สิ่งสำคัญที่ต้องการมากที่สุดในวันที่ตัวเราหรือคนรอบข้างมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ หรือล้มป่วยลง นั่นก็คือกำลังใจค่ะ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการรักษาไม่แพ้ยาเลยทีเดียวนะคะ เพราะอย่างที่เพื่อน ๆ ทราบ มีหลายต่อหลายคนสามารถฝ่าฟันกับวันที่ร่างกายล้มป่วยลงและผ่านช่วงเวลาเหล่านี้มาได้ก็ด้วยกำลังใจนี่แหละค่ะ และวันนี้เราจะมารวบรวมวิธีการสร้างกำลังใจ ซึ่งเป็นวิธีที่ทั้งตัวผู้ป่วยเองและผู้ที่รับผิดชอบดูแลผู้ป่วยสามารถนำไปปรับใช้ได้เลยนะคะ เพื่อสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้มีกำลังใจในการดูแลรักษา และสร้างพลังใจในการที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปค่ะ (สู้!) ภาพถ่ายโดย Engin Akyurt จาก Pexels 1. ยอมรับกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เราเข้าใจนะคะว่าความรู้สึกมันเป็นอย่างไรเมื่อเห็นคนที่เรารักล้มป่วยลง มันเจ็บปวดแล้วก็เสียใจไม่แพ้ตัวผู้ป่วยเองหรอกค่ะ แต่สิ่งที่ต้องทำคือการยอมรับกับเหตุการณ์นี้ให้ได้ และให้ได้ไวที่สุดเพื่อที่จะเดินหน้าต่อนั่นเอง สำหรับผู้ป่วยนั้นก็เช่นกันนะคะ คุณต้องยอมรับเรื่องร้าย ๆ นี้ให้ได้ และไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรหรือมาจากสาเหตุใดก็แล้วแต่ พยายามอย่าโทษตัวเองและอย่ากลัวว่าตัวเองจะเป็นภาระของใคร ๆ ขอให้ยอมรับและต่อสู้กับโรคที่เจอให้เต็มที่ที่สุดเท่านั้นพอค่ะ (คนรอบ ๆ ข้างเขาพร้อมที่จะผ่านเรื่องนี้ไปกับคุณค่ะ) 2. อดทน ไม่ว่าเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับใคร ขอให้ทุกคนอดทนและต่อสู้กับมันนะคะ มองทุกอย่างในแง่ที่ดี ถึงแม้จะยากแต่อย่าบั่นทอนกำลังใจในการรักษาด้วยการคิดว่า ยังไงก็ไม่รอด ยังไงก็ตายแน่ ๆ อยากให้คิดและสร้างกำลังใจดี ๆ ให้ตัวเองนะคะ ลองพยายามหาข้อมูลของผู้ที่มีอาการป่วยคล้าย ๆ กันพร้อมดูตัวอย่างวิธีรักษาของคนที่หายเป็นปกติ และหากตรงไหนสามารถปรับใช้กับตนเองได้ก็ลองดูเลยค่ะ แต่แนะนำให้ทำการปรึกษาคุณหมอทุกครั้งก่อนนะคะ ภาพถ่ายโดย Kat Jayne จาก Pexels 3. ให้กำลังใจกันและกัน ทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแลควรให้กำลังใจกันและกันอยู่เสมอนะคะ ส่งพลังและความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กันเข้าไว้ เราว่ามันช่วยได้เยอะเลยค่ะโดยเฉพาะในวันแย่ ๆ 4. พยายามไม่วิตกกังวลจนเกินไป บางทีโรคหรืออาการที่เป็นอาจไม่ร้ายแรงนักก็อย่าวิตกกังวลไปก่อนเกินจำเป็นนะคะ ให้เชื่อใจและปฏิบัติตัวตามที่คุณหมอแนะนำ รักษาตัวตามขั้นตอนของคุณหมอจะดีที่สุดค่ะ ...ขอแนะนำเพื่อน ๆ ให้สังเกตความผิดปกติในร่างกายตัวเองด้วยนะคะ หากเป็นอะไรแล้วพบคุณหมอแต่เนิ่น ๆ อาจจะสามารถรักษาได้ทันท่วงทีมากกว่าค่ะ 5. ทำในสิ่งที่ดี ๆ ทำสิ่งที่ดี ๆ เช่นการบริจาค การช่วยเหลือผู้อื่น หรือปฏิบัติศาสนกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างผลบุญและทำให้หัวใจเบิกบาน หรือเปลี่ยนบรรยากาศจากอะไรเดิม ๆ บ้างก็อาจทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าสดชื่นขึ้นนะคะ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องเฝ้าผู้ป่วยนาน ๆ หาเวลาพักออกมาข้างนอกบ้างก็น่าจะดีค่ะ ภาพถ่ายโดย Subham Dash จาก Pexels ข้อสุดท้ายเราขอฝาก ฝากให้เพื่อน ๆ ดูแลสุขภาพให้ดีก่อนที่จะล้มป่วยลงนะคะ บางคนรู้ตัวเร็วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน พฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ทัน ร่างกายก็จะกลับมาแข็งแรงได้ไม่ยากค่ะ อย่าพยายามทำลายมันด้วยการกินของไม่มีประโยชน์ ไม่พักผ่อน ทำงานหามรุ่งหามค่ำ หรือดื่มสุรา เลยค่ะ ไม่ใช่ว่าคนเราจะไม่ป่วยหรือจะอยู่เป็นอมตะหรอกนะคะ แต่เราทุกคนต่างก็ต้องทำหน้าที่ดูแลร่างกายนี้ให้ดีที่สุด จนถึงวันหนึ่งหากเกิดอะไรขึ้นมา จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังว่ารู้อย่างงี้ดูแลตัวเองให้ดีตั้งแต่แรกดีกว่า และเราเป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะขอให้สุขภาพแข็งแรง ดูแลตัวเองและคนรอบข้างให้ดีด้วยนะ ...โชคดีค่ะ... ขอบคุณภาพปกจาก ภาพถ่ายโดย Janko Ferlic จาก Pexels