ในปัจจุบันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าในทุก ๆ วันเราจดจ่ออยู่กับการเล่นโทรศัพท์มือถือหรือการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ พฤติกรรมเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอาการตาล้าหรือปวดตาได้ วันนี้เราจึงมานำเสนอ 6 วิธีแก้อาการตาล้าง่าย ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ1. การพักสายตา ควรละสายตาจากหน้าจอทุก ๆ 30-40 นาที เพื่อเป็นการพักสายตา หลับตาหรือมองออกไปไกล ๆ ประมาณ 5-10 นาที เพื่อ ให้กล้ามเนื้อตาได้คลายความเมื่อยล้า2. การบริหารดวงตา การบริหารดวงตาง่าย ๆ คือ หน้าตั้ง คอตรง ค่อย ๆ กลอกตาเป็นวงกลม ตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกา ทำซ้ำ 1 ถึง 2 ครั้ง ทุก ๆ ชั่วโมง เพื่อช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตา3. กระพริบตาบ่อย ๆอาการตาล้ามักเกิดจากการที่แทบจะไม่มีการกระพริบตาเลย เราจึงควรพยายามกระพริบตาให้บ่อยครั้งกว่าปกติ เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาและดวงตามีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ คนส่วนใหญ่เมื่อจดจ่อกับหน้าจอมือถือหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็มักจะลืมที่จะกระพริบตา หลังจากนี้ก็อย่าลืมกระพริบตาบ่อย ๆ เพื่อช่วยลดอาการอ่อนล้าของสายตานะคะ4. การประคบรอบดวงตาหลังใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์นาน ๆ ทำให้ดวงตาของเราอ่อนล้า การประคบร้อนและเย็นรอบดวงตาสลับกัน จะช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้ โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น ระวังอย่าให้ร้อนเกินไป มาประคบรอบดวงตาเป็นเวลา 30 วินาที หลังจากนั้นสลับมาใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบอีก 30 วินาที ทำสลับกันต่อเนื่องประมาณ 2-3 นาที เมื่อทำเสร็จแล้วให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดและนวดเบา ๆ บริเวณรอบดวงตา เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นขึ้นได้ค่ะ5. ลองออกไปข้างนอกบ้างควรละสายตาจากหน้าจอออกไปข้างนอกเพื่อสูดอากาศและรับแสงที่แตกต่างจากในห้องบ้าง เพราะถ้าเราเล่นมือถือหรือคอมพิวเตอร์อยู่ในห้องนาน ๆ จะทำให้สายตาเราชินกับแสงเดิม ๆ ทำให้เกิดความเครียดได้ และเมื่อออกไปข้างนอกก็ควรกวาดสายตาไปรอบ ๆ มองสิ่งต่างๆ แบบไม่ต้องจ้องมองนาน ๆ เพราะอาการดวงตาอ่อนล้าเกิดจากการจ้องมองบางอย่างเป็นเวลานาน เช่น โทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้เพื่อให้ดวงตาได้พักผ่อนหลังจากการใช้งานเป็นเวลานาน6. ทานอาหารที่มีประโยชน์และช่วยบำรุงสายตาอาหารบำรุงสายตาก็คือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงสายตาโดยตรง ผักใบเขียวและผลไม้ เช่น แครอท อะโวคาโด ฟักทอง ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง ฯลฯ เหล่านี้อุดมไปด้วย ลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระอย่างหนึ่ง หวังว่าคำแนะนำข้างต้น 6 วิธีแวิธีแก้อาการตาล้า จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และถ้าหากใครรู้ตัวว่าใช้สายตานาน ๆ ลองพักสายตาและทำตามคำแนะนำข้างต้นดูนะคะเขียนโดย: smile:)ขอขอบคุณรูปภาพจาก pixabey.comภาพปก/ภาพที่ 1/ภาพที่ 2/ภาพที่ 3/ภาพที่ 4/ภาพที่ 5/ภาพที่ 6
