มั่นใจเลยว่าถ้าใครที่กำลังดูแลสุขภาพ หรือกำลังควบคุมแคลอรี ลดน้ำหนัก ลดไขมัน กระชับสัดส่วนกันอยู่นั้นจะต้องมี เนยถั่ว (Peanut Butter) ติดบ้าน ติดครัวกันเอาไว้อย่างแน่นอน เพราะเนยถั่วเป็นอาหารที่มีรสชาติหวานมัน และอร่อย สามารถใช้ทำได้หลากหลายเมนู ทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาก และสามารถช่วยให้เราลดน้ำหนัก จัดการไขมันได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย (แต่ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมนะ) มา 10 ประโยชน์ที่น่าสนใจของเนยถั่วกันได้เลย รับรองว่าพอได้รู้แล้วจะต้องหลงรักและหาซื้อเนยถั่วมาติดครัวกันเอาไว้แน่ๆเนยถั่ว เนยเนื้อเนียน รสหวานมัน ที่ใครๆ ก็ชอบเนยถั่ว (Peanut Butter) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเอาถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์ พิสตาชิโอ แมคาเดเมีย ฯลฯ มาผ่านการคั่วหรืออบจนแห้ง แล้วนำไปบดให้ละเอียดและมีเนื้อเนียนจนคล้ายเนย ซึ่งส่วนผสมหลักๆ ที่พบในเนยถั่ว ได้แก่ ถั่ว น้ำมันมะกอก เกลือ น้ำผึ้ง (เพื่อปรุงรส) ซึ่งถั่วที่เป็นส่วนผสมหลักในเนยถั่วนั้นมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมาก เพราะในถั่วเปลือกแข็งเหล่านี้อย่างถั่วลิสง อัลมอนด์ แมคาเดเมีย หรือพิสตาชิโอ เป็นแหล่งสำคัญของกรดไขมันดีชนิดไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acid) รวมถึงยังอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่อื่นๆ อีกมากมาย มาดูกันเลยค่ะว่าเนยถั่วมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างไรกันบ้างเนยถั่ว กับ 10 ประโยชน์ใน 1 ปาด ไอเทมสุขภาพสุดว้าว ที่สายสุขภาพห้ามพลาดก่อนจะไปดูประโยชน์กันแบบลึกๆ มาดูคุณค่าทางพลังงานของเนยถั่วกันสักนิด เนยถั่วปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 15 กรัม)ให้พลังงาน 90 kcal (เป็นพลังงานจากไขมัน 70 kcal)โปรตีน 4 กรัมคาร์โบไฮเดรต 3 กรัมน้ำตาลประมาณ 2 กรัมซึ่งปริมาณของแคลอรีก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละยี่ห้อ ที่อาจจะมีส่วนผสมแตกต่างกันไป อินโทรกันมายาวยืดว่าแล้วก็มาดู 10 ประโยชน์สุดเด็ดของเนยถั่วกันได้เลยค่ะเนยถั่วเป็นแหล่งของไขมันดี เพราะเนยถั่วนั้นทำมาจากถั่วเปลือกแข็ง ในถั่วแต่ละชนิดล้วนอัดแน่นไปด้วยกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ซึ่งจัดเป็นไขมันดีที่มีความจำเป็นต่อร่างกายของเราอย่างมาก ไขมันดีตัวนี้จะมีส่วนช่วยลดปริมาณไขมันเลว (LDL) ในร่างกายของเรา ช่วยลดภาวะไขมันในเลือดสูงเนยถั่วช่วยให้เราอยู่ท้องได้นานมากขึ้น อย่างวันไหนที่เรากินเนยถั่ว ไม่ว่าจะกินคู่กับผลไม้ หรือทาบนขนมปังสัก 2 แผ่น จะรู้สึกได้เลยว่าอิ่มท้องนานขึ้นหลายชั่วโมง เพราะในเนยถั่วนั้นมีไขมันดี โปรตีน และไฟเบอร์อยู่ด้วย ซึ่งสารสำคัญเหล่านี้จะช่วยให้อิ่มท้องได้นานกว่า ทำให้เราควบคุมน้ำหนักได้ดีเนยถั่วช่วยชะลอความชราให้กับร่างกาย ไม่ใช่แค่ทำให้อิ่มอย่างเดียว แต่เนยถั่ว หรือถั่วเปลือกแข็งยังอุดมไปด้วยวิตามินอี และสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ที่จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังอีกชนิดหนึ่ง มีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมชราภายในเซลล์ ทำให้ร่างกายของเราแก่ช้าลง เนยถั่วเป็นแหล่งของโปรตีนชั้นเยี่ยมจากธรรมชาติ เนยถั่วประมาณ 30 กรัม ให้โปรตีนสูงถึง 8-9 กรัมเลยทีเดียว ทั้งยังเป็นโปรตีนคุณภาพดี ปราศจากคอเลสเตอรอล ร่างกายสามารถนำเอาโปรตีนเหล่านี้ไปใช้ซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ กระดูก และกระตุ้นระบบเผาผลาญให้สูงขึ้นได้อีกด้วยเนยถั่วช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม เพราะในถั่วเปลือกแข็งอุดมไปด้วยไบโอติน วิตามินอี และวิตามินบี ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับหนังศีรษะ และช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิวเนยถั่วเป็นอาหารทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ช่วยโรคเบาหวาน เพราะการกินเนยถั่วจะไม่ทำให้ระดับน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นค่าปกติ ทั้งยังมีงานวิจัยที่พบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กินเนยถั่วเป็นประจำทุกวันจะมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เนยถั่วมีส่วนช่วยบำรุงหัวใจ ด้วยสารสำคัญที่พบในเนยถั่วอย่างแมกนีเซียม วิตามินอี ไนอะซิน (Niacin)หรือวิตามินบี 3 และกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว สารเหล่านี้มีส่วนช่วยให้หัวใจทำงานได้ปกติ เนยถั่วมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เพราะมีส่วนผสมของกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ทั้งวิตามินอี วิตามินบี และสารประกอบฟีโนลิก ประเภท coumaric acid ซึ่งช่วยป้องกันเซลล์จากการเสื่อมสภาพ จึงช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งเนยถั่วช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ เพราะในเนยถั่วอุดมด้วยโพแทสเซียม (Potassium) ที่มีส่วนช่วยในเรื่องการยืดหดของกล้ามเนื้อหัวใจ รักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่างภายในร่างกาย พร้อมช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติเนยถั่วช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะจากความเครียดสะสม และไมเกรน เพราะในเนยถั่วมีทั้งวิตามินบี 3 และแมกนีเซียม ที่บำรุงสมองและเสริมการทำงานของระบบประสาท บรรเทาอาการปวดไมเกรน เนยถั่วดีจริงไหม กินแล้วอ้วนไหม เลือกกินแบบไหนถึงไม่อ้วน? ตอบได้เลยค่ะว่าการกินเนยถั่วในปริมาณที่พอเหมาะ จะไม่ทำให้เราอ้วนอย่างแน่นอน ทั้งนี้เนยถั่วที่เราเลือกซื้อควรเป็นเนยถั่วแท้ๆ ที่ไม่เพิ่มสารปรุงแต่งอื่นๆ ลงไป อย่างเช่น น้ำตาล น้ำเชื่อมข้าวโพด (Corn Syrup) สารกันเสีย น้ำมัน ฯลฯ เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลอรีมากเกินไป โดยเราจะเลือกซื้อเนยถั่วที่ไม่แต่งรสเพิ่ม มีน้ำตาลต่ำๆ อย่างที่เราซื้อประจำเลยจะเป็นยี่ห้อ Skippy (ทั้งแบบ Creamy และแบบ Superchunk) หรือเพื่อนๆ จะเลือกซื้อเนยถั่วฉบับโฮมเมดก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ เนยถั่ว กินวันละเท่าไหร่ดี? เพราะเนยถั่ว ทำมาจากถั่วที่มีไขมันเยอะ จึงทำให้มีพลังงานแคลอรีค่อนข้างสูง ปริมาณ 15 กรัม (1 ช้อนโต๊ะ) ให้พลังงาน 90 kcal หากเรากินเนยถั่ววันละ 100 กรัม ก็จะได้พลังงาน 540-600 kcal เลยทีเดียว ปริมาณการกินเนยถั่วที่แนะนำ คือ ประมาณ 15-30 กรัม ก็เพียงพอ เสริมด้วยอาหารอื่นๆ เพื่อเติมสารอาหารให้ครบหมู่เนยถั่วกินกับอะไร ถึงไม่อ้วน ถึงจะบอกว่าเนยถั่วนั้นดีต่อร่างกาย กินแล้วไม่ทำให้อ้วน แต่ถ้าเราเอาเนยถั่วไปกินกับขนมหวานฉ่ำ มันเยิ้ม แบบนี้กินอย่างไรก็อ้วนค่ะ แนะนำว่าให้กินเนยถั่วคู่กับกล้วยหอม แอปเปิล ขนมปังโฮลวีต หรือกินคู่กับข้าวโอ๊ต ก็ดีไม่น้อยข้อควรระวังในการกินเนยถั่ว คนที่มีประวัติแพ้ถั่วมาก่อน ไม่ควรกินเนยถั่ว ควรเลือกซื้อเนยถั่วที่มีคุณภาพ ผลิตอย่างมีมาตรฐาน เพื่อป้องกันปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษจากเชื้อราในถั่วไม่ควรกินเนยถั่วในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักตัวเกิน มีปัญหาด้านไขมันได้ภาพหน้าปก: ภาพที่1 โดย Karolina Grabowska from Pexels / ภาพที่2 โดย Olga Chzhu / ภาพที่3 โดย Olga Chzhu จาก canvaภาพในบทความ : ภาพที่1 โดย Towfiqu barbhuiya จาก unsplash / ภาพที่2 โดย Towfiqu barbhuiya จาก unsplash / ภาพที่ 3-5 โดย ผู้เขียน / ภาพที่6 โดย sheri silver จาก unsplashออกกำลังกายอยู่บ้านได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !