เชื่อแน่ว่า “น้ำอัดลม” เป็นเครื่องดื่มสุดโปรดของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายสดชื่น ดับการกระหายน้ำ และแก้เลี่ยนของรสชาติอาหารเวลาดื่มแล้ว ยังเป็นเครื่องดื่มที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านอาหาร, ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ในตู้เย็นที่บ้านอีกด้วยค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วน้ำอัดลมเหล่านี้กลับให้โทษต่อสุขภาพร่างกายของเรามากมาย เนื่องจากในน้ำอัดลมมีทั้งคาเฟอีน, น้ำตาล, กรดต่าง ๆ, สารแต่งกลิ่นและรส และสารกันบูด สำหรับใครที่คิดและตัดสินใจจะเลิกดื่ม แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มด้วยวิธีไหนดีล่ะก็... แวะมาอ่าน 5 วิธีบอกเลิก “น้ำอัดลม” กันก่อนค่ะ ^^1. ค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่ม น้ำอัดลมถึงแม้จะดูเลิกไม่น่ายากเท่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเบียร์และสุรา แต่การเลิกดื่มน้ำอัดลมแบบลาขาดไปก็น่าจะใช้วิธีการที่คล้าย ๆ กัน คือ ควรค่อย ๆ ลดปริมาณในการดื่มให้น้อยลงนั่นเองค่ะ สำหรับใครที่ปกติแล้วจะดื่มน้ำอัดลมแบบจัดหนัก จัดเต็ม วันละหลาย ๆ แก้ว อาจลดเหลือมาเป็นดื่มวันละ 1 แก้วก็พอ จากนั้นก็ค่อย ๆ ลดเป็นสัปดาห์ละ 2-3 แก้ว และเดือนละ 1 แก้วตามลำดับ ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัวให้สามารถเลิกดื่มน้ำอัดลมในระยะยาวได้ดีขึ้นกว่าการหักดิบเลิกดื่มน้ำอัดลมในทันทีค่ะ 2. เปลี่ยนมาดื่มน้ำผลไม้แทน วิธีการเปลี่ยนมาดื่มน้ำผลไม้แทนการดื่มน้ำอัดลมถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผลไม่แพ้กันค่ะ ซึ่งน้ำผลไม้ที่ว่านี้อาจเป็นน้ำผลไม้ที่ชอบ อย่างเช่น น้ำส้ม, น้ำมะนาว, น้ำลิ้นจี่ หรือน้ำฟรุตพั้นช์ก็ได้ค่ะ แต่หากใครที่ชอบความซาบซ่าแบบน้ำอัดลมอาจเพิ่มน้ำโซดาลงไปก็จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ไม่แพ้กัน และยิ่งถ้าเป็นน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ ยิ่งมีรสเปรี้ยวมากเท่าไหร่ ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะรสเปรี้ยว ๆ ของน้ำผลไม้ทำให้อาการอยากดื่มน้ำอัดลมลดน้อยลง วิธีนี้เราเคยลองทำมาแล้วได้ผลค่ะ!3. ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ วิธีการดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะน้ำเปล่าเป็นน้ำดื่มที่ปลอดภัย และไม่มีสารเคมีอื่นใดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเลยค่ะ โดยอาจใส่น้ำแข็งลงในน้ำเปล่าให้น้ำเย็น ๆ ช่วยให้เวลาดื่มแล้วรู้สึกชื่นใจและดับกระหายน้ำได้ไม่แพ้น้ำอัดลมเลยค่ะ หรือหากใครชอบดื่มน้ำแร่ก็สามารถดื่มได้เช่นกันค่ะ แต่ถ้าใครรู้สึกทนไม่ไหว อยากเลิกดื่มแต่ก็อดไม่ได้จริง ๆ อาจดื่มน้ำเปล่าก่อนอย่างน้อย 1 แก้วใหญ่ ๆ แล้วค่อยดื่มน้ำอัดลม