ภาพโดย ผู้เขียนบทความ รางจืดเป็นพืชสมุนไพรที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักกันดี สรรพคุณทางยาของรางจืดมีมากมายแต่ที่เด่น ๆ ที่เคยได้ยินได้ฟังกันมาเสมอคือ สรรพคุณแก้พิษเบื่อเมาแทบทุกชนิด คนโบราณจะใช้รางจืดในการรักษาพิษมานานแล้ว แต่คนปัจจุบันเพิ่งเริ่มหันมาสนใจ รางจืดเริ่มเป็นที่รู้จักจากหน้าข่าวเกี่ยวกับการแพ้พิษชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพ้พิษจากการรับประทานเห็ดเมาเข้าไป หรือแม้กระทั้งแพ้พิษจากการรับประทานแมงดาทะเลซึ่งพิษแมงดาทะเลนี้ร้ายแรงมากที่ผ่านมาใครรับประทานไข่แมงดาทะเลพิษเข้าไปเป็นอันว่าไม่รอดเกือบทุกราย ภาพโดย https://bit.ly/38DH29S ขึ้นชื่อว่าอาหารทะเลคนจำนวนไม่น้อยชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา หมึก ล้วนทำอะไรรับประทานก็อร่อยทั้งสิ้น ทั้งต้ม ผัด ยำ และมีอาหารทะเลบางชนิดที่เป็นอาหารจานโปรดของใครหลาย ๆ คน นั้นคือ ยำไข่แมงดาทะเล เวลาไปรับประทานอาหารทะเลหนึ่งในเมนูยอดฮิตที่ต้องมีติดร้านแทบทุกร้านก็ต้องเมนูนี้เลย แค่พิมพ์น้ำลายก็ส่อแล้วหิวกันเลยทีเดียว ยำไข่แมงดาทะเลจานหนึ่งต่ำ ๆ ราคาก็เริ่มที่หลักร้อย บางคนจึงนิยมซื้อไข่แมงดาทะเลสดมายำกินเองก็มี ไข่แมงดาทะเลสด ๆ ตามตลาดในพื้นที่ติดทะเลจะมีบรรจุถุงพลาสติกขายก็มีให้เห็นเป็นประจำ ใครสนใจก็ซื้อกลับบ้านไปยำกินเอง มีข้อพึงระวังในการรับประทานไข่แมงดาทะเลเช่นกัน แมงดาทะเลจะมีอยู่ 2 ชนิด คือแมงดาทะเลที่รับประทานได้เรียกว่าแมงดาจาน และแมงดาทะเลที่มีพิษเรียกว่าแมงดาถ้วยหรือเรียกอีกอย่างว่าแมงดาไฟหรือตัวเหรา ปกติตัวแมงดาทะเลเองจะไม่มีพิษแต่อาหารที่แมงดาทะเลกินเข้าไปนั้นเองที่ทำให้เกิดพิษ อาหารที่แมงดาทะเลกินแล้วก่อให้เกิดพิษได้แก่พวกแพลงก์ตอนพิษ ถ้าเกิดแมงดาทะเลตัวใดกินแพลงก์ตอนพิษเข้าไปก็จะทำให้ทั้งเนื้อและไข่ของมันเป็นพิษไปด้วย ซึ่งแมงดาจานมักไม่กินแพลงก์ตอนชนิดนี้ผิดกับแมงดาถ้วยกินแพลงก์ตอนพิษเป็นอาหาร แต่ถึงกระนั้นไม่ได้หมายความว่าแพลงก์ตอนพิษนี้แมงดาจานจะไม่กินเข้าไป ในประเทศไทยเราเองก็เคยมีรายงานว่ามีคนรับประทานไข่แมงดาจานเข้าไปแล้วเกิดพิษเช่นกันเพียงแต่ไม่ถึงกับเสียชีวิตเท่านั้น แต่ในต่างประเทศมีรายงานว่ามีคนรับประทานไข่แมงดาจานเข้าไปแล้วเกิดพิษจนเสียชีวิตมาแล้ว สันนิษฐานว่าในน่านน้ำของไทยอาจมีอาหารที่แมงดาจานชอบกินมากกว่าแพงก์ตอนพิษก็เป็นได้ ชาวประมงบางคนเคยบอกว่าตัวแมงดาทะเลทั้งสองชนิดนั้นมีพิษแต่คนที่ทำเป็นจะรู้จักเลี่ยงพิษทำให้แมงดาจานสามารถรับประทานได้ แต่สำหรับแมงดาถ้วยนั้นกินไม่ได้เลยไม่ว่าจะเป็นเนื้อหรือไข่ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดพิษต่อร่างกายมนุษย์อย่างร้ายแรง แม้มีรายงานว่ามีบางคนรับประทานแมงดาถ้วยบางตัวเข้าไปแต่ไม่ปรากฏพิษอย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุได้ว่าแมงดาถ้วยตัวไหนมีพิษตัวไหนไม่มีพิษ และที่พบว่ารับประทานไข่แมงดาทะเลเข้าไปแล้วเกิดพิษล้วนแล้วแต่เกิดจากการรับประทานแมงดาถ้วยทั้งสิ้น คราวนี้เรามาลองดูลักษณะของแมงดาทะเลทั้งสองชนิดกันค่ะ มาเริ่มด้วยแมงดาจานก่อน แมงดาจานจะมีลักษณะกระดองกว้างคล้ายจานมีลักษณะกว้างและมีขนาดใหญ่กว่าตัวเหราหรือแมงดาถ้วย หากสังเกตยากเพราะอาจต้องเอาตัวแมงดาทะเลทั้งสองชนิดมาเทียบกันจึงจะเห็นชัด ก็ให้สังเกตที่หางก็แล้วกันค่ะ หางของแมงดาจากจะมีหนามและเป็นสันเหลี่ยมเห็นได้ชัด ภาพของแมงดาจาน ให้สังเกตที่หางจะเป็นสันเหลี่ยมขึ้นมาค่ะ ภาพโดย https://bit.ly/2VZtvqp ลักษณะสำคัญของแมงดาจานและตัวเหรานั้น ให้ดูลักษณะของกระดองและหางเป็นหลัก กระดองของตัวเหราจะกลมกว่ากระดองของแมงดาจาน ดังนั้นจึงเรียกว่าแมงดาถ้วยไงคะ แต่ในบางคนอาจสังเกตโดยการดูกระดองแล้วก็ยังสับสนอยู่ดี ให้ดูที่หางจะชัดที่สุดค่ะ หางของตัวเหราหรือแมงดาถ้วยนั้นหางจะกลมค่ะ และมีข้อพึงระวังอีกอย่างคือแมงดาทะเลทั้งสองชนิดนี้มีไข่ที่เหมือนกันเป๊ะ ๆ เลยนะคะคือเป็นเม็ดกลมสีเหลือง ดังนั้นหากจะรับประทานให้ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ดีที่สุดค่ะ เพราะในบางครั้งพ่อค้าแม่ขายบางคนหากไม่ใช่ชาวประมงก็อาจจะแยกแมงดาทะเลทั้งสองชนิดไม่ออกด้วยซ้ำ และเมื่อแยกไม่ออกโอกาสที่เราจะเจอไข่ตัวเหรามีโอกาสเป็นไปได้มากนะคะ ยิ่งอยู่ในถุงพลาสติกไม่เห็นตัวเห็นแต่ไข่วางขายต่อให้ชำนาญขนาดไหนก็ดูไม่รู้แล้วล่ะค่ะ ภาพแมงดาถ้วย ให้สังเกตลักษณะจะกลมเป็นรูปทรงถ้วยและหางจะกลม ภาพโดย https://bit.ly/2Q6hFXD อาการเป็นพิษจากการประทานไข่ตัวเหราหรือแมงดาถ้วยเข้าไปจะมากจะน้อยมีสิทธิ์ถึงตายได้ค่ะ อาการที่พบหลังจากรับประทาน คือ ปากลิ้นชา ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด คลื่นไส้อาเจียน ทรงตัวไม่ได้เดินโซเซ กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต ในรายที่รับประทานเข้าไปมากอาจส่งผลต่อระบบหายใจจนล้มเหลวเพราะกล้ามเนื้อของระบบหายใจไม่ทำงานและเสียชีวิตในที่สุด วิธีแก้ไขหลังเกิดอาการเป็นพิษจากการรับประทานไข่เหราหรือแมงดาถ้วยเข้าไป เมื่อมีอาการให้รีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุดค่ะ วิธีการรักษาทางการแพทย์ปัจจุบันก็ยังไม่มีวิธีการชัดเจนมีแต่เร่งระบายพิษออกจากร่างกายให้มากที่สุด และประคับประคองอาการจนกว่าจะพ้นวิกฤต แต่มีรายงานการใช้สมุนไพรพื้นบ้านคือรางจืดในการแก้พิษเบื่อเมาจากการรับประทานไข่เหราหรือแมงดาถ้วยเข้าไปค่ะ ยกตัวอย่างเคยมีเคสของผู้ป่วยที่รับประทานไข่แมงดาถ้วยเข้าไปและมีอาการพิษกำเริบจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร ผู้ป่วยถูกนำส่งรพ.และอยู่ในอาการโคม่า ต่อมาแพทย์ให้ญาติทำใจและเตรียมตัวในกรณีเสียชีวิต แต่ญาติของผู้ป่วยเคยได้ยินเรื่องราวการใช้สมุนไพรรางจืดแก้พิษเบื่อเมา จึงขออนุญาตแพทย์ให้ญาตินำรางจืดมาใช้กับผู้ป่วย เมื่อแพทย์อนุญาตแล้วญาติผู้ป่วยจึงได้นำสมุนไพรรางจืดไปคั้นน้ำแล้วให้พยาบาลฉีดเข้าสายอาหาร หลังจากนั้นผ่านมาประมาณ 5-6 ชั่วโมง ผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัวแพทย์จึงให้ญาตินำน้ำคั้นรางจืดให้ผุ้ป่วยกินอีกทุก 3 ชั่วโมง ครั้งละ 10 ซีซี ภาพโดย ผู้เขียนบทความ ภาพโดย ผู้เขียนบทความ เป็นที่น่ายินดีที่ภายในวันนั้นอาการของผู้ป่วยพ้นวิกฤตในที่สุด เห็นได้ว่าสมุนไพรพื้นบ้านของไทยมีหลายชนิดที่มีคุณประโยชน์มหาศาล และอีกหลายชนิดที่ได้รับการวิจัยจนเป็นที่ยอมรับในเรื่องสรรพคุณทางยาในการรักษาโรค แต่ถึงกระนั้นการระมัดระวังในการกินการอยู่ก็สำคัญที่สุด เลือกรับประทานอาหารที่สะอาดและมาจากแหล่งที่ไว้ใจได้ สังเกตตัวเองว่ามีอาการผิดปกติใด ๆ หรือไม่ แพ้อาหารประเภทใดบ้างหรือเปล่า และเมื่อจะบริโภคอาหารทุกครั้งให้สังเกตว่าอาหารชนิดนั้นเราสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ฝึกปฏิบัติตัวให้เป็นปกตินิสัยเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของเราเองนะคะ