ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี พ.ศ.2561 ที่บ้านเราเริ่มตื่นตัวเรื่อง ฝุ่น PM 2.5 ช่วงนั้นเป็นที่รู้กันดีว่า มีคนป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจกันมาก โดยเฉพาะเด็กที่เริ่มต้นจากการเป็นหวัดจากเชื้อไวรัส ต่อมามีอาการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ทำให้บวม เป็นหนองในโพรงจมูก จนกลายมาเป็นโรคฮิตติดดาวที่เด็กพบเจอบ่อยที่สุด นั่นก็คือ ไซนัสอักเสบลูกสาวของเราก็เป็นหนึ่งในเด็กที่เป็นไซนัสอักเสบครั้งแรก ต้อนรับฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นช่วงปลายปี พ.ศ. 2561 ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับฝุ่นหรือเปล่า หรือว่าลูกสาวภูมิต้านทานต่ำในตอนนั้นก็ไม่รู้ แต่ปกติแล้ว ลูกสาวเราเป็นคนค่อนข้างแข็งแรง ตั้งแต่เกิดจนอายุ 12 ปี เคยต้องนอนโรงพยาบาลแค่ครั้งเดียวตอนอายุ 10 เดือน หลังจากนั้นก็ไปโรงพยาบาลบ้างตามเรื่องปกติของเด็กเธอเริ่มต้นด้วยอาการไอแห้ง ๆ โดยที่ไม่มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เลยให้กินยาแก้ไอธรรมดา 1 อาทิตย์ไม่ดีขึ้น สัญญาณที่เริ่มรู้สึกว่ามีปัญหาแล้วก็คือ เสียงเปลี่ยนไป อู้อี้ เสียงเหมือนคนเป็นหวัด ทั้ง ๆ ที่ไม่มีน้ำมูก ไม่ตัวร้อนก็เลยพาไปคลินิก หมอตรวจดูแล้วก็ไม่เจออะไรจริง ๆ ได้ยาภูมิแพ้มา เป็นตัวละลายเสมหะเม็ดฟู่ หลังจากนั้น เริ่มไอหนักแล้วค่ะ คราวนี้นอนกันไม่ได้เลย ต้องตื่นมาไอเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ไอจนเหนื่อย ไม่ได้หลับนอน ตอนกลางวันก็ไอ เริ่มมีน้ำมูกแล้ว ก็เลยไปโรงพยาบาลใหญ่ เจาะจงพบหมอหูคอจมูก พบว่าเป็นไซนัสอักเสบจริง ๆ อยู่ตรงโพรงข้างจมูก 2 ข้าง ให้ยามากินรวม ๆ ประมาณ 8 ตัว ยาพ่นอีก 1 ตัว ยาแก้อักเสบที่ใช้คือ Augmentin 1 กรัม พอครบ 7 วันไม่ดีขึ้น ก็เปลี่ยนยามาเป็น Meiact 100 mg กินไปก็ไม่ดีขึ้น ล้างจมูกทุกวัน น้ำมูกออกมาเป็นสีเขียว บางวันมีเลือดออกมาด้วย สรุปที่โรงพยาบาลนี้ รักษาไม่หายจริง ๆ เสียเวลารักษาที่นี่เกือบ 1 เดือนก็เลยตัดสินใจไปพบคุณหมอเด็กที่มีชื่อเสียงด้านภูมิแพ้ เปิดคลินิกอยู่แถวประชาชื่น ชื่อนายแพทย์อิสรา บุญสาธร ไปถึงเล่าให้ฟังว่าป่วยมา 47 วันแล้ว กินอะไรมาบ้าง หมอบอกว่า ให้กิน Cravit ตัวเดียว ยาอย่างอื่นอีก 7-8 ตัว ไม่ต้องกิน เหลือไว้แค่ Xyzal กับ Singulair ก็พอ (ซึ่งมีอยู่แล้ว ไม่ต้องซื้อเพิ่ม)เอ่อ...กินยามาเยอะก็ไม่หาย คุณหมอจะจ่ายยาตัวเดียวแล้วจะเอาอยู่หรือคะ ? ถามออกไปจนหมอหัวเราะ “อยู่ซิ เราต้องแก้ที่ต้นเหตุ เพราะว่าไซนัสยังไม่หาย” หมอบอกว่ายาที่จะรักษาได้ผลนี่ กินไป 3 วันต้องดีขึ้น 10 วันต้องหายสนิท ถ้า 3 วันยังไม่ดีขึ้น ต้องเปลี่ยนยาทันทีเลย โห...นี่แหละ ที่ต้องการ เอาให้มันตายไปเลย (หมายถึงเชื้อโรคค่ะ 555)ยาดีจริง แม่อย่างเรารู้ทันที กินไปวันแรกตอนเช้าหลังอาหาร ตอนเย็นกลับมาเหมือนคนปกติ ไม่ไอให้ได้ยินเลย แต่ว่ายังมีเสียงขึ้นจมูกอยู่ น้ำมูกยังมีอยู่ วันต่อไปน้ำมูกค่อย ๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นเหลือง เป็นใสขึ้น น้ำมูกค่อย ๆ ลดลง แล้วน้ำมูกก็หมดไป ฟังดูเหมือนจะดี พอครบ 10 วัน ยังไม่หายสนิท อาจจะเป็นเพราะหนองสะสมมานานหมอให้ลองเอกซเรย์โพรงจมูก ผลออกมา หนองเต็มหน้าเกือบทุกช่อง หมอบอกว่า Cravit นี่ถือว่าเป็นยาเกือบสูงสุดแล้ว ยังเอาไม่อยู่ ต่อไปต้องกินยาผสม ต้องรักษาแบบแรง ปรับยากันไปอีก สรุปว่าใช้เวลารักษาไซนัสอักเสบทั้งหมด 3 เดือนกว่าจะหายค่ะ เสียเงินไปทั้งหมดเกือบ 30,000 บาท ในเงินจำนวนนี้คือ เราซื้อยาตามร้านขายยาที่มีราคาถูกเอง โดยรับยาจากโรงพยาบาลมาบ้างเล็กน้อย แล้วไปซื้อเพิ่มข้างนอก ถ้าซื้อยาที่โรงพยาบาลทั้งหมด เราว่าน่าจะจ่ายเกือบ 50,000 บาทค่ะ เพราะยาแพงมาก บางตัวเม็ดละ 120 บาทหลังจากหายจากไซนัสอักเสบ บ้านเราขยันพาลูกออกกำลังกายอย่างหนัก ไม่อยากให้ป่วยอีกแล้ว ทรมานทั้งแม่และลูก ถึงแม้ว่าไซนัสอักเสบจะไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็สร้างความกังวลใจให้กับคนเป็นแม่อย่างเรามาก และก็ยังทำให้เป็นโรคทรัพย์จางอย่างรวดเร็วด้วย (ฮา) โรคภัยจะมาถึงเราเมื่อไรก็ไม่รู้ ทางที่ดีหมั่นออกกำลังกาย ทำร่างกายให้แข็งแรงมากที่สุดนะคะภาพทั้งหมดโดย Lek-Farmfunbook