จะช่วยให้ความอยากดื่มน้ำอัดลมลดน้อยลงได้ค่ะ 4. ดื่มนิดเดียวพอแบบจิบ ๆ ให้ได้รู้รสชาติ วิธีการดื่มน้ำอัดลมพอแบบจิบ ๆ ให้ได้รู้รสชาติก็เป็นวิธีที่ดีไม่ใช่น้อยเช่นกันค่ะ เพราะเวลาที่เราจิบน้ำอัดลมจะช่วยให้ดื่มไม่ได้เยอะ แค่พอให้รู้รสชาติ เหมือนเป็นการบังคับและหักห้ามใจตัวเองไปในตัว แต่หากทนไม่ได้ อยากดื่มมากจริง ๆ ก็อาจแค่จิบน้ำอัดลมแล้วค่อยดื่มน้ำเปล่าตามก็ได้ค่ะ5. ดื่มเฉพาะในโอกาสสำคัญ ๆ การดื่มน้ำอัดลมเฉพาะในโอกาสหรือเทศกาลสำคัญ ๆ อย่างในงานเลี้ยงสังสรรค์หรือฉลองวันสำคัญต่าง ๆ หรือการกินอาหารบางอย่างที่ต้องควบคู่กับน้ำอัดลมด้วยถึงจะอร่อยขึ้น เช่น หมูกระทะ, พิซซ่า, อาหารฟาสต์ฟู้ด หรือส้มตำค่ะ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้สามารถควบคุมการดื่มน้ำอัดลมให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมได้จนไม่กลับไปติดน้ำอัดลมอย่างแน่นอนค่ะ เมื่อก่อนเราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยดื่มน้ำอัดลมบ่อยเหมือนกัน ถึงจะไม่บ่อยขนาดต้องดื่มทุกวันก็ตาม และด้วยความที่ดื่มน้ำอัดลมบ่อย ๆ เข้าก็รู้สึกว่าเวลาดื่มทีไรจะรู้สึกปวดท้องทุกที ปวดเหมือนมีกรดหรือลมอยู่ในท้องจนอยากเรอตลอดเวลา บางครั้งก็เหมือนแสบกระเพาะ จึงตัดสินใจเลิกดื่มน้ำอัดลมอย่างเด็ดขาด หรือไม่ก็ดื่มบ้างในบางครั้ง ส่วนมากจะแค่จิบ ๆ พอค่ะ ส่วนวิธีการเลิกดื่มน้ำอัดลมนั้นเราจะใช้ทั้ง 5 วิธีในคราวเดียวกันค่ะ คือ ค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่มแล้วหันมาดื่มน้ำผลไม้ผสมมะนาวหรือไม่ก็โซดาแทน เพื่อให้ความอยากดื่มน้ำอัดลมลดลง ประกอบกับดื่มน้ำเปล่าแบบเย็น ๆ ให้มาก ๆ แต่ถ้าอยากดื่มจนทนไม่ไหวจริง ๆ ก็จะพยายามจิบหรือดื่มนิดเดียวพอให้รู้รสชาติแล้วตามด้วยการดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ หลังจากนั้นเป็นต้นมาเราก็จะดื่มเฉพาะเวลามีงานเลี้ยงฉลองหรือไม่ก็กินอาหารบางชนิด เช่น พิซซ่า หรือหมูกระทะค่ะ พอเราเลิกดื่มน้ำอัดลมแล้วก็รู้สึกว่าไม่ปวดท้องกระเพาะอาหารอีกเลย แถมระบบขับถ่ายหรือระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นค่ะ ^^ เพียงแค่อ่านแล้วทำตาม 5 วิธีนี้ ก็จะช่วยให้สามารถเลิกดื่มน้ำอัดลมได้อย่างแน่นอนค่ะ สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ “ใจ” ค่ะ ถ้าควบคุมตัวเองไม่ให้ดื่มได้จะเป็นผลดีที่สุดค่ะ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของตัวเอง ยังไงก็ขอให้เลิกดื่มน้ำอัดลมได้สำเร็จนะคะ สู้ ๆ ค่ะ ✌️✌️✌️ เครดิตภาพ หน้าปก (ภาพที่ 1): @fjcorado / Pixabayภาพที่ 2: @lifeforstock / Freepikภาพที่ 3: @kamranAydinov / Freepikภาพที่ 4: @tawachai07 / Freepikภาพที่ 5: @garetsvisual / Freepikภาพที่ 6: @stockking / Freepikออกกำลังกายอยู่บ้านได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !