รีเซต

‘มิโด’ (Mido) ร่วมเติมความสุขส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยเรือนเวลาคอลเลกชั่นสุดพิเศษ

‘มิโด’ (Mido) ร่วมเติมความสุขส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยเรือนเวลาคอลเลกชั่นสุดพิเศษ
Faii_Natnista
16 พฤศจิกายน 2562 ( 15:00 )
572
3

     ก้าวเข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่จะได้อยู่ร่วมกันกับคนที่เรารัก ซึ่งแน่นอนว่าการมอบของขวัญแสนพิเศษให้กันและกัน ย่อมช่วยเติมเต็มบรรยากาศอันแสนอบอุ่นช่วงสิ้นปีได้อย่างแน่นอน ที่ล่าสุดแบรนด์เรือนเวลาหรูสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ ‘มิโด’ (Mido) ร่วมเติมเต็มความสุขมอบแก่เหล่าหนุ่มสาวส่งท้ายปีกับ 4 เรือนเวลาคอลเลกชั่นสุดโดดเด่น อาทิ ‘บารอนเชลลี่ เทอโน เลดี้’ (Baroncelli Tonneau Lady), ‘บารอนเชลลี่ เลดี้ เดย์ แอนด์ ไนท์’ (Baroncelli Lady Day & Night), ‘คอมมานเดอร์ บิ๊ก เดท’ (Commander Big Date) และ‘มัลติฟอร์ท ดูล ไทม์’ (Multifort Dual Time) พร้อมแนะนำเทคนิคการเลือกนาฬิกาเป็นของขวัญรับเทศกาลปีใหม่

 

 

     ‘มิโด’ (Mido) หนึ่งศตวรรษแห่งความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความยอดเยี่ยมในโลกแห่งเวลา แบรนด์นาฬิกาในเครือ สวอทช์ กรุ๊ป (Swatch Group) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (Georges Schaeren) เริ่มก่อตั้งบริษัท Mido G.Schaeren & Co. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่วันที่ 11 เดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน รวมถึงความเที่ยงตรงสูงซึ่งได้รับการรับรองจาก Contrôle Official Suisse des Chronomètres (Official Swiss Chronometer Testing Institute) หรือ COSC.

     เนื่องในโอกาสพิเศษส่งท้ายปีนี้ แบรนด์ ‘มิโด’ (Mido) ขอแนะนำเรือนเวลาคอลเลกชั่นสุดโดดเด่นอย่าง ‘บารอนเชลลี่ เทอโน เลดี้’ (Baroncelli Tonneau Lady) นาฬิกาสำหรับผู้หญิงที่เผยโฉมรูปแบบใหม่สวยล้ำสมัยด้วยเส้นโค้งที่สื่อถึงความอ่อนไหวเช่นเดียวกับผู้หญิง นาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมกับการออกแบบที่ประณีตแลดูโฉบเฉี่ยวตามแบบฉบับคอลเลกชั่นบารอนเชลลี่ เฮอริเทจ (Baroncelli Heritage) ด้านตัวเรือนเคลือบด้วย PVD สีโรสโกลด์ ขอบตัวเรือนสองชั้นช่วยเผยให้เห็นหน้าปัดสีขาวเด่น พร้อมประดับด้วยเพชรสิบสองเม็ดแทนหลักชั่วโมงเพิ่มความหรูหรา ด้านหลังตัวเรือนโค้งมนได้รับการดีไซน์ให้เข้ากับสรีระข้อมือของผู้หญิง ส่วนหน้าปัดปิดทับด้วยกระจกแซฟไฟร์ทนแรงกระแทกและรอยขีดข่วน พร้อมขับเคลื่อนด้วยกลไกที่ได้รับมาตรฐานจาก COSC.

 

 

     ต่อมาที่คอลเลกชั่น ‘บารอนเชลลี่ เลดี้ เดย์ แอนด์ ไนท์’ (Baroncelli Lady Day & Night) นาฬิกาสำหรับหญิงสาวที่มีคอนเซ็ปต์หนึ่งเรือนเวลาที่สะท้อนได้ถึงสามอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นสุขุม ภูมิฐาน หรือหรูหราอย่างเหนือระดับ ถูกผสมผสานให้อยู่ในนาฬิกาเพียงเรือนเดียวเพียงแค่ปรับเปลี่ยนสายตามไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ ได้แก่ สายหนังสีดำแบบกึ่งด้านที่เหมาะสำหรับหญิงสาวผู้ต้องการความเรียบโก้และน่าเชื่อถือ ต่อมาที่สายหนังสีแดงเคลือบแลคเกอร์ให้แวววาวขึ้น เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่ต้องการนาฬิกาดีไซน์หรูสำหรับใส่ออกงาน และสายผ้าลวดลายซาตินสีเทา ซึ่งเหมาะสำหรับเวิร์คกิ้งวูแมนที่ชื่นชอบความเรียบง่ายและมีไลฟ์สไตล์ที่คล่องตัว โดยสายทั้งสามรูปแบบนี้สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตัวเรือนทรงกลมสแตนเลสสตีล ซึ่งถูกสร้างสรรค์ให้ลงตัวกับชุดหน้าปัดสีขาวมุก พร้อมลวดลายสวยสะดุดตาบนหน้าปัด อีกทั้งยังเพิ่มการประดับเพชรในตำแหน่งตัวเลข 3, 9 และ 12 ซึ่งช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้นาฬิการุ่นดังกล่าวได้เป็นอย่างดี รวมถึงการติดตั้งกลไกรหัสคาร์ลิเบอร์ 80 ที่มีกำลังสำรองสูงถึง 80 ชั่วโมง

 

 

     ถัดมาที่คอลเลกชั่นสำหรับผู้ชาย ‘คอมมานเดอร์ บิ๊ก เดท’ (Commander Big Date) นาฬิกาออโตเมติกอันสง่างามที่ยังคงงานดีไซน์ตามแบบฉบับของรุ่นคอมมานเดอร์ไม่เสื่อมคลาย ด้วยหน้าปัดขนาดใหญ่ ที่มีจุดบอกเวลาเป็นตัวเลขแบบขีด และมีช่องบอกวันที่ตรงบริเวณเลข 6 ของหน้าปัด ผลิตโดยช่างทำนาฬิกาชั้นสูงที่ผสานกลไกทรงประสิทธิภาพด้วยพลังงานสำรองยาวนานกว่า 80 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับกลไกนาฬิกามาตรฐานทั่วไปที่มีระยะเวลาเพียง 42 ชั่วโมง

 

 

     ปิดท้ายที่ ‘มัลติฟอร์ท ดูล ไทม์’ (Multifort Dual Time) เรือนเวลาสำหรับนักเดินทาง ที่มาพร้อมกับกลไกระดับสุดยอดของแบรนด์ Caliber 80 ให้พลังงานสำรองยาวนานกว่า 80 ชั่วโมง ด้านตัวเรือนทรงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร ผ่านการขัดแต่งด้วยลวดลายซาตินขัดเงาให้สัมผัสที่แข็งแกร่ง เคลือบด้วย PVD สีโรสโกลด์เพิ่มความหรูหรา เสริมลุคให้ดูเคร่งขรึมและภูมิฐานด้วยลวดลายบนหน้าปัดแบบเจนีวา สไตรป์ (Geneva Stripes) สีดำแอนทราไซต์ที่วางตัวในแนวตั้งซึ่งสื่อถึงสายเคเบิลที่รองรับน้ำหนักและการสั่นสะเทือนที่ถูกขึงอยู่บนสะพานข้ามอ่าวซิดนีย์ พร้อมชุดเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีมีการตกแต่งแบบไดมอนด์-คัต ขัดแต่งลวดลายซาติน และตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกาบนหน้าปัดถูกออกแบบให้เป็นช่องแสดงวันที่พร้อมลูกเล่นที่เพิ่มหน้าปัดอีกหนึ่งไทม์โซนเหมาะกับนักเดินทาง ปิดครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทนแรงกระแทกและรอยขีดข่วน พร้อมเคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน ปิดทับฝาหลังแบบใสสามารถมองเห็นกลไกการทำงานได้

     นอกจากนี้ทางแบรนด์ ‘มิโด’ (Mido) ยังได้แนะนำเทคนิคการเลือกนาฬิกาเป็นของขวัญรับเทศกาลปีใหม่นี้ เริ่มที่เรือนเวลาที่เหมาะกับ หนุ่มสาวนักธุรกิจ ที่ต้องการลุคที่ดูภูมิฐาน มีความน่าเชื่อถือเป็นสำคัญ นาฬิกาที่เหมาะสำหรับเป็นของขวัญแก่หนุ่มสาวนักธุรกิจ ควรเลือกเป็นนาฬิกาดีไซน์คลาสสิกสามารถสวมใส่เข้ากันได้ดีกับทั้งชุดสูทหรือชุดเดรส อย่างสายสแตนเลสตีลแบบต่อข้อ หรือสายหนังโทนสีดำหรือสีน้ำตาล ส่วนด้านตัวเรือนอาจจะเลือกหน้าปัดวงกลม หรือหน้าปัดสี่เหลี่ยมก็ดูเหมาะสม สำหรับมอบให้สาวๆ อาจเลือกที่มีเพชรตกแต่งประดับหน้าปัดช่วยเสริมลุคเพิ่มความหรูหรามากยิ่งขึ้น

     ต่อมาที่ หนุ่มสาวมินิมอล การเลือกนาฬิกาเป็นของขวัญสำหรับหนุ่มสาวสายมินิมอลนั้น สามารถเลือกเป็นนาฬิกาที่มีดีไซน์เรียบๆ โทนสีเบสิก อย่างสีขาวหรือสีดำ อาจจะเลือกเป็นสายหนังเรียบ หรือสายผ้าสีพื้น ที่มีหน้าปัดทรงกลมแบนขนาดพอดีกับข้อมือ เพราะจะไม่ทำให้นาฬิกาโดดเด่นกว่าเสื้อผ้าได้

     ถัดมาที่ หนุ่มสาวนักเดินทาง ควรจะเน้นเลือกนาฬิกาที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชันเป็นอันดับแรก เช่นหน้าปัดที่สามารถบอกได้ถึง 2 ไทม์โซนที่เหมาะสำหรับเดินทาง กลไกมีความทนทาน ได้รับมาตรฐานการรับรองจากCOSC.ต่อมาอาจจะเลือกดีไซน์ตัวเรือนที่เน้นความคลาสสิกเหนือกาลเวลาในโทนสีเข้ม และอาจเลือกเป็นสายหนัง หรือสายสแตนเลสสตีลที่เหมาะกับการมิกแอนด์แมทช์เข้ากับเสื้อผ้าทุกสไตล์ได้อย่างลงตัว

    ร่วมเลือกเรือนเวลาดีไซน์หรูมอบเป็นของขวัญในช่วงโอกาสพิเศษส่งท้ายปีจากแบรนด์ ‘มิโด’ (Mido) นาฬิกาดีไซน์หรูคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ ‘มิโด’ (Mido) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง