายคนรอไม่เป็น หลายคนหงุดหงิดเพราะความไม่ได้ดั่งใจ หรือแม้กระทั่งคันหน้าไฟเขียวแล้วออกตัวช้า ก็โกรธบีบแตรด่าได้แล้ว หลายคนมองว่าความโกรธก็แค่อารมณ์ที่เกิดขึ้นแล้วหายไป แต่ไม่ใช่เลย เพราะความโกรธนั้นส่งผลต่อสุขภาพจิตอย่างไม่รู้ตัว สังเกตตัวเองดูว่า เมื่อคุณปล่อยให้อารมณ์โกรธครอบงำ คุณจะเกิดอาการหัวร้อนบ่อยขึ้น ด่าคนอื่นบ่อยขึ้นไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ลามไปถึงคนใกล้ชิด แฟน พ่อแม่ จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ บางคนถึงขั้นทำร้ายข้าวของ ทำร้ายร่างกายคนอื่น หรือ ทำร้ายตัวเองเลยก็มี ดังนั้นความโกรธไม่ใช่แค่อารมณ์ที่เกิดขึ้นแล้วจบไป แต่มันส่งผลกระทบในวงกว้างต่อตัวเองและคนรอบข้าง เราควรจะรู้เท่าทันความโกรธ และหาทางสงบสติอารมณ์ตัวเองให้ได้ photo: https://unsplash.com/photos/r-enAOPw8Rs อาการของความโกรธ สิ่งหนึ่งที่เราจะสามารถรู้เท่าทันอารมณ์โกรธของตัวเองได้ คือการสังเกตอาการ เมื่อใดที่เราเริ่มฉุนเฉียว หัวใจเต้นแรง รู้สึกมือไม้สั่น หน้าสั่นจนควบคุมไม่ได้ กล้ามเนื้อเกร็งไปแทบทุกส่วน ตัวร้อนรุ่มเหมือนกำลังจะระเบิด แบบนี้คืออาการของความโกรธที่ควรจะรีบหาทางออกอย่างยิ่ง วิธีระงับความโกรธนั้นมีหลากหลายวิธี แล้วแต่บุคคลิกของแต่ละคน บางคนเลือกที่จะเดินหนีสถานการณ์นั้น ๆ เพื่อดับอารมณ์ บางคนเลือกที่จะร้องไห้ ระบายความอัดอั้น บางคนเลือกที่จะนับ 1-100 เพื่อให้ใจเย็นลงและพยายามเรียกสติ แต่ทั้งหมดนั้นก็อาจจะไม่ได้ผลหากเราไม่ได้มีสติควบคุมอารมณ์ตัวเองมากพอ ต้องควบคุมตัวเองให้ดี และคิดถึงผลเสียหายเอาไว้ให้เยอะก่อนจะลงมือทำอะไรลงไป photo: https://unsplash.com/photos/YpFtdLBNIvo ความโกรธเสี่ยงต่อการเป็นโรคอะไรบ้าง จากผลวิจัยหลายชิ้นชี้ชัดเลยว่า ความโกรธนั้นไม่ได้หายไปไหน แต่มันส่งผลกับร่างกายเราทีละน้อย และอาจจะเป็นที่มาของโรคที่คุณไม่คาดคิดว่าจะเป็นก็ได้ อาทิ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง (อาจจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้) โรคซึมเศร้า โรคเครียด และ โรควิตกกังวล หรือบางคนมีอาการปวดหัวไมเกรนได้ เห็นไหมว่าแค่ความโกรธนั้นทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้มากมาย นี่ยังไม่รวมถึงอาการทางจิตที่อาจจะเกิดความเศร้า ความหดหู่ หมดความเคารพนับถือตัวเอง หรือการถูกปฏิเสธจากคนรอบข้างด้วย หรือถ้ารุนแรงที่สุดอาจจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท การทำร้ายร่างกายกันจนถึงแก่ชีวิตตามแบบในข่าวที่เราเห็นกันทุกวันตอนนี้ก็ได้ ซึ่งมันไม่คุ้มเลยที่จะเอามาแลก photo: https://unsplash.com/photos/sxQz2VfoFBE เราจะฝึกตัวเองให้เป็นคนไม่ขี้หงุดหงิด ไม่ด่า ไม่โกรธ ยังไง? วิธีการฝึกตัวเองให้กลายเป็นคนที่มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น โกรธน้อยลง ให้อภัยมากขึ้นนั้นทำได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย เริ่มจากการพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะมากระตุ้นความรู้สึกของเรา เช่น เรารู้ตัวว่ามีคนไม่ชอบเรา และมักจะพูดเหน็บแนมเราบ่อย ๆ ให้เราเอาตัวออกมาให้ห่างจากคนคนนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะคารมกัน หรือ หากรู้ตัวว่าเป็นคนหงุดหงิด อารมณ์ร้อนมากเวลาขับรถ ให้เลือกที่จะตื่นเช้าขึ้น ออกจากบ้านไวขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด ไม่พาตัวเองไปอยู่กับสถานการณ์ที่บังคับให้ใจเราแย่ลง เมื่อเจออะไรที่ไม่พอใจ อย่าเพิ่งด่า ให้เงียบและให้อภัยเข้าไว้ หัดทำอะไรช้าลง และเห็นใจคนอื่นมากขึ้น อ่านหนังสือที่ช่วยบรรเทาความร้อนรุ่มในใจ ศึกษาธรรมมะ คบกับคนใจเย็น คนที่มองโลกในแง่บวก ฝึกวิเคราะห์ปัญหาบ่อย ๆ และมองโลกอย่างเข้าใจ แค่นี้คุณก็จะกลายเป็นคนที่ใจเย็น น่ารักน่าอยู่ใกล้แล้ว photo: https://unsplash.com/photos/jsN4NYG0DRk ความโกรธก็เป็นเหมือนยาพิษ คุณคงไม่อยากกินยาพิษทุกวันหรอกใช่ไหมคะ และคุณก็คงไม่อยากให้คนที่คุณรักรอบ ๆ ตัวกินยาพิษเข้าไปเหมือนกัน ดังนั้นจงเปลี่ยนยาพิษเป็นน้ำผึ้ง ที่หอมหวานและน่าอยู่ใกล้ นอกจากจะปลอดภัยจากโรคร้ายทั้งหลายแล้ว ยังจะทำให้คุณเป็นคนมีเสน่ห์ และเป็นที่รักของทุก ๆ คนที่ได้พบเจอด้วย :)