ชาวออฟฟิศหลายคน เมื่อนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ หลายชั่วโมง มักจะพบอาการปวดหลัง ไหล่ คอ ปวดหัว ปวดตา หรือ ชาที่มือ ที่แขน อยู่เป็นประจำ ซึ่งอาการเหล่านั้น เรียกว่า โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ถือเป็นโรคยอดฮิตของคนวัยทำงานเลยก็ว่าได้ เป็นอาการที่เกิดจากการที่เรานั่งทำงานในท่าเดิมติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้กล้ามเนื้อ กระดูกข้อต่อ เอ็น และเส้นประสาท เกิดการเสียสมดุล นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทั้งระบบการไหลเวียนเลือด การย่อยอาหาร การมองเห็น แถมยังทำให้นอนหลับยากอีกด้วย อาการของออฟฟิศซินโดรมที่พบได้ คือ ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ เป็นระยะเวลานาน อาการปวดศีรษะ หรือปวดหัวไมเกรนบ่อยขึ้น อาการมือชา เอ็นอักเสบ ถ้ามีอาการเหล่านี้อยู่เป็นประจำ รู้ไว้เลยว่า คุณกำลังเผชิญกับออฟฟิศซินโดรม แล้วจะทำอย่างไร ? ให้อาการเหล่านี้หายไปได้ ก็ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน เพราะหากบ่อยไว้นาน ๆ อาจมีอาการเรื้อรังจนต้องรักษาด้วยการกายภาพบำบัดในที่สุด 5 เคล็ดลับ ทำได้ง่าย ๆ ให้หายจาก "ออฟฟิศซินโดรม" ขอบคุณรูปภาพจาก freepik.com 1. ปรับระดับโต๊ะทำงานให้เข้ากับตัวเอง ควรปรับระดับความสูงของโต๊ะทำงานและเก้าอี้ ให้เรานั่งแล้วรู้สึกสบาย ไม่สูงหรือต่ำเกินไป ทางที่ดี คือ หน้าจอคอมพิวเตอร์จะต้องอยู่ในระดับสายตา ห่างออกจากตัวประมาณ 2 ฟุต และแสงหน้าจอไม่ควรสว่าง หรือ มืดจนเกินไป ให้อยู่ในระดับที่รู้สึกสบายตาจะดีที่สุด ขอบคุณรูปภาพจาก freepik.com 2. หากเมื่อยล้า พักสักหน่อย อย่าทำงานจนลืมที่จะดูแลสุขภาพตัวเอง เพราะบางครั้งการทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ทำให้เสียสุขภาพ โดยเฉพาะการจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจทำให้สายตาเสียได้ แนะนำว่า ควรแบ่งเวลาพักสายตา ทุก ๆ 15 นาที ให้พักจากการมองหน้าจอ ไปมองที่อื่นบ้าง และถ้าเริ่มรู้สึกตาพร่ามัว ให้ลองหลับตา พักสายตาสักครู่ จะได้กลับมาทำงานอย่างสดใส แต่อย่าเผลอหลับยาวโดยไม่รู้ตัวนะ เดี๋ยวงานจะไม่เสร็จเอาล่ะ ! หรือการกระพริบตาบ่อย ๆ รวมถึงการใช้น้ำตาเทียม ก็ช่วยลดอาการตาแห้งได้เช่นกัน ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash.com 3.วางข้อศอกถูกที่ ก็ช่วยได้ การวางข้อศอกที่ถูกต้อง ควรวางในระดับเดียวกันกับคีย์บอร์ด จัดที่นั่งให้รู้สึกสบาย ไม่เกร็งจนเกินไป นอกจากนี้ ระหว่างนั่งทำงาน ไม่ควรนั่งหลังค่อมหรือนั่งห่อไหล่ ขอบคุณรูปภาพจาก freepik.com 4. ลุกบ้าง นั่งบ้าง จะได้ผ่อนคลาย เมื่อนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ และรู้สึกเมื่อยล้า แนะนำให้เปลี่ยนอิริยาบท เช่น ลุกขึ้นยืน ยืดแขน ยืดกล้ามเนื้อคอ บริหารหัวไหล่และข้อมือ หรือปรับเปลี่ยนท่านั่ง ทุก ๆ 20 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ตามความเหมาะสม ก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย ไม่ทำงานหนักจนเกินไป ขอบคุณรูปภาพจาก freepik.com 5. ออกกำลังกายเป็นประจำ ให้กล้ามเนื้อแข็งแรง การออกกำลังกาย แน่นอนว่ามีผลดีกับสุขภาพอยู่แล้ว เพราะนอกจากจะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงแล้ว ยังทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทาน ช่วยปรับสมดุลของกล้ามเนื้อ อก บ่า ไหล่ และกล้ามเนื้อสะโพก ซึ่งการออกกำลังกาย ควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน หากเราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทั้งหมดนี้ได้ รับรองเลยว่าอาการออฟฟิศซินโดรม จะไม่มากวนใจเราอีกแน่นอน แต่ถ้าใครสงสัยว่าตัวเองกำลังเผชิญกับโรคออฟฟิศซินโดรมอยู่หรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาและขอคำแนะนำจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้อาการเหล่านั้นเรื้อรัง จนส่งผลเสียต่อการทำงาน หรือการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ขอบคุณสาระ ๆ ดีจาก healthaddict.